รองโฆษกรัฐบาล แถลง ครม.เห็นชอบแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูเกษตรกร เปิดช่องซื้อหนี้ที่มีบุคคลประกันได้ พร้อมขยายระยะเวลาแก้ไขโครงสร้างหนี้เกษตรอีก 5 ปี
วันนี้ (24ก.ย.) เวลา 14.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ)กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูฯ พ.ศ.2542 เนื่องจากกฎหมายขาดความยืดหยุ่นในบางมาตรา ส่งผลให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรไม่สามารถรับภาระบางประเภทได้ ตลอดจนประเด็นปัญหาวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนเกษตรกร รวมถึงการกำหนดที่ตั้งของสำนักงานใหญ่และสาขาของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่กำหนดในกฎหมายยังไม่เหมาะสม ซึ่งทำให้เกิดอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกร
น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า โดยมีสาระสำคัญในการแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ ดังนี้ 1.แก้ไขเพิ่มเติมให้กองทุนพื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสามารถรับภาระหนี้และชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของเกษตรกรที่มีบุคคลค้ำประกันได้ จากเดิมที่จะรับภาระได้เฉพาะหนี้ที่มีทรัพย์สินค้ำประกันเท่านั้น 2.แก้ไขเพิ่มเติมวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนเกษตรกรและกรณีการพ้นจากตำแหน่งตามวาระให้กรรมการนั้นปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้มีการแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ และ 3.แก้ไขเพิ่มเติมให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรมีอำนาจในการพิจารณากำหนดที่ตั้งสำนักงานใหญ่และสาขาของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรได้ จากเดิมกำหนดให้ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ เท่านั้น ซึ่งที่ดินมีราคาสูงมาก
น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า ครม.ยังเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการแก้ไขหนี้เกษตรกรตามโครงการปรับโครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตร(คปร.)และโครงการแผนฟื้นฟูการเกษตรออกไปอีก 5 ปี จากที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. 2562 ออกไปอีกถึงวันที่ 30 ก.ย.2567 โดยความจำเป็นที่ต้องขยายระยะเวลาดังกล่าวเนื่องจากโครงการปรับโครงสร้างหนี้เกษตรกรฯ เริ่มต้นในปี 2548 และมีเกษตรกรขึ้นทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ 180,947 ราย ต้นเงินกู้ 4,057.13 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 15 ปี ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมา สามารถแก้ไขหนี้สินได้ 3,214.08 ล้านบาท หรือ 76.96 เปอร์เซ็นต์ของเกษตรกร 139,917 คน คิดเป็น 79.22 เปอร์เซ็นต์ ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน เหลือที่ต้องแก้ไข 34,561ราย เงินต้น 793.32 ล้านบาท