เปิดบัญชีทรัพย์สิน “มงคลกิตติ์” มีทรัพย์สิน 180,546,539 บาท เฉพาะพระเครื่องปาไป 147.6 ล้าน พบพระกริ่งปวเรศทองคำ 3 บาทแพงสุดมูลค่า 50 ล้าน แต่มีเงินสดแค่ 4 แสน มีหนี้บ้าน-รถ 14,517,527.12 บาท แถมแจกแจงยิบยันตี่จู้เอี่ย พร้อมยื่นบัญชีเมีย 2 คน “พัทธนันท์” มีทรัพย์ 12.3 ล้าน ส่วน “ภคอร” โฆษกพรรค มีทรัพย์ 5.2 ล้าน
หลังจากที่วันนี้ (20 ก.ย.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผย บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในกรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 62 โดยมีทรัพย์สิน 192,902,325 บาท หนี้สิน 19,168,813 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 173,733,512 บาท จนเป็นที่ฮือฮากันในสังคมออนไลน์นั้น เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่านายมงคลกิตติ์มีทรัพย์สินจากพระเครื่องมากที่สุดถึง 147,650,000 บาท
โดยนายมงคลกิตติ์ได้แจ้งประวัติการทำงานย้อนหลังเป็นประธานกรรมการบริษัท ที.เอ.อี.มาร์ท กรุ๊ป จำกัด เมื่อปี 2551-2562 และเป็นประธานกรรมการบริษัท เอกลักษณ์สมุนไพรไทย จำกัด ปี 2559-2562 มีบุตรในสมรส 1 คน บุตรนอกสมรสที่รับรองแล้ว 3 คน มีพี่น้อง 5 คน มีรายได้เป็นเงินเดือน 1,320,562 บาท ค่าเช่ายานพาหนะ 489,444 บาท ขายหุ้นบริษัทจำกัด 4,499,900 บาท รวม 6,309,906 บาท มีรายจ่ายเป็นค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถยนต์ 1,869,544 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 240,000 บาท ค่าอุปการะมารดา บุตร ธิดา 540,000 บาท เงินช่วยสาธารณะ เงินทำบุญ 150,000 บาท เงินบริจาคพรรคไทยศรีวิไลย์ 2,000,000 บาท รวมรายจ่าย 4,799,544 บาท
ส่วนทรัพย์สินที่นายมงคลกิตติ์แจ้งไว้ มีเงินสด 400,000 บาท, เงินฝาก+เวนคืนกรมธรรม์ 273,923 บาท โดยมีเงินฝากอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ 12 บัญชี รวม 41,174.6 บาท กรมธรรม์ประกันชีวิต 2 ฉบับ, ประกันรถยนต์ 3 ฉบับ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 226,749.16 บาท, เงินให้กู้ยืม 4,301,015.25 บาท โดยให้นายชาติสยาม บุญภิมุข ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เดอะ เบสท โซลูชั่น จีพีอาร์เอส จำกัด กู้ 2,044,500 บาท และ น.อ.วินัย เสวกวิ แกนนำกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน กู้ 2,256,515.25 บาท, มีที่ดิน 13,800,000 บาท เป็นที่ดินหมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ 2 แห่ง และที่ดินหมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส ราชพฤกษ์ 1 แห่ง, มีโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 6,200,000 บาท เป็นบ้านในหมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ 2 แห่ง และที่ดินหมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส ราชพฤกษ์ 1 แห่ง, มีรถยนต์ 3 คัน 4,600,000 บาท เป็นรถเบนซ์ เอส 300 ปี 2013 1 คัน รถปาเจโร่ ปี 2016 1 คัน และรถฟอร์ด ปี 2014 1 คัน, สิทธิและสัมปทาน (หุ้น) 3,000,000 บาท เป็นหุ้น บ.เอกลักษณ์สมุนไพร 30,000 หุ้น
นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินอื่นรวม 147,971,500 บาท ประกอบด้วย พระกริ่งปวเรศทองคำ หนัก 3 บาท มูลค่า 50,000,000 บาท, พระร่วงหลังรางปืน จ.สุโขทัย เลี่ยมทองคำ 2 บาท มูลค่า 12,000,000 บาท, พระสมเด็จไกเซอร์ เลี่ยมทองคำ 2 บาท มูลค่า 30,000,000 บาท, พระพุทธชินราชใบเสมา เลี่ยมทองคำ 2 บาท มูลค่า 2,540,000 บาท, พระสมเด็จวัดระฆัง เลี่ยมทองคำ 1 บาท มูลค่า 40,020,000 บาท, พระรอดลำพูน เลี่ยมทองคำ 1 บาท มูลค่า 10,020,000 บาท, พระคงลำพูน เลี่ยมทองคำ 1 บาท มูลค่า 320,000 บาท , พระลือหน้ามงคล เลี่ยมทองคำ 1 บาท มูลค่า 420,000 บาท, พระยอดธง มูลค่า 2,000,000 ล้านบาท, พระพิฆเนศโบราณ เลี่ยมทองคำ 1 บาท มูลค่า 320,000 บาท และครุฑทองคำ ทองคำ 0.5 บาท มูลค่า 10,000 บาท นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาคาสิโอ 1 เรือน มูลค่า 10,000 บาทพร้อมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ ยิบย่อยภายในบ้าน 2 หลัง ตั้งแต่ตู้เสื้อผ้าไปยันตี่จู้เอี่ยรวม 49 รายการ มูลค่ารวม 302,500 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง คือ ไอโฟน 5 และซัมซุง มูลค่า 9,000 บาท รวมมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 180,546,539 บาท
ส่วนหนี้สินของนายมงคลกิตติ์ เป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 14,517,527.12 บาท โดยเป็นหนี้คงเหลือจากบ้าน 3 หลัง และรถยนต์ 3 คัน
ทั้งนี้ พบว่านายมงคลกิตติ์ได้ยื่นบัญชีคู่สมรส 2 คน คือ น.ส.พัทธนันท์ ฤทธิ์ชัยเรืองเดช ภรรยาคนแรก และอดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ และ น.ส.ภคอร จันทรคณา ภรรยาคนปัจจุบัน และโฆษกพรรคไทยศรีวิไลย์
โดย น.ส.พัทธนันท์ มีรายได้เป็นเงินเดือน 1,650,000 บาท, ค่าจัดหาบุคลากร 180,000 บาท , ค่าเลี้ยงดู 360,000 บาท, ค่าเช่ายานพาหนะ 315,324 บาท, ค่าเช่าบ้าน 645,400 บาท, ขายหุ้นบริษัท 1,989,000 บาท, ขายหุ้น SISB 68,062 บาท, ค่านายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ 165,000 บาท, ค่านายหน้าขายประกัน 50,000 บาท และ เงินปันผล เงินรางวัล 100,000 บาท รวมรายได้ 5,522,786.31 บาท ขณะที่มีรายจ่ายเป็นค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถยนต์ 960,724 บาท, ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 360,000 บาท , ค่าอุปการะ มารดา บุตร ธิดา 840,000 บาท, เงินช่วยสาธารณะ ทำบุญ 100,000 บาท เงินบริจาคพรรคไทยศรีวิไลย์ 300,000 บาท ค่าประกัน ค่าจิปาถะ 640,000 บาท รวมรายจ่ายทั้งสิ้น 3,200,724 บาท โดยมีทรัพย์สินเป็นเงินสด 3,000,000 บาท, เงินฝาก 191,441 บาท, เงินลงทุน 137,786 บาท, ที่ดินใน อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี 5,150,000 บาท, โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1,850,000 บาท, รถยนต์ 1.1 ล้านบาท และ ทรัพย์สินอื่น 920,000 บาท เป็นจำพวกเครื่องประดับ เหรียญกษาปณ์โบราณ ธนบัตรโบราณ และสุนัข 2 ตัว รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 12,349,227 บาท และมีหนี้สินเป็นสินเชื่อบ้านและรถยนต์ รวม 4,651,285 บาท
ขณะที่ น.ส.ภคอร ซึ่งนายมงคลกิตติ์ได้ยื่นบัญชีเพื่อชี้แจงมาต่างหากนั้น มีรายได้เป็นเงินเดือน 1,386,580 บาท และเงินขายหุ้น 1,450,000 บาท รวม 2,836,580.645 บาท มีรายจ่ายเป็นค่าผ่อนบ้าน 1 หลัง 325,500 บาท, ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 531,000 บาท, ค่าอุปการะมารดา 120,000 บาท ค่าทำบุญบริจาค 600,000 บาท และ ประกันชีวิต 60,000 บาท รวมรายจ่ายทั้งสิ้น 1,636,500 บาท ส่วนทรัพย์สินมีเงินสด 500,000 บาท เงินฝาก 62,720 บาท เงินให้กู้ยืม 300,000 บาท, ที่ดิน 2 ผืน ใน อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ และในเขตวังทองหลาง กทม. รวมมูลค่า 2,150,000 บาท, รถยนต์ 1,729,000 บาท, สิทธิและสัมปทาน 100 บาท และ ทรัพย์สินอื่น อาทิ พระเครื่อง, เครื่องประดับ, นาฬิกา, โทรศัพท์มือถือ, โน้ตบุ๊ก, ไอแพด และอื่นๆ รวม 521,950 บาท รวมมีทรัพย์สิน 5,263,770 บาท มีหนี้สินจากกรมบังคับคดี 350,625 บาท
