“สุทิน” ด่าปิดท้าย ฉะ “วิษณุ-บิ๊กตู่” ดึงฟ้าต่ำป้องตัวเอง ถ้าเป็นแบบนี้นายกฯ ใหม่ถวายสัตย์ฯไม่ครบก็ได้ใช่หรือไม่

“ปิยบุตร-สุทิน” ตามบี้ มือกฎหมายรัฐบาล ชี้ นายกฯ คนต่อไปกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบเหมือน “ประยุทธ์” ได้หรือไม่ จวกแรงร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ดึงฟ้าต่ำปกป้องตัวเอง

วันนี้ (18 ก.ย.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้ลุกขึ้นซักถามถึงบรรทัดฐานหากมีการถวายสัตย์ปฏิญาณในอนาคต หากข้อความไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ แต่พระมหากษัตริย์มีพระราชดำรัสตอบ ก็ถือว่าครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญแล้วใช่หรือไม่ โดยขอให้นายวิษณุชี้แจงให้ชัดเจน

นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน ลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนสุดท้าย โดยข้อสังเกตว่า ตั้งแต่รัฐบาล คสช. จงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญเป็นประจำจนมาถึงปัจจุบัน หากไม่มีการตักเตือนก็อาจจะทำผิดอีกในอนาคต ซึ่งกรณีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 เป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะบุคคลระดับนายกรัฐมนตรีไม่ทำตามกฎหมาย จึงต้องการมาสอบถาม หากยอมรับว่ามีข้อผิดพลาดก็จะได้แก้ไขให้ถูกต้อง แต่หากจงใจ ก็ควรชี้แจงเหตุผลให้เข้าใจ ซึ่งข้อความที่ขาดหายไปก็ทำให้หลายคนกังวลว่าจะเกิดการยึดอำนาจอีกในอนาคตหรือไม่ หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาจะยึดอำนาจในอนาคตจริงก็ขอให้กลับใจ หากกลับใจไม่ได้ก็ขอให้ลาออก

นายสุทิน บอกว่า การชี้แจงของนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีการชี้แจงที่เป็นประโยชน์ ทั้งประเด็นถวายสัตย์ปฏิญาณตน และแหล่งที่มารายได้ของนโยบาย จึงหวังว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะชี้แจงให้เข้าใจ แต่ก็รู้สึกผิดหวัง เพราะพูดเท็จว่าการล้วงบัตรแข็งคําถวายสัตย์ฯ ทำเช่นเดียวกันกับนายกรัฐมนตรีทุกคน ทั้งที่ต่างไปจากปกติ

ประธานวิปฝ่านค้าน ยังย้ำถึงข้อซักถามในญัตติ ว่า เหตุใดจึงกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วน แต่ไม่ได้คำตอบ และนายวิษณุพยายามทำให้เข้าใจว่า เมื่อมีพระราชดำรัสก็ถือว่าโดยสมบูรณ์แล้ว ซึ่งเรื่องนี้พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชดำรัสอยู่แล้ว ไม่ได้อยู่ในวิสัยที่จะมาชี้ว่ากระบวนการถูกหรือผิด และไม่น่าใช้เหตุผลว่าเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับพระมหากษัตริย์ เพราะการถวายสัตย์ปฏิญาณ เป็นการถวายความซื่อสัตย์ต่อพระประมุขเพื่อส่งผ่านไปยังประชาชน ว่า จะบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องตอบว่าเหตุใดจึงไม่ถวายสัตย์ปฏิญาณตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ไม่เช่นนั้นจะเป็นบรรทัดฐานใหม่ ให้สามารถถวายสัตย์ปฏิญาณตามที่สะดวกได้ โดยไม่ต้องสนใจรัฐธรรมนูญ และจะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่สร้างโดย พล.อ.ประยุทธ์ และ นายวิษณุ จนทำหลายคนคิดว่ามีการดึงฟ้าต่ำ ลงมาปกป้องตัวเอง ทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรมว่าต่อไปนี้รัฐธรรมนูญมาตรา 161 วรรคสอง ไม่มีผลบังคับใช้แล้ว และตั้งคำถามว่า หากนายกรัฐมนตรีเป็นคนอื่น จะถวายสัตย์ปฏิญาณในแบบเดียวกันได้หรือไม่” นายสุทิน ย้ำ

ทั้งนี้ การประชุมได้ยุติลงเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ที่ผ่านมา โดยนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ผู้ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้ให้เจ้าหน้าที่อ่านพระราชกฤษฎีกาปิดการประชุมรัฐสภา สมัยประชุมสามัญครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.2562 ให้สมาชิกฟัง หลังจากนั้นได้สั่งปิดการประชุม โดยจะมีการประชุมครั้งต่อไปในสมัยประชุมวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้