รองประธานวุฒิฯ เผย ส.ส.ฝ่ายค้าน-รัฐบาลเข้าชื่อตั้ง กมธ.ศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่จะแก้ประเด็นใดต้องถามประชาชนก่อน เพราะเป็น รธน.ผ่านประชามติ ส่วนประเด็นที่มา ส.ว.บทเฉพาะกาลหมดอายุภายใน 5 ปีอยู่แล้ว โดยส่วนตัวพร้อมหนุนแก้ไขหากเป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่ถ้าแก้ให้เข้าทางเฉพาะบุคคลก็ไม่เห็นด้วย
วันนี้ (9 ก.ย.) พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเสนอจัดตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีกำหนดขั้นตอนไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบถึงประเด็นหลักที่หลายฝ่ายอยากดำเนินการแก้ไข รวมถึงต้องถามความเห็นประชาชน เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ
ส่วนประเด็นที่มา ส.ว.เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักที่จะถูกแก้ไข พล.อ.สิงห์ศึกกล่าวว่า ขณะนี้ก็ยังไม่ทราบถึงประเด็นที่จะเป็นภาระให้ต้องแก้ไขที่มา ส.ว. ซึ่งที่มาตามบทเฉพาะกาลก็จะหมดอายุภายใน 5 ปีอยู่แล้ว และยังไม่รู้ว่าจะมีการแก้ไขที่มาในบทหลักมาตรา 107 ด้วยหรือไม่ แต่โดยรวมแล้วหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ตนเองก็พร้อมเห็นด้วย แต่หากแก้ไขแล้วเป็นประเด็นที่ไปเข้าที่เข้าทางเฉพาะบุคคลก็ไม่เห็นด้วย
ส่วนกรณีหลายพรรคการเมืองเสนอแนวทางให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ง่ายขึ้น พล.อ.สิงห์ศึกบอกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องเดินไปตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ ส่วนการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ และย้ำว่าหากแก้ไขประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เชื่อว่าสมาชิกวุฒิสภาไม่ขัดข้อง


