รมว.ยุติธรรม เผยประชุม 12 ก.ย.ชดเชย “บิลลี่” เสียชีวิต เชื่อ DSI อยากสร้างผลงาน ไม่มีมวยล้ม กำชับดูแลภรรยาเหยื่อ ยันปล่อยแกนนำพันธมิตรฯ พักโทษตามกฎหมาย
วันนี้ (5 ก.ย.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือเยียวยา หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้ข้อสรุปว่าการสูญหายของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย ถูกฆาตกรรมว่า กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะมีเงินค่าตอบแทนในคดีอาญาของคนที่สูญหาย ได้สั่งการให้เร่งรัดโดยคณะอนุกรรมการจะประชุมกันวันที่ 12 กันยายนนี้ โดยการชดเชยเรื่องเสียชีวิตประมาณ 80,000 บาท ส่วนการอุปการะเลี้ยงดูบุคคลที่เกี่ยวข้องประมาณ 40,000 บาท ส่วนเงินการทำศพและค่าใช้จ่ายอื่นใดต้องดูจากข้อเท็จจริงว่าได้ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว ส่วนเงินค่าชดเชยกรณีล่าช้าต้องดูรายละเอียด เนื่องจากกรณีของนายบิลลี่สูญหายตั้งแต่ปี 2557 แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รับไว้เป็นคดีปี 2561 ก็ทำงานเต็มที่
ส่วนข้อสังเกตว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับคดีนั้น นายสมศักดิ์บอกว่า เรื่องนี้ต้องดูต่อไปว่าเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าดีเอสมีความตั้งใจทำงานและอยากสร้างผลงานออกมา กรณีมวยล้มจึงไม่น่าเป็นไปได้ ส่วนกรณีภรรยานายบิลลี่ยังรู้สึกไม่ปลอดภัยแม้มีมาตรการคุ้มกันพยานนั้น ก็จะมีการกำชับดีเอสไอให้สร้างความสบายใจให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ย้ำว่าหลังจากวันที่ 12 กันยายนนี้จะมีความชัดเจนและจะเร่งจ่ายเงินเยียวยา ซึ่งไม่เกี่ยวกับการต้องพิสูจน์ว่าเป็นการกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ เนื่องจากกรณีคนหายเป็นเรื่องที่สามารถชดเชยได้อยู่แล้ว รวมถึงมีกองทุนยุติธรรมเพื่อช่วยเหลือเรื่องทนายความและค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ
นายสมศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีกรมราชทัณฑ์ปล่อยตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ถูกวิจารณ์เป็นการช่วยเหลือทางการเมืองว่า กรณีของนายสนธิเป็นการพักโทษตามเงื่อนไขกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับการตัดสินใจของปลัดกระทรวง หรือรัฐมนตรี กรมราชทัณฑ์สามารถปล่อยตัวได้ นายสนธิมีโทษ 20 ปี แต่อยู่ในที่คุมขังเพียง 3 ปี 1 เดือนเท่านั้น ฟังแล้วอาจดูตกใจ แต่ตามหลักเกณฑ์แล้วหากเป็นนักโทษประพฤติดีก็จะได้รับการพักโทษตามกฎหมาย สามารถใช้ชีวิตด้านนอกได้