เลขาฯ อนาคตใหม่ ยันคดี “ธนาธร” ต้องมีการไต่สวนเช่นเดียวกับกรณี “ดอน” ชี้คำสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ ต่างจากคนอื่นที่เป็นกรณีหุ้นสื่อเหมือนกัน ยันพรรคไม่ได้เป็นต้นเหตุแบ่งตำแหน่ง กมธ.ไม่ลงตัว
วันนี้ (4 ก.ย.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยกเลิกคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว โดยศาลรัฐธรรมนูญยืนยันตามคำสั่งเดิมให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ว่าเป็นการยื่นคำร้องโดยเทียบเคียงจากกรณีรัฐมนตรี และ ส.ส. คนอื่นๆ ที่มีกรณีถือหุ้นสื่อแต่ศาลไม่ได้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งกรณีของนายธนาธรเป็นกรณีเดียวเท่านั้นที่ศาลสั่งยืนยันให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ซึ่งก็ต้องเคารพคำสั่งศาล ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณา ว่า จะมีการไต่สวนพยานหลักฐานกรณีของนายธนาธรหรือไม่ โดยแจ้งความชัดเจนอีกทีวันที่ 11 ก.ย.นี้
“พรรคอนาคตใหม่เห็นว่าคดีนี้จำเป็นต้องมีการไต่สวน เพราะไม่ใช่ประเด็นข้อกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องที่เป็นประเด็นข้อเท็จจริงด้วย และยังมีพยานหลักฐานจำนวนมากที่จำเป็นจะต้องพิจารณา ซึ่งนายธนาธรได้ยื่นเอกสารชี้แจงทั้งหมด 70 หน้า เอกสารประกอบพิจารณาอีกกว่า 50 หน้า ขณะที่ฝ่ายผู้ร้อง คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ทำหนังสือชี้แจงโต้แย้งเพียง 4 หน้ากระดาษเท่านั้น จึงเสนอขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติกำหนดวันไต่สวนพยานหลักฐานก่อนจะวินิจฉัย เช่นเดียวกับกรณี นายดอน ปรมัตถ์วินัย สมัยดำรงตำแหน่งในรัฐบาล คสช.” นายปิยบุตรกล่าว
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ยังชี้แจงกรณีข่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ต้องการตำแหน่งประธานกรรมาธิการสำคัญหลายคณะ จนมีปัญหาตกลงกับฝ่ายรัฐบาลไม่ได้ว่า จากรายชื่อที่ปรากฏเป็นข่าว มีตรงบ้างและไม่ตรงบ้าง ซึ่งตามโควตาจำนวน ส.ส.ที่ได้พรรคอนาคตใหม่ มีสิทธิ์เป็นประธานคณะกรรมาธิการ 6 ชุด และยังไม่มีการตกลงเจรจาอะไรกับทางรัฐบาล โดยวันศุกร์นี้ (6 ก.ย.) ทางเลขาธิการสำนักงานสภาผู้แทนราษฎรจะทำหนังสือเชิญแต่ละพรรคไปนั่งพูดคุยถึงการจัดสรรตำแหน่งกรรมาธิการ
“ผมยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้เป็นต้นเหตุแบ่งตำแหน่งไม่ลงตัว เพราะยังไม่มีการตกลงกันจริงๆ โดยวันศุกร์นี้จึงจะมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ” นายปิยบุตรกล่าว