“ลุงตู่”พบประชาชนรีเทิร์น-ของมันจำเป็นต้องมี !?

เมืองไทย 360 องศา





ได้เห็นความเคลื่อนไหวของ เทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ และเคยแย้มออกมาอย่างต่อเนื่องว่ากำลังหาแนวทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กลับมาจัดรายการ “พบประชาชน” ทั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์อีกครั้ง โดยกำลังอยู่ในขั้นหารูปแบบที่นำเสนอให้นายกรัฐมนตรีเลือกว่าจะเป็นแบบไหนที่คิดว่ามีความเหมาะสมที่สุด

แม้ว่าที่ผ่านมาในช่วงหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ๆ จะมีความพยายามเสนอเรื่องนี้มาแล้ว เพียงแต่ว่าในเวลานี้ “ไทม์มิ่ง” อาจยังไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงมีท่าทีเบรกเอาไว้ก่อน แต่เมื่อมาถึงวันนี้เชื่อว่า น่าจะถึงเวลาและมีความจำเป็นต้องมีรายการ “นายกฯพบประชาชน” กันแล้ว อย่างน้อยก็เพื่อประชาสัมพันธ์เชิงรุก เป็นการสร้างผลงานให้กับฝ่ายรัฐบาล เพียงแต่ว่าต้องจัดรูปแบบรายการแบบไหนให้ทันสมัยและน่าสนใจเท่านั้น ซึ่ง เทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯกำลังพิจารณาก่อนนำเสนอนั่นแหละ

อีกทั้งในเวลานี้รัฐบาลก็มี “ทีมโฆษก” อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็น “ทีมผู้หญิงล้วน” ที่กระจายมาจากพรรคร่วมหลัก ก็ถือว่ามีความโดดเด่นใช้ได้ โดยเฉพาะ ตัวโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่มักมีรายการแถลงเกี่ยวกับภารกิจและความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอย่างถี่ยิบ ต่อเนื่อง เรียกว่า “เก็บทุกเม็ด”ก็ว่าได้ อย่างไรก็ดีนั่นเป็นการแถลง หรือใช้วิธีสื่อสารผ่านทางโชเชียลมีเดียตามยุคสมัย

อย่างไรก็ดีหากพิจารณากันในบางมุมความน่าสนใจ หรือน้ำหนักอาจจะสู้การนำเสนอที่ผ่านทางตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีโดยตรงก็เป็นได้ ซึ่งจะว่าไปแล้วรายการนายกฯพบประชาชน หรือการนำเสนอผลงานของรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีในหลากหลายรูปแบบหลากหลายชื่อรายการที่นำเสนอผ่านทางวิทยุโทรทัศน์ โดยเริ่มในยุครัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ที่นำเสนอผ่านทางวิทยุ ซึ่งในตอนนั้นถือว่าเป็นการสื่อสารที่ได้ผล เพราะเขารู้จักเปิดประเด็นใหม่ เป็นข่าวได้ทุกสัปดาห์

แต่ถึงอย่างไรในยุคนั้นกับยุคปัจจุบันอาจไม่เหมือนกัน วิธีการนำเสนอแบบนั้นอาจตกยุคสมัยไปแล้วก็ได้ เพราะในปัจจุบันยุค “ดิจิตอล” เป็นโลกโซเชียล ที่ทุกคนสามารถเป็นสื่อกันได้หมด เพียงแต่ว่าสำหรับนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้นำประเทศ บริหารรัฐบาลก็ต้องมีความจำเป็นที่จะต้องมีการนำเสนอผลงาน นโยบายรัฐบาล ข่าวสารที่จะต้องสื่อสารกับชาวบ้าน อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นการชี้แจงข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ที่อาจจะเกิดจากใครก็ตามด้วยความจงใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ได้

แม้ว่าสำหรับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเคยจัดรายการในแบบนายกฯพบประชาชนจนกระทั่งเปลี่ยนแปลงล่าสุดมาเป็นรายการ “ศาสตร์พระราชาฯ” มานานกว่า 5 ปี นับตั้งแต่เข้าควบคุมอำนาจในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพิ่งจะลาจอไปไม่นาน หลังสิ้นสุดรัฐบาลชุดที่แล้ว

ต้องยอมรับว่าในช่วงปีท้ายๆของรายการที่นำเสนอโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงที่ยังเป็นนายกฯควบเก้าอี้หัวหน้า คสช.นั้นความสนใจจากประชาชนถดถอยลงไปมาก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะรูปแบบการนำเสนอไม่ค่อยน่าสนใจ ไม่ค่อยทันสมัยหรือ ไม่ถูกอกถูกใจคนในยุคโซเชียลฯ ซึ่งอาจเป็นเพราะทีมงานไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์ของสังคม จนเกิดการล้อเลียนต่างๆนานา จนแม้กระทั่งตัว “ลุงตู่”เอง เคยพูดด้วยความน้อยใจ โดยเรียกร้องให้ช่วยกันติดตาม เนื่องจากเห็นว่าเป็นการนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านโดยตรง

แต่ล่าสุดเมื่อได้เห็นความเคลื่อนไหวของ เทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ และ อสมท.ที่กำลังปัดฝุ่นรายการ “นายกฯพบประชาชน” โดยจะนำเสนอรายการในรูปแบบใหม่ ที่ทันสมัย โดยอยู่ในขั้นตอนการนำเสนอรายการให้นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาตัดสินใจว่าจะเป็นแบบไหน แต่เชื่อว่ารายการดังกล่าวน่าจะต้องกลับมาคืนจออีกครั้ง ส่วนจะเป็นรูปแบบไหน วันไหนก็ต้องติดตาม

เพราะแม้ว่าจะมีการสื่อสารผ่านช่องทางในโลกโซเชียลฯ ในหลายรูปแบบแล้วก็ตาม แต่สำหรับการเป็นผู้นำรัฐบาล ที่ต้องนำเสนอนโยบาย ผลงาน และการสื่อสารกับประชาชนในอีกช่องทางผ่านสื่อหลัก มันก็น่าจะมีความจำเป็น และที่สำคัญยังเป็นการ “เปิดเกมรุก” ทางการเมืองได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งในเมื่อเป็นรูปแบบของพรรคการเมืองก็ยอมมีบุคลากรที่มีความเข้าใจและเชี่ยวชาญทางด้านนี้ไม่น้อย เพียงแต่ว่าจะสามารถปรับปรุงให้น่าสนใจได้อย่างไรเท่านั้น  
 
เมื่อพิจารณาตามรูปการแล้วเชื่อว่า “ลุงตู่ รีเทิร์น” หน้าจออีกรอบแน่ เชื่อเถอะ !!