นายกฯ พอใจการแก้ปัญหาค้างาช้าง ชี้ไซเตสชื่นชมไทยเป็นตัวอย่างที่ดี มีบทบาทนำในภูมิภาค
วันนี้ (24 ส.ค.) ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พอใจการดำเนินงานแก้ไขปัญหางาช้างผิดกฎหมาย หลังจากประเทศไทยพ้นจากบัญชีดำรายการประเทศที่ลักลอบค้างาช้างของไซเตสเมื่อปีที่แล้ว และขณะนี้มีการประชุมไซเตส ครั้งที่ 18 ระหว่างวันที่ 17-28 ส.ค.62 ที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณารายงานการวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบสารสนเทศการค้าช้าง (ETIS Report) ใช้ข้อมูลปี 2558-2560 ปรากฏว่า ประเทศไทยไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการค้างาช้างผิดกฎหมาย ส่งผลให้ไทยหลุดพ้นจากประเทศที่ต้องพัฒนาและดำเนินการตามแผนปฏิบัติการงาช้าง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่าที่ผ่านมาประเทศไทยไม่มีคดีค้างาช้างลอตใหญ่ มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้น แม้จะพบว่ายังมีตลาดค้างาช้างอยู่บ้าง แต่ก็มีมาตรการควบคุมอย่างรัดกุม ที่สำคัญรัฐบาลได้ปรับปรุง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฉบับล่าสุด ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือน พ.ย.62 โดยกฎหมายใหม่จะช่วยให้การปฏิบัติตามอนุสัญญาไซเตสมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะมีการกำหนดชนิดพันธุ์สัตว์ที่ได้รับความคุ้มครอง และบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น และการพ้นจากบัญชีดำยังช่วยลดความเสี่ยงด้านการค้าพืชและสัตว์อีกกว่า 35,000 ชนิด เช่น กล้วยไม้ และไม้มีค่าอื่น ๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานว่า เลขาธิการไซเตสได้แสดงความชื่นชมประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติตามอนุสัญญาไซเตส และมีบทบาทอย่างชัดเจนในการเป็นผู้นำของภูมิภาค และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประเทศอื่น โดยยืนยันว่ารัฐบาลไทยจะสนับสนุนการดำเนินงานของไซเตส เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป