ส.ส.เสรีรวมไทย ตั้งกระทู้สด ปมเหมืองแร่ทำปชช.เดือดร้อน ขอประทานบัตรไม่ถูกต้อง โกงขั้นตอนประชาพิจารณ์ จนท.หากินเงินทอน ขอยกเลิก "สุริยะ" แจงยังอยู่ขั้นขออนุญาต โยนอำนาจอธิบดี แต่จะควบคุมเต็มที่ มีเงื่อนงำพร้อมตั้งกก.สอบ
วันนี้ (21ส.ค.) นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ตั้งกระทู้สดถาม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในต.ป่าคำหลาย จว.มุกดาหาร จากการทำเหมืองแร่หรือระเบิดหินของบริษัทเอกชน ว่า จากที่บริษัทเอกชนยื่นคำขอประทานบัตรและขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมู แปลงที่ 2 แต่ประชาชนต.คำป่าหลายได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ขั้นตอนและหลักเกณฑ์วิธีการยื่นคำขอประทานบัตรไม่ถูกต้อง โดยบริษัทดังกล่าวได้อ้างว่ามีการทำประชาพิจารณ์ แต่ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้มีส่วนร่วมและรับทราบข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด ทำให้เกิดผลกระทบต่อการใช้น้ำอุปโภค บริโภคและปัญหามลพิษต่อประชาชนอย่างร้ายแรง ดังนั้น สมควรได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน และอยากทราบว่ากระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการตรวจสอบ สั่งการ เพื่อพิจารณาทบทวนการยื่นขอประทานบัตรกับบริษัทเอกชนหรือไม่ อย่างไร
ด้านนายสุริยะ ชี้แจงว่าการอนุญาตสัมปทานบัตร ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนยื่นคำขอ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมยังไม่ได้อนุญาตให้ทำเหมืองนี้ แต่ขอยืนยันว่าเรื่องสิ่งแวดล้อม หรือเรื่องผลกระทบต่อชาวบ้านตนให้ความสำคัญที่สุด แต่เดิมการขออนุญาตสัมปทานบัตรทำเหมืองจะต้องยื่นมาที่ตัวรัฐมนตรีโดยตรง แต่ขณะนี้พรบ.แร่ฉบับใหม่ กำหนดให้การอนุญาตไปอยู่ที่กรมพัฒนาพื้นฐานและเหมืองแร่ โดยอำนาจอยู่ที่อธิบดี และกรมเหมืองแร่ แต่ตนก็ได้กำชับอธิบดีว่าเรื่องจะอนุญาต การระเบิดหินต่างๆต้องทำด้วยความระมัดระวัง หากมีการร้องเรียนมาและตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่ไม่รอบคอบ ตนจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทันที
นพ.ประสงค์ ถามต่อว่า ตนยินดีที่รัฐมนตรีเกิดในยุคประชาธิปไตย เพราะจากที่ตนได้ตรวจเยี่ยมประชาชนในพื้นที่สภาพน่าสงสาร แม้จะมีการจัดทำประชาพิจารณ์ แต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็ทำการปลอมลายเซ็นต์ บางครั้งก็มีบุคคลไปข่มขู่ บางครั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ไปบอกว่าต้องยึดพื้นที่เพราะเป็นการทวงคืนผืนป่า แม้ประชาชนจะโต้แย้งว่าให้ไปทวงกับนายทุน และ ยังมีบัตรสงเคราะห์คนจนจากรัฐบาลด้วย แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังยืนยันว่าเป็นนายทุนและสั่งโค่นต้นยาง ทำทุกอย่างเพื่อให้การทำประชาพิจารณ์ถูกต้องที่สุด ตนจึงต้องพึ่งรัฐมนตรียุคประชาธิปไตย เพราะตอนนี้ไม่มีม.44 แล้ว หากมีความไม่ชอบมาพากลก็ขอให้ยับยั้ง และขอถามว่าจะชี้แจงนโยบาย และมาตรการไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ซ้ำซากในหลายจังหวัดได้อย่างไร
นายสุริยะกล่าวตอบ หากมีการอนุญาตให้ทำเหมืองนี้ ตนจะมีการตรวจสอบและกำกับดูแลให้เป็นตามกฎหมายและเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่การป้องกันผลกระทบ การป้องกันฝุ่นจากการขนส่ง เช่นการฉีดพรมน้ำรถบรรทุก เป็นต้น และจะมีการจัดตั้ง3 กองทุน คือกองทุนหลักประกันฟื้นฟูสภาพพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมืองและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ กองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ และกองทุนดูแลสุขภาพประชาชนกรณีแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบ จะมีการตรวจสอบและสั่งให้หยุดทำเหมืองทันทีและแก้ไขฟื้นฟูแหล่งน้ำให้ตามเดิม
ส่วนเรื่องที่มีการทำประชาพิจารณ์ ที่มีข้อกล่าวหาว่าไม่ได้ทำถูกต้องถามกรรมวิธีนั้น ไม่ใช่เฉพาะโครงการนี้ ยังมีข้อกล่าวหากับโครงการอื่นๆด้วย ซึ่งในกรณีนี้ตนจะขอตรวจสอบอีกครั้ง
นพ.ประสงค์ถามคำถามสุดท้ายว่า รัฐบาลประกาศว่าจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือการทรับเงินทอน หรือการคอรัปชั่น แต่ระดับรัฐบาลตนเชื่อมือว่านั้นคงไม่มีเพราะอยู่สูงแล้ว แต่กับเจ้าหน้าที่มีทุจริตทุกระดับ ตั้งแต่หมู่บ้าน อำเภอ และจังหวัด ตนเชื่อว่าคนเหล่านี้ต้องเห็นใจชาวบ้านในพื้นที่แต่ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นมันไม่เว้น ดังนั้นข้อมูลเท็จต่างๆที่เกิดขึ้นต้องมาจากผลประโยชน์ การคอรัปชั่น ตนเชื่อมือรัฐมนตรี แต่จะตามติดไม่หยุดยั้งกับพวกหาเงินทอนเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและนายทุน หากมีเหตุผลที่จะหยุดยั้งไม่ให้เกิดการทำเหมืองแร่ในพื้นที่นี้ได้ จะเป็นผลประโยช์สูงสุดกับประชาชน ตนจะกราบขอบคุณนายสุริยะอย่างที่สุด
อย่างไรก็ตามนายสุริยะได้ตอบทิ้งท้ายว่า ในเรื่องนโยบายการปราบปรามการทุจริตนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ถือเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องป้องกัน และเชื่อว่าสมาชิกทุกคนก็เห็น ส่วนที่ว่าได้ข้อมูลว่าระดับต่างๆมีเรื่องทุจริต หากพบว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับการอนุมัติ ของอุตสาหกรรมจังหวัดไม่ตรงไปตรงขอให้ส่งมายังตน จะรีบดำเนินการจัดการให้ทันที