“วิรัช” ย้ำ ร่างข้อบังคับประชุมสภาฯ ไม่ใช่เรื่องรัฐบาล – ฝ่ายค้าน วอนประธานฯ ทอดระยะเวลาให้สมาชิกโหวตทัน ด้าน “สุชาติ” สั่งเพิ่มลำโพงแก้ปัญหาสมาชิกไม่ได้ยินเสียงในห้องประชุม กลัวอายใครเห็นวิทยุทรานซิสเตอร์
วันนี้(15 ส.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่รัฐสภา เกียกกาย มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ต่อเนื่องจากวานนี้ โดยก่อนเข้าสู่การพิจารณาร่างข้อบังคับฯ ข้อที่ 14 นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นชี้แจงถึงผลการลงมติข้อบังคับฯ ข้อที่ 13 ที่ กมธ.เสียงข้างมากแพ้โหวต กมธ.เสียงข้างน้อย ว่าสภาตั้งคณะ กมธ. รวม 39 คน ในการดำเนินการยกร่างข้อบังคับฯ ก่อนนำมาพิจารณาในที่ประชุมใหญ่ บางครั้งความเห็นสมาชิกอาจไม่ตรงกับ กมธ. ขณะเดียวกัน ได้มีการตกลงกันในหลักใหญ่ๆว่าจะลงมติเห็นชอบตาม กมธ.เสียงข้างมาก อย่างไรก็ตาม ปรากฎว่าสิ่งที่สื่อสารออกไปภายนอก ทำให้สังคมเข้าใจว่าเป็นการโหวตระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน ซึ่งที่จริงร่างข้อบังคับฯ ในสภาไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล หากเป็นเรื่องของรัฐบาลต้องเป็นกฎหมายหรือญัตติ
ส่วนเรื่องกริ่งที่ใช้ในการสื่อสาร ตนขอให้ประธานฯ ทิ้งระยะเวลาก่อนการลงมติให้นานกว่านี้ เพราะเมื่อสมาชิกพ้นจากห้องประชุมไป ระหว่างทางเดินจะไม่ได้ยินเสียงในห้องประชุม สมาชิกหลายคนออกไปผ่อนคลายอิริยาบถ อาจจะขึ้นมาลงมติไม่ทันเพราะต้องรอลิฟท์ยังไม่มีบันไดสภาพจึงเป็นเช่นนี้ นอกจากนี้ การลงมติวานนี้ สมาชิกหลายคนไม่มีชื่อในผลโหวต ดังนั้น การโหวตแต่ละครั้งหากอันไหนดูว่าคะแนนสูสีหรืออาจจะสับสน ก็อยากให้ประธานฯ ใช้วิธีอื่นนอกเหนือจากลักษณะที่กดบัตร
ด้าน นายสุชาติ ยอมรับว่า การลงมติช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจมีปัญหามาก ดังนั้น จากนี้ช่วงการลงมติทั้งหลาย ขอให้เจ้าหน้าที่พิมพ์รายชื่อมอบให้วิปแต่ละพรรคไปตรวจสอบ ว่าสมาชิกแต่ละคนของพรรคลงมติตรงกับที่ลงในระบบหรือไม่ เพราะหากผิดพลาดจะไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนจะตรวจสอบระบบการลงคะแนนด้วย ทั้งนี้ ตนจะให้เวลาเพื่อที่จะลงมติได้ทัน ส่วนปัญหาเรื่องเสียงในห้องประชุม ได้มีการสั่งการให้ฝ่ายเลขาฯ ดำเนินการตั้งลำโพงเพิ่ม เพราะหากใครมาเห็นวิทยุธานินทร์จะอายเขา เพื่อที่เสียงจะได้ดังไปทั่วที่สมาชิกอยู่รอบรัฐสภา