พรรคเสรี-พท.-อนค.พร้อมใจกระหน่ำ “ประยุทธ์” ปมถวายสัตย์ฯ จี้เจ้าตัวเคลียร์จะมาตอบเมื่อไหร่ “ปิยบุตร” อ้างช่วยกันหาทางออก คิดล้มนายกฯ คงเปิดซักฟอกแทน
วันนี้ (14 ส.ค.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ส.ส.ฝ่ายค้านหลายรายหารือถึงประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ถวายสัตย์ฯ ไม่ครบถ้วนตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ เช่น นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กรณีการถวายสัตย์ฯ ไม่ครบถ้วนถือว่าไม่รับผิดชอบต่อความรู้สึกประชาชน ทั้งที่เคยนำถวายสัตย์ฯ มาหลายครั้งแต่ไม่เคยผิดเลยเพราะอ่านตามคำถวายสัตย์ที่เตรียมมาอย่างดี แต่ครั้งนี้หยิบมาจากประเป๋าเล็กๆ ซึ่งไม่มีข้อความเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญเหมือนเตรียมมาเอง
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย หารือว่าหากนายกฯ ไม่มาตอบเป็นห่วงว่าจะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นผลกระทบจาก ครม.หรือไม่ เพราะสังเกตว่ามติ ครม.ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีเรื่องเศรษฐกิจเลย จึงอยากให้กำหนดเวลาว่าหากไม่มาตอบ 3 ครั้งให้ทำหนังสือแจ้งมาตอบ หากรอกระบวนการทางผู้ตรวจการแผ่นดินส่งไปยังศาลวินิจฉัยอาจไม่ทันการและขอให้ทำกระทู้แจ้งล่วงหน้า 1 วันได้หรือไม่ ซึ่งขอบอกโจทย์ล่วงหน้าเลยว่าสัปดาห์หน้าจะถามเรื่องการถวายสัตย์ฯ และผลกระทบทางเศรษฐกิจนับจากระเบิดหลายจุด
ส่วนนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พยายามตั้งกระทู้สด 2 ครั้งแล้วซึ่งในข้อบังคับ 147 เขียนว่านายกฯ หรือรัฐมนตรีที่ถูกตั้งกระทู้ถามต้องมาตอบเว้นแต่มีเหตุจำเป็นต้องแจ้งเป็นหนังสือต่อประชุมสภาระบุว่าจะมาตอบได้เมื่อไหร่ นายกฯ อาจติดภารกิจจริงแต้ต้องแจ้งเหตุผลให้ประธานแจ้ง ส.ส.ทราบด้วยแล้วต้องกำหนดว่าจะมาตอบเมื่อไหร่ การตั้งข้อหารือเรื่องนี้อยากให้ ครม.ถวายสัตย์ฯ โดยสมบูรณ์ตอบมาว่าครบหรือไม่ ถ้าตอบว่าไม่ครบจะได้ช่วยกันหาทางออกเริ่มต้นกระบวนการใหม่ หากคิดล้มนายกฯ คงเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว
ด้านนายศุภชัยชี้แจงว่า การตั้งกระทู้ถามสดต้องทำภายในวันที่จะมีการประชุม ทำล่วงหน้าไม่ได้มิเช่นนั้นจะทำให้รัฐมนตรีทราบล่วงหน้า ส่วนในเรื่องข้อบังคับที่อ้างถึงนั้นควรไปแก้และกำหนดให้ชัดเจนในส่วนนี้ด้วย
ทั้งนี้ ระหว่างการอภิปรายของนายวิรัตน์ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงขอให้ประธานควบคุมการหารืออภิปรายให้ตรงประเด็น เพราะไม่ควรพูดเรื่องสถาบันฯ หรือศาสนา ถ้าประธานอนุญาตต้องรับผิดชอบ ด้านนายศุภชัยวินิจฉัยว่าถือว่านำข้อสงสัยของประชาชนมาหารือสามารถทำได้ แต่ต้องระมัดระวังคำพูดด้วย
