xs
xsm
sm
md
lg

“เจ้าขุน ลูกพ่อเจ” ชูนิ้วกลางในรายการเรียลิตี้ “10 Fight 10” ยังมี “อองตวน ปินโต” ท้าชกกับใครก็ได้ ...ก่อกระแสดรามาในโซเชียลฯ เข้าทาง “เสี่ยตา” เวิร์คพอยท์ ** “เต้ มงคลกิตติ์” เปลี่ยนสถานะเป็นฝ่ายค้านอิสระ เพราะผู้ใหญ่ใน พปชร.ไม่รักษาสัจจะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ข่าวปนคน คนปนข่าว



** “เจ้าขุน ลูกพ่อเจ” ชูนิ้วกลาง แย่งไมค์พิธีกรบนเวที หลังพ่ายน็อกในรายการเรียลิตี้ “10 Fight 10” ยังมี “อองตวน ปินโต” ท้าชกกับใครก็ได้ ต่อให้ 3 รุม 1 แถมจะใช้มือซ้ายข้างเดียว... ก่อกระแสดรามาในโซเชียลฯ จนลามไปถึงคนนอกวงการกำปั้น อย่าง “เป๊ก สัณชัย” ต้องโดดเข้ามาร่วมแจม ...งานนี้เลยเข้าทาง “เสี่ยตา” เวิร์คพอยท์

กลายเป็นกระแสดรามาที่สนั่นไปทั้งโซเชียล สะเทือนไปทั้งทวิตเตอร์ สำหรับรายการเรียลิตี้ “10 Fight 10” ที่จับเอาหนุ่มหล่อคนดังมาชกกัน ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ ของ “เสี่ยตา” ปัญญา นิรันดร์กุล โดย “เจ” เจตริน วรรธนะสิน เป็นโปรโมเตอร์ ... ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมาเป็นการพบกันระหว่าง “เจ้าขุน จักรภัทร” ลูกชายของ เจ เจตริน ปะทะ “แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์” นักแสดงหนุ่มที่สร้างชื่อเสียงจากละครซีรีส์เรื่อง “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ซึ่งฝ่าย “แบงค์” สามารถเอาชนะน็อก “เจ้าขุน ลูกพ่อเจ” ได้ในยกที่ 2 และในจังหวะหนึ่งหลังการชกเสร็จสิ้น “เจ้าขุน” ก็ได้แย่งไมค์ “กันต์ กันตถาวร” ที่ทำหน้าที่พิธีกรอยู่บนเวที ไปพูดระบายอารมณ์ แถมยังชูนิ้วกลางหราบนเวที ทำนองว่าไม่พอใจกรรมการที่จับให้ตนเองแพ้ ทั้งที่ยังชกได้อยู่ ...ขณะที่ “กันต์” ถึงกับหลุดประโยคที่ว่า ขนาด “ปัญญา นิรันดร์กุล” ยังไม่กล้าดึงไมค์จากผมเลย...

เรื่องนี้ ในโลกโซเชียลฯ ต่างวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของ “เจ้าขุน” ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเอาซะเลย ไม่รู้แพ้ รู้ชนะ และไร้มารยาท ...
 ธิติ มหาโยธารักษ์ - เจ้าขุน จักรภัทร
ยังไม่จบ ... บนเวทียังมีดรามาต่อ เมื่อ “อองตวน ปินโต” อดีตนักชกคนดัง ที่กำลังมีปัญหา “หัวใจแล้งความรัก” ซึ่งมารับบทเป็นโค้ชให้กับ “เจ้าขุน” ก็ขึ้นมาประกาศกลางเวที แสดงอาการคันไม้คันมืออยากชกแทนนักมวยที่ตัวเองเทรนมากับมือว่า...

“โอ๊ย ผมของขึ้น ผมอยากชกอะ ทำไงดี ทำไงดีอะ อยากชก คือมวยผมก็เลิกแล้ว 3 ปีไม่ได้ชก ไม่ได้ซ้อม มันจะมีใครอยากชกกับผมไหม ผมต่อให้ 3 รุม 1 ยังไม่พอ ผมต่อให้ใช้มือซ้ายข้างเดียวได้ไหม”...

คำประกาศของ “อองตวน” ทำให้ “สมจิตร จงจอหอ” นักชกฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกทีมชาติไทย ที่ยืนอยู่บนเวทีด้วย ถึงกับแสดงสีหน้า “เหวอ...อีหยังวะ” ก่อนเดินเลี่ยงออกไป ...

ขณะที่แฟนมวยและคนในวงการกำปั้น ต่างก็แสดงความไม่พอใจกับคำพูดแบบออกตัวแรงของ “อองตวน” กันเป็นจำนวนมาก ... ในจำนวนนี้ก็มี “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์แถวหน้าของวงการมวยไทย เจ้าของค่ายเพชรยินดี บ็อกซิ่ง ที่อดรนทนไม่ไหว ออกมาร่วมวงดรามาด้วย ...ประกาศรับคำท้าของ “อองตวน” พร้อมจัดให้อย่างสาสม โดยจะให้ชกกับ “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี่” ยอดมวยในสังกัด แบบตัวต่อตัว ไม่ต้อง 3 รุม 1 ด้วย

“ผมเอาจริง ให้ค่าตัว 4 แสนบาท น้ำหนักต่อให้สองกิโลกรัม 70/72 กิโลกรัม ต่อยตามกติกามวยไทย 5 ยก อย่าไปท้าดารา เขาไม่ใช่นักมวย # สนใจทักมา #อยากได้อะไรเพิ่มเสนอมา #พร้อมพิจารณาทุกกรณี” ...
อองตวน ปินโต - ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ - สัณชัย เองตระกูล - ปัญญา นิรันดร์กุล
อีกคน ที่แม้จะไม่ได้อยู่ในวงการมวย แต่ก็รู้สึก “หมั่นตับ” กับคำพูดคำโตของ “อองตวน” ... เขาคนนั้นก็คือ “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล คนโตตัวเล็ก สามีของ “ธัญญ่า” ธัญเรศ เองตระกูล ถึงกับโพสต์ข้อความผ่านไอจี ว่า... “มึงอยากชก? แต่กูอยากยิงมึงว่ะ เดินให้ถึงกูนะไอ้สัด ปากดีนะมึง เป็นฝรั่งอยากเสือกพูดไทย ถ้าจะพูดไทย ให้มีมารยาทสัมมาคารวะความเป็นไทยหน่อย ไอ้คว. @ แม่งชื่อไรวะ ไอเย.แม่ ของขึ้น เดี๋ยวมึง อยากลองก็ติดต่อมา มึงชก กูยิง” ...

รายการ เรียลิตี้ “10 Fight 10” ที่ จับเอาดาราคนดังมาชกกันบนเวที แบ่งเป็นทีมสีขาว กับทีมสีดำ ฝ่ายละ 10 คน ...กองเชียร์ในห้องส่ง ส่วนใหญ่ก็เป็นพรรคพวก เพื่อนดารา แม้รายการจะโฆษณาว่าเป็นการชกจริง แต่ใครได้ดูก็จะรู้ว่าไม่ต่างอะไรจากรายการบันเทิงรายการหนึ่ง... ส่วน “เรตติ้ง” ที่ผ่านมาก็ไม่ได้เปรี้ยง ปัง อะไรมากมาย จะมาพลิกก็ตรงคู่สุดท้ายปิดซีซันนี่เอง ที่มีกระแสดรามา ไม่ว่าจะเป็นตัว “เจ้าขุน” หรืออดีตนักชก “อองตวน ปินโต” ที่ออกมาคุยคำโต ทำเอา “เสี่ยโบ๊ท” โปรโมเตอร์เวทีมาตรฐานทนไม่ไหว ... แถมยังไปลากเอาคนที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องด้วยอย่าง “เป๊ก สัณชัย” มาร่วมวงดรามาได้...

คนที่ยิ้มร่า ถูกอกถูกใจน่าจะเป็น “เสี่ยตา” ปัญญา นิรันดร์กุล นายใหญ่ของช่องเวิร์คพอยท์ ...เพราะก่อนหน้านี้เช็กเรตติ้งแล้วยังไม่รู้ว่าจะมีซีซันส์ 2 หรือไม่ ... แต่ตอนนี้ดูแววแล้วน่าจะมีต่ออย่างแน่นอน

** “เต้ มงคลกิตติ์” จากคนไม่มีราคา ตัวตลก ดรามานักเรียน-นักเลง “พี่ดุนะ..หนูไหวหรอ” สร้างตัวจนเป็นดาวสภา “คนมีราคา” แฉทิ้งทวนก่อนเปลี่ยนสถานะเป็นฝ่ายค้านอิสระ เพราะผู้ใหญ่ในพลังประชารัฐไม่รักษาสัจจะ-ไม่ให้เกียรติ

“เต้” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ... จุดที่ว่ากันว่า เขากลายเป็นคนมีอำนาจต่อรอง จุดที่เป็นตัวแปรสำหรับพรรคใหญ่ในรัฐบาลอย่าง พลังประชารัฐ (พปชร.) เรียกง่ายๆ เป็น “คนมีราคา”ซะงั้น

เฟซบุ๊กของพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้โพสต์ถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น “การออกจากสถานะรัฐบาล” โดยระบุว่า เป็นเพราะการทำงานในสภาในฐานะฝ่ายรัฐบาลไม่มีความเป็นอิสระในการตรวจสอบรัฐบาล เพราะต้องเกรงใจกันหลายขั้นตอน อีกทั้งมีการบล็อกกันไม่ให้ได้พูด ให้เวลาในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองน้อยมาก พปชร.ไม่ให้เกียรติกัน ไม่นำนโยบายพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลไปดำเนินการ กลับสวนทางกันทางนโยบายกันอย่างชัดเจน อาทิ เร่งจัดซื้อเครื่องบิน 38 ลำ 1.56 แสนล้านบาท ไม่รัดเข็มขัด ทั้งๆ ที่หนี้สินการบินไทย ปาไป 2.48 แสนล้านบาท ปี 61 ขาดทุน 12,000 ล้านบาท ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะไม่ขาดทุน ถ้าซื้อเครื่องบินเพิ่ม แนวคิดหารายเพิ่มของนายอุตตมะ สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ฐานะรมว.คลัง โดยการเพิ่มภาษีน้ำมัน ผลักภาระให้ประชาชน 67 ล้านคน ทำให้ซ้ำเติมความเป็น อยู่ของพี่น้องประชาชนที่แย่อยู่แล้ว จะทำให้ค่าครองชีพทุกด้านสูงขึ้น การออกนโยบายประชานิยม แบบหายนะ คือ การแจกเงินประชาชน โดยการขาดวินัยทางการเงินการคลัง ซ้ำเติมปัญหาหนี้สาธารณะ จะแจกได้ก็ต่อเมื่อจัดงบประมาณเกินดุล...

พรรคของเต้ยังมองว่า รัฐบาลมีแนวโน้มจะกู้เงิน IMF มาใช้หนี้เงินต้นเดิมจากธนาคารญี่ปุ่นฯ อีกทั้งกู้มาเพื่อชดเชยขาดดุลงบประมาณ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยต้องขายรัฐวิสาหกิจที่มีกำไรออกไป ผู้ใหญ่ใน พปชร.ไม่รักษาสัจจะในข้อตกลงในการร่วมรัฐบาล ไม่ใส่ใจแก้ปัญหาแบบให้เกียรติกัน ไม่ให้ความสำคัญตั้งแต่ต้น ต้องให้เรามาเรียกร้องถึงจะมาใส่ใจ ซึ่งมันสายไปแล้ว

นอกจากนี้ การถวายสัตย์ฯ ไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีการแสดงสปิริตความรับผิดชอบทางการเมือง หรือ แก้ไขให้ถูกต้อง แต่อย่างไรก็ดี “เต้ มงคลกิตติ์” ยังเห็นว่า “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังสามารถบริหารประเทศต่อไปได้ แต่ต้องแก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้องถึงจะบริหารประเทศต่อไปได้
มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์
ก่อนเลือกตั้งเอ่ยชื่อ “เต้” มงคลกิตต์ แทบไม่มีราคาอะไรในสายตาของผู้มีบารมีในรัฐบาล หรือกระทั่งนักการเมืองด้วยกัน ยกตัวอย่าง “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ขณะนั้นยังพูดถึงกรณี “เต้” มงคลกิตติ์ “จะตบปาก” นักการเมืองที่เสนอให้ตัดงบประมาณกองทัพว่า “ไม่ให้ราคากับคนเหล่านี้ ... แค่ชื่อยังไม่รู้จัก”

วันนี้หากไปย้อนถาม “คุณหญิงหน่อย” ใหม่ เชื่อว่าคำตอบที่ได้คงไม่เหมือนเดิมแน่ เพราะ “เต้” สร้างราคาให้ตัวเองมาจนใครก็ไม่อาจจะมองข้ามเขาไปได้ง่ายๆ แม้ว่าช่วงแรกๆ ของการสร้างราคาให้ตัวเอง จะเอาเรื่องดรามาสมัยวัยเด็กที่ดูเหมือนไร้สาระเป็นจุดขาย เขาไลฟ์สดในเฟซบุ๊กหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชกต่อย นักเรียนนักเลง ความโหดที่หาญกล้าคนเดียวสู้กับคนหลายสิบคน เป็นที่มาของวลีฮิตในโลกโซเซียลฯ... “พี่ดุนะ หนูไหวหรอ” แต่นั่นก็ทำให้สังคมคนรุ่นใหม่รู้จัก “พี่เต้” มากขึ้น...

เมื่อตกเป็นที่สนใจของโซเซียลฯ “เต้ มงคลกิตติ์” ที่เล่นกับกระแสนี้ได้ไม่เป็นรอง “พ่อฟ้า” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่ากันว่าช่วงนั้นชื่อของ เต้ มงคลกิตติ์ ตีคู่กับ ธนาธร เลยทีเดียว

หลังเลือกตั้ง “เต้” มงคลกิตติ์ ยังแรงต่อเนื่อง เมื่อเปิดสภาเขากลายเป็น “ดาวสภา” ด้วยการโชว์ฝีปากกล้าวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะเรื่อง “การบินไทย” และเรื่องที่ไม่ชอบมาพากล ทุจริตคอร์รัปชัน จนได้รับเสียงชื่นชมถึงการทำงานของนักการเมืองรุ่นใหม่ แตกต่างจากภาพลักษณ์ที่เป็น “ตัวตลก” ในโลกโซเซียลฯ ก่อนนี้แบบหน้ามือ เป็นหลังมือ

จากคนไม่มีราคา กลายเป็นคนมีราคา ต้องบอกว่า “เต้ มงคลกิตติ์” รู้จักเดินหมาก ตาหนึ่งเล่นกับกระแสโซเซียลฯ บางครั้ง “เล่นใหญ่” เพื่อให้คนจำได้ และสร้างแบรนด์ “เต้ มงคลกิตติ์” ให้ติดในตลาด จากนั้นอีกตาหนึ่ง ก็สร้างผลงานแทนที่ด้วยการอภิปรายที่เข้าตากรรมการ จนถีบตัวเบียดขึ้นมาเป็น “ดาวสภา” อย่างที่ว่า

การเลือกออกจากสถานะ “รัฐบาล” ของพรรคเล็กอย่างไทยศรีวิไลย์ ซึ่งมีแค่ “เต้ มงคลกิตติ์” จึงมีความหมายมากกว่าพรรคเล็กอื่นๆ ... ต้องรอดูต่อไป “เต้” จะแผลงฤทธิ์ อะไร...ยังไง ?


กำลังโหลดความคิดเห็น