รมว.ดีอี มอบปลัดตั้ง คกก.ศึกษา สกัดข่าวปลอมว่อนโซเชียลฯ หลังปล่อยข่าววุ่นช่วงบึ้มป่วนเมือง เผย รมต.พปชร.ไม่จำเป็นต้องลาออก ยันไม่มีปัญหาทำงานควบ พร้อมเตรียมชง ครม.ตั้งทีมงาน 6 ส.ค. เลี่ยงตอบปมถวายสัตย์ฯ
วันนี้ (5 ส.ค.) เวลา 13.18 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งศูนย์ป้องกันข่าวปลอม (เฟกนิวส์) ว่าได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงดีอีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาถึงแนวทางการป้องกันข่าวปลอมแล้ว โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด พร้อมกับนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ ทำให้เห็นแล้วว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีศูนย์ป้องกันข่าวปลอม เนื่องจากมีการปล่อยข่าวที่ไม่เป็นความจริงจำนวนมาก กว่าหน่วยงานรัฐจะชี้แจงก็ใช้เวลานาน ดังนั้นศูนย์ดังกล่าวจึงสามารถตอบโจทย์กรณีดังกล่าวได้
นายพุทธิพงษ์ยังเปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ ครม.ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะเสนอแต่งตั้งเลขานุการรัฐมนตรี ส่วนตำแหน่งอื่นๆ เช่น ผู้ช่วยรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี จะเสนอที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาในครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร.เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา เห็นว่ารัฐมนตรีที่ได้เป็น ส.ส.ด้วยนั้น ไม่จำเป็นต้องลาออก เพราะเห็นว่าจะสามารถเชื่อมโยงกันได้ระหว่างรัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติ ขณะที่รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นแกนหลักของพรรค ซึ่งเชื่อว่าไม่มีปัญหาต่องานนิติบัญญัติแต่อย่างใด เพราะแม้จะควบตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ก็สามารถเดินทางไปร่วมประชุมสภาฯ ได้
เมื่อถามว่าถ้าการประชุมสภาฯกับงานของรัฐมนตรีตรงกันจะทำอย่างไร นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า เราจะพยายามมาประชุมที่สภาฯ ให้ได้ เพราะรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ทั้ง 5 คนเห็นตรงกันว่าไม่จำเป็นต้องลาออก เราคิดตรงกันไม่ใช่ต่างคนต่างคิด เมื่อปฏิบัติอย่างไรก็ต้องปฏิบัติด้วยกัน ฉะนั้นเชื่อว่ารัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.สามารถลงมติในสภาฯ ได้อยู่แล้ว ส่วนหากอภิรายไม่ไว้วางใจนายกฯจะลงมติได้หรือไม่นั้น คงต้องถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ
นายพุทธิพงษ์กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม้ไว้วางใจ โดยหยิบยกประเด็นที่กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนมาอภิปรายด้วยว่า การตั้งกระทู้หรือการทวงถามของฝ่ายค้านในสภาฯ นั้นสามารถทำได้อยู่แล้ว แต่จะทำด้วยเหตุผลและความเหมาะสมอะไรก็ขอให้ทำด้วยความรอบคอบ เพราะเชื่อว่าทุกคนไม่มีแนวคิดหรือเจตนาที่ไม่ดี
เมื่อถามว่ารัฐบาลมีความขัดเจนหรือไม่ว่าเรื่องดังกล่าวตกลงเป็นอย่างไร นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ขอให้ผู้ที่มีเหตุผลซึ่งสามารถชี้แจงได้เป็นผู้ชี้แจงจะดีกว่า