“สุชาติ” ตรวจพื้นที่-ดูความเรียบร้อย ห้องประชุมจันทรา รัฐสภาเกียกกาย ที่จะเริ่มใช้ประชุม ส.ว. วันที่ 5 ส.ค.นี้ และ เตรียมใช้ประชุม ส.ส.ในวันที่ 7 ส.ค.ด้วย สะกิดรัฐบาลเพิ่มงบไอที-สื่อสาร ให้เพียงพอกับการใช้งานฝ่ายนิติบัญญัติ กำชับดูแลความปลอดภัยเข้ม หลังเกิดเหตุระเบิดป่วนกรุงหลายจุด ปรามอย่าคาดเดาสาเหตุ ควรรอเจ้าหน้าที่สืบสวนและชี้แจงดีกว่า
วันนี้ (3 ส.ค.) นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เดินทางเข้าตรวจความพร้อมภายในอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกาย โดยเฉพาะห้องประชุมจันทรา ซึ่งจัดเตรียมไว้ เป็นห้องประชุมวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ในสัปดาห์หน้า เริ่มด้วยการประชุม ส.ว.ก่อน ในวันที่ 5 ส.ค. และใช้เป็นห้องประชุม ส.ส. ในวันที่ 7- 8 ส.ค.นี้เป็นครั้งแรก โดย นายสุชาติ ยังได้ทดสอบความพร้อมของอุปกรณ์ภายในทั้งระบบ ซึ่งเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ดูความพร้อมระบบเสียบัตร การสื่อสาร เก้าอี้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เรียบร้อย
นายสุชาติ เปิดเผยว่า ห้องประชุมจันทรา ถือว่ามีความพร้อมมากกว่าร้อยละ 90 สำหรับการประชุม ในวันที่ 5 ส.ค.นี้ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องระบบจอ สายไฟ ที่ยังไม่เรียบร้อย โดยหลังจากนี้ก็ต้องทยอยเก็บงานต่อไป เชื่อว่าจะเรียบร้อยน 1-2 วันนี้ ทั้งนี้ส่วนตัวเป็นห่วงระบบสารสนเทศ การประชาสัมพันธ์ และการดูแลรักษาสถานที่ ระบบรักษาความปลอดภัย ในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบ โดยเฉพาะระบบสื่อสารประชาสัมพันธ์ การถ่ายทอดสดการประชุมสภาฯที่อยู่ในรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมสภากำหนดว่าต้องทำอย่างเปิดเผย และถ่ายทอดทุกครั้ง แต่ที่ผ่านมาได้มีการตัดงบประมาณโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่เกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีสื่อสาร สารสนเทศ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องไปพอสมควร ทำให้อาจจะพบปัญหาอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ทั้งที่ระบบเทคโนโลยีสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญของการประชุม จึงขอฝากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยอนุมัติงบเพิ่มเติม เพื่อให้มีเครื่องไม้เครื่องมือ เพียงพอพร้อมกับการใช้งาน
นายสุชาติ ยังได้กำชับเจ้าหน้าที่อาคารรัฐสภา พร้อมขอความร่วมมือ ในการดูแลความปลอดภัย โดยรอบอาคาร และขอเพิ่มเจ้าหน้าที่ ตรวจตราสถานที่ ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงในห้วงวันเวลาของการประชุม ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ด้วย หลังเกิดเหตุระเบิดสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ กทม.หลายจุดเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ไปยังสมาชิกรัฐสภาว่า ในการประชุมสัปดาห์หน้า จะต้องตรวจเข้มรถยนต์และบุคคลที่เข้าออกพื้นที่อย่างเข้มงวด เพราะห่วงในเรื่องของความปลอดภัย
ส่วนสาเหตุการก่อเหตุที่หลายฝ่ายมองว่าอาจเชื่อมโยงกับประเด็นการเมืองนั้น นายสุชาติกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีใครรู้จริง ยิ่งถ้าพูดกันออกไป จะเป็นการขยายวงกว้าง โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องที่คาดเดา จะทำให้เกิดความเสียหายไปมาก จึงขอให้รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างชัดเจนและเป็นผู้ให้ข้อมูลจะดีกว่า.