xs
xsm
sm
md
lg

"ทิม พิธา"กับ"ครูจุ๊ย กุลธิดา"2ส.ส.คนรุ่นใหม่ที่ขนาดเพจ"เชียร์ลุง"ยังชื่นชมแถมบอกว่าคนแดนไกลจะปั้น"ทิม"ให้เป็นหัวหน้าอนาคตใหม่แทน"ธนาธร" **เปิดผลโพล5อันดับดาวสภา"ทิม พิธา"ยืนหนึ่ง"ปิยะบุตร-ช่อ-วัน อยู่บำรุง-เอ๋ ปารีณา"ติดโหวต

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ข่าวปนคน คนปนข่าว
 
**"ทิม" พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับ "ครูจุ๊ย" กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ 2ส.ส.คนรุ่นใหม่ของพรรคอนาคตใหม่ ที่ขนาดเพจ"เชียร์ลุง" ยังชื่นชม แถมบอกว่า คนแดนไกล จะปั้น"ทิม พิธา"ให้เป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แทน"ธนาธร"

ควันหลงจากการอภิปรายนโยบายรัฐบาล ในที่ประชุมรัฐสภา มีคนพูดถึง "ทิม" พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กันมากว่า อภิปรายนโยบายด้านการเกษตรของประเทศไทยได้ดีมาก โดยเปรียบเทียบเป็น "กระดุม 5 เม็ด" ซึ่งกระดุมเม็ดแรกคือ เรื่องที่ดิน ที่เป็นต้นตอปัญหาเกษตรกรรมทั้งหมด ที่ดิน คือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน หากแก้ปัญหาถูกจุด จะทำให้แก้ปัญหาอื่นๆได้ เพราะถ้าเกษตรกรไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง ก็ไม่สามารถเข้าสู่ระบบการเงินได้ ต้องกู้เงินนอกระบบ จนตกอยู่ในวงจรหนี้สิน ซึ่งเป็นกระดุมเม็ดที่ 2 เมื่ออยู่ในวงจรหนี้สิน ก็ต้องจดจ่อกับการใช้หนี้ จึงจำเป็นต้องทำการเกษตรด้วยวิธีการเดิมๆ ปลูกพืชเดิมๆ จำเป็นต้องใช้สารเคมี เพื่อให้สินค้าเกษตรมีคุณภาพ เพราะมีปัจจัยการกดดันด้านราคา เรื่องสารเคมีเกษตร จึงเป็นการติดกระดุมเม็ดที่ 3 เมื่อต้นทุนการผลิตที่สูง แต่ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำไม่มีกระแสเงินสด จึงไม่สามารถเข้าถึงการแปรรูป และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆได้ นั่นคือ กระดุมเม็ดที่ 4 เมื่อไปไม่ถึงโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาตัวเอง จากการให้บริการด้านการเกษตร ท่องเที่ยว จึงไม่สามารถไปถึงกระดุมเม็ดที่ 5 ได้

เมื่อพูดถึงปัญหาแล้วก็ยังเสนอทางแก้ ให้เสร็จสรรพ โดยระหว่างการอภิปราย ไม่มีการใช้วาจาที่ไม่สุภาพ หรือเสียดสี ก้าวร้าวใดใดทั้งสิ้น จน "ลุงป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ต้องลุกขึ้นมาแสดงความชื่นชม ว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่มีวิสัยทัศน์ มีการศึกษาข้อมูลมาอย่างเป็นระบบก่อนการอภิปราย พร้อมบอกว่าจะนำข้อเสนอแนะเหล่านี้ไปปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร

สำหรับ"ทิม พิธา" เกิดเมื่อวันที่5 ก.ย.24 ปัจจุบันอายุ 38 ปี เป็นบุตรชายคนโตของ นายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กับนางลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์ มีน้องชาย 1 คน คือ เทียน นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่ง"ทิม" มีศักดิ์เป็นหลานของ"ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์" เลขานุการ รมว.มหาดไทย และคนใกล้ชิด อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร

จบปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาการเงิน การธนาคาร ภาคภาษาอังกฤษ ม.ธรรมศาสตร์ หลังจากนั้นไม่นาน ก็คว้าปริญญาโท 2 ใบ ด้านการเมืองการปกครองจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และ บริหารธุรกิจจากเอ็มไอที สโลน สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา

"ทิม" เริ่มเป็นที่รู้จักของวงสังคม หลังแต่งงานกับ "ต่าย" ชุติมา ทีปะนาถ ดาราสาวจากภาพยนต์เรื่อง Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และ ภาพยนตร์เรื่องหนีตามกาลิเลโอ ก่อนที่ชีวิตครอบครัวต้องจบลงด้วยการหย่าร้าง ... ช่วงที่ "ทิม" อายุ 20 ต้นๆได้เข้ามาบริหารธุรกิจครอบครัวจนสามารถปลดหนี้กว่า 100 ล้านบาท ภายใน 1 ปี และพัฒนาให้กลายเป็นธุรกิจพันล้านภายใน 5 ปี ขึ้นแท่นเป็นบริษัทผลิตน้ำมันรำข้าวดิบรายใหญ่ของประเทศไทย นี่คือความสำเร็จในเบื้องต้น ก่อนเข้าสู่การเมือง และเขาได้รับการวางตัวให้เป็นรมว.เกษตรฯ หากพรรคอนาคตใหม่ ได้เป็นรัฐบาล

ส.ส.อีกคนของพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้รับการกล่าวถึงว่า อภิปรายเรื่องนโยบายการศึกษาได้ดี คือ "ครูจุ๊ย" กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยอภิปรายนโยบายการศึกษาของรัฐบาลว่าไม่เน้นแก้ปัญหาโครงสร้างทั้งที่เป็นเรื่องหัวใจสำคัญ จะมีก็แต่นโยบายเชิงปฏิบัติ และโครงการแยกย่อย ..."ครูจุ๊ย" พูดถึง" 3 ปัญหาคาราคาซัง" ในระบบการศึกษาไทย 1. ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา แม้จะมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาแต่ก็แก้ได้มีตรงจุดนัก ที่ควรทำคือ ยกระดับคุณภาพของโรงเรียนให้ใกล้เคียงกัน 2. ภาระงานครู ที่ต้องทำโครงการต่างๆ ที่ไม่ใช่งานสอย และ 3 .การมีส่วนร่วมของนักเรียน ต่อระบบการศึกษา

นอกจากนี้ยังมี "จิ๊กซอว์ที่หายไป 3 เรื่อง" ที่ไม่มีในนโยบายของรัฐบาลคือ โรงเรียนขนาดเล็ก และการควบรวมว่าจะทำอย่างไร 2. การแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ในเรื่องมาตรฐานขั้นต่ำของโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด อุปกรณ์การเรียนการสอน เป็นต้น 3. ความหลากหลายที่จะตอบสนองผู้เรียน ..."ครูจุ๊ย" บอกว่า ผู้บริหารการศึกษาควรเติมเต็มในสิ่งเหล่านี้ เพื่อ "การศึกษาจะได้ไม่ทิ้งเด็กไทยคนใดไว้ข้างหลัง"

สำหรับ "ครูจุ๊ย" จบปริญญาตรี อักษรศาสตรบัญฑิต เอกภาษาอังกฤษ จากจุฬาฯ และปริญญาโท Master of Arts in Intercultural Communication จาก University of Jyväskylä ประเทศฟินแลนด์ ปัจจุบันกำลังศึกษาระดับปริญญาเอก Doctor of Philosophy Programme in Applied Linguistics (International Programme) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ... มีความสามารถทางภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส และ ฟินนิช และมีงานเขียน งานแปลมากมาย

ความโดดเด่นของ "ทิม"พิธา กับ "ครูจุ๊ย" กุลธิดา ในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลครั้งนี้ ขนาดเพจ "เชียร์ลุง" ซึ่งอยู่ฝ่ายสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเอาไปโพสต์ว่า ... วันนี้คนไกล สั่งให้ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าประชาธิปไตย เปลี่ยนม้าทำศึกแล้วนะ พระเอก+นางเอกใหม่ กำลังมาแรง "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" กับ "กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ" อภิปรายในสภา 2 ครั้ง โหมกระแสชื่นชมกันจนแจ้งเกิดแล้ว ... กุนซือพรรคใหม่ปล่อยมือ ทิ้ง ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์ ให้เคว้งคว้างเผชิญโชคตามลำพัง... วันนี้ถึงกับมีกระแสเชียร์ให้เปลี่ยนหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่จาก"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" เป็น "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หลานชายของ"ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์" (คนหัวขาว) คนสนิทของ"ทักษิณ ชินวัตร" ดีหรือเปล่า ไม่ตัดสิน แต่อยากบอกว่า คืบก็การเมือง ศอกก็การเมือง อย่าวางใจอะไรง่ายๆ นัก...

**เปิดผลโพล 5 อันดับ"ดาวสภา" ขวัญใจชาวบ้าน "ทิม พิธา" ยืนหนึ่ง "ปิยะบุตร-ช่อ พรรณิการ์-วัน อยู่บำรุง และ เอ๋ ปารีณา" ติดโหวต
 
การประชุมสภาแถลงนโยบายรัฐจบไป แต่การโจษจันนั้นยังอยู่ โดยเฉพาะสมาชิกรัฐสภาหน้าใหม่ ที่จัดว่าแจ้งเกิดกันหลายคน ...สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL)ทำการสำรวจ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน ทั้งสิ้น 2,111 ตัวอย่าง เปรียบเทียบความพึงพอใจของ ประชาชนต่อการแถลงนโยบายรัฐบาล ระหว่างวันแรกและวันที่สอง ทำการสำรวจ ระหว่างวันที่ 26- 27 ก.ค. 62 ที่น่าสนใจ คือ ผลโพล 5 อันดับ "ดาวสภาฯ" คนรุ่นใหม่ ขวัญใจประชาชนในการอภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาลนั้น มีผู้โหวตให้ผู้อภิปรายของพรรคอนาคตใหม่ 3 อันดับรวด

อันดับที่ 1 หรือร้อยละ 16.3 โหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคอนาคตใหม่ ... โดย "ทิม พิธา" นั้นอภิปรายนโยบายปัญหาของเกษตรกร และ ข้อเสนอแนะภายใต้ "กระดุม5 เม็ด" เพื่อให้เกษตรกรไทยได้ลืมตาอ้าปากและอยู่ดีกินดีซึ่งเห็นว่ารัฐบาลควร ติดกระดุมแก้ปัญหาให้ครบทั้ง 5 เม็ด ได้แก่ สิทธิที่ดินทำกิน, วงจรหนี้สิน, สารเคมีเกษตร, นวัตกรรมแปรรูป, ท่องเที่ยวเชิงเกษตร "ทิม พิธา" ได้รับคำชม้ป็นอย่างมาก หลังอภิปราย ถูกยกให้เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ

ตามมาด้วยอันดับที่สอง หรือ ร้อยละ 13.1 นายปิยบุตร แสงกนกกุล พรรคอนาคตใหม่ อันดับที่สาม หรือร้อยละ 11.3 ระบุเป็น "คนสวย" ของ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ น.ส."ช่อ" พรรณิการ์ วานิช พรรคอนาคตใหม่ เช่นกัน

ในขณะที่ ร้อยละ 5.3 ระบุ "นายวัน อยู่บำรุง" พรรคเพื่อไทย และ ร้อยละ 2.9 ระบุ "น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์" พรรคพลังประชารัฐ ไม้เบื่อไม้เมากับ "ช่อ" พรรณิการ์ ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี ในการอภิปรายแถลงนโยบายโดยรวมพบว่า วันแรกอารมณ์ความรู้สึกของสาธารณชน "ไม่โอเค" กับบรรยากาศในการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาเพราะนักการเมืองบางคนมักจะเป็นพวก พิ๊กกี้ (Picky) คือ เลือกที่จะปั่นอารมณ์ และทำให้บางคนโกรธจนกระทบต่อภาพลักษณ์ของฝ่ายตรงข้าม โดยไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก

แต่วันที่สอง ประชาชนรู้สึกดีขึ้น เมื่อมีนักการเมืองรุ่นใหม่อภิปรายดี มีสาระประโยชน์บ้าง ... โพลยัง พบว่า ประชาชนได้ประโยชน์จากการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่สอง โดยเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 27.2 ในวันแรก เป็นร้อยละ 55.8 ในวันที่สอง ในขณะที่ คนที่ระบุไม่ได้ประโยชน์ลดลงจาก ร้อยละ 72.8 ในวันแรก เหลือร้อยละ 44.2 ในวันที่สอง ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของประชาชนต่อกลุ่มฝ่ายต่างๆ ในการอภิปรายนโยบายรัฐบาล เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน จำแนกตามกลุ่มจุดยืนทางการเมือง ได้แก่ กลุ่มสนับสนุนรัฐบาล กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล และ กลุ่มพลังเงียบ พบว่า กลุ่มสนับสนุนรัฐบาลพอใจรัฐบาลที่ 7.07 คะแนน มากกว่า กลุ่มไม่สนับสนุน รัฐบาลมีอยู่ที่ 3.87 และ มากกว่ากลุ่มพลังเงียบที่ 5.73 คะแนน

ในขณะที่ ค่าเฉลี่ยความพอใจต่อฝ่ายค้าน พบว่า กลุ่มผู้ไม่สนับสนุนรัฐบาลพอใจฝ่ายค้านอยู่ที่ 8.46 คะแนน กลุ่มพลังเงียบที่ 6.71 คะแนน และกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลแต่พอใจฝ่ายค้านอยู่ที่ 5.52 คะแนน

นอกจากนี้ ความพอใจต่อประธานสภาฯ พบว่า กลุ่มสนับสนุนรัฐบาลพอใจสูงสุดต่อประธานสภาฯ คือ 8.19 คะแนน กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาลอยู่ที่ 5.53 และกลุ่มที่เป็นพลังเงียบพอใจประธานสภาฯ ที่ 6.28 ตามลำดับ


กำลังโหลดความคิดเห็น