เลขาผู้ตรวจฯ หารือมัคคุเทศก์ เร่งแก้ปัญหาไกด์เถื่อน หลังธุรกิจเที่ยวไทยขยายตัว ชี้ได้รับใบอนุญาตเพียบแต่รายงานตัวน้อย ซ้ำต่างชาติอำพรางตัวแย่งอาชีพ รัฐไร้มาตรการสนับสนุนวิชาชีพ หวั่นกระทบภาพลักษณ์
วันนี้ (26 ก.ค.) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานหารือร่วมกับนายจารุพล เรื่องเกตุ ประธานสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย นายทินกร แซ่เลื่อง ประธานชมรมมัคคุเทศก์จีนกลางแห่งประเทศไทย นายมานพ แซ่เจีย นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพเชียงใหม่ ว่าที่ พ.ต.วัชรินทร์ แสวงการ ประธานชมรมมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดชุมพร และผู้แทนชมรมและสมาคมอาชีพมัคคุเทศก์ทั่วประเทศกว่า 25 องค์กร เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหามัคคุเทศก์เถื่อน และยกระดับมาตรฐานมัคคุเทศก์ในไทยเสริมสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ
โดยนายรักษเกชา กล่าวว่า จากข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยกว่า 19 ล้านคน ทำให้การประกอบธุรกิจนำเที่ยวและอาชีพมัคคุเทศก์มีการขยายตัวต่อเนื่อง แต่สัดส่วนมัคคุเทศก์ที่ได้รับใบอนุญาตและมารายงานตัวจำนวนน้อยโดยข้อมูลเมื่อปี 61ของกรมการท่องเที่ยว พบมีมัคคุเทศก์ที่ได้รับใบอนุญาตทั้งสิ้น 79,291 ราย แต่มารายงานตัวไม่ถึงครึ่งของจำนวนทั้งหมด ไม่สอดรับกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย สะท้อนถึงปัญหาคุณภาพและการจัดระเบียบผู้ประกอบการมัคคุเทศก์ในไทยอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทยในอนาคต ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงนำปัญหาดังกล่าวมาพิจารณาเพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยจากการแสวงหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่า มัคคุเทศก์ยังไม่มีคุณภาพและมาตรฐานตรงตามความต้องการของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมีมัคคุเทศก์เฉพาะบางภาษาไม่เพียงพอ เช่น ภาษารัสเซีย เยอรมัน เกาหลี ฝรั่งเศส ทำให้เกิดปัญหามัคคุเทศก์เถื่อน เกิดการแย่งอาชีพคนไทยโดยชาวต่างชาติอำพรางตนเข้ามาประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ในไทย ปัญหาการปลอมแปลงบัตรมัคคุเทศก์ อีกทั้งผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์มีข้อจำกัดเรื่องกฎหมาย ภาครัฐยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานวิชาชีพ และนโยบายการให้สิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เหมาะสม ซึ่งทางผู้ตรวจการแผ่นดินก็จะได้นำข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ได้จากการหารือในครั้งนี้ไปประมวลประกอบการจัดทำรายงานและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อยกระดับมาตรฐานมัคคุเทศก์ในไทยต่อไป
