เปิดฉากแถลงนโยบาย "บิ๊กตู่"เผลอชี้นิ้ว ฝ่ายค้านโวยลั่นไม่ใช่ค่ายทหาร

เปิดฉากแถลงนโยบาย “รัฐบาลบิ๊กตู่ 2” เริ่มคึกคัก “บิ๊กป๊อก”มั่นใจชี้แจงได้ทุกเม็ด จนท.ตร.คุมเข้มความปลอดภัย ฝ่ายค้านจัด 39 คนอภิปราย 6 ด้าน คาดขอยืดเวลาอภิปรายถึงวันที่ 27 ก.ค. พปชร.รีบดักคออย่าพูดนอกกรอบ นายกฯ ลุกขึ้นแถลงเผลอชี้หน้าสมาชิก ฝ่ายค้านรุมสวนไม่ใช่ค่ายหทาร ติงไม่พูดตามเอกสาร

วันนี้(25 ก.ค.) ที่อาคารทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ มีการประชุมรัฐสภาในวาระสำคัญคือ การแถลงนโยบายรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อสมาชิกรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 โดยบรรยากาศคึกคักตั้งแต่เช้า โดยทั้งคณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร(ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ทยอยมาอย่างต่อเนื่อง

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แสดงความมั่นใจต่อการชี้แจงในเวที แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา หากฝ่ายค้านมีการอภิปรายถึงตนและกระทรวงมหาดไทย โดยได้เตรียมข้อมูลไว้แล้วไม่ว่าจะเป็นประเด็นใด

พล.อ.อนุพงษ์ยังกล่าวถึงท่าทีความสนใจเข้าสู่เส้นทางการเมืองอย่างเต็มตัว ภายหลังพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ว่า ตนยังไม่มีความคิดในเรื่องนี้

ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาถึงที่หอประชุมใหญ่ TOT ประมาณ 9.00 น. โดยขึ้นลิฟต์ด้านหลังไม่พบกับผู้สื่อข่าวที่รอดักสัมภาษณ์และเก็บภาพอยู่ประตูด้านหน้า

ขณะที่ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ รมว.คลัง ระบุว่า ยังไม่ทราบถึงการมีตำแหน่งภายในพรรคให้กับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ ภายหลังการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค

ขณะที่การรักษาความปลอดภัยที่หอประชุมใหญ่ อาคาร 9 บริษัททีโอที ก่อนการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางมาเข้าร่วมประชุมเพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลในเวลา 09.30 น. มีการจัดระเบียบคัดกรองบุคคลและรถเข้ายนต์ที่จะเข้ามาภายในบริษัททีโอทีฯ อย่างเข้มงวด โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัททีโอทีฯ สอบถามรถยนต์ทุกคัน และสอบถามทุกคนที่จะเดินทางเข้ามาภายในพื้นที่ หากไม่เกี่ยวข้องก็จะไม่อนุญาตให้เข้ามาอย่างเด็ดขาด ขณะที่บริเวณด้านรอบอาคาร 9 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) พร้อมด้วยสุนัขตำรวจคอยเดินตรวจวัตถุต้องสงสัย เพื่อรักษาความปลอดภัย อีกทั้งมีการเตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล และรถน้ำไว้ทางด้านหลังอาคารด้วย รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) จำนวน 4 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.ทุ่งสองห้อง ทำหน้าที่อย่างเข้มงวด

ภายในอาคาร มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภา และเจ้าหน้าที่รัฐสภาทำหน้าที่ตรวจคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาภายในอาคารอีกชั้นอย่างเข้มงวด โดยกำชับให้บุคคลที่ไม่มีบัตรรัฐสภาต้องแลกบัตร ขณะที่สื่อมวลชนที่ไม่มีบัตรประจำรัฐสภาก็จะต้องเซ็นต์ลงรายมือชื่อก่อนเข้ามาภายในอาคาร จากนั้นทุกคนต้องเดินผ่านเครื่องสแกนตรวจวัตถุระเบิด

ขณะที่ ส.ส. ส.ว. และคณะรัฐมนตรีต่างเริ่มทยอยเดินทางมาเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมประชุมรัฐสภา ครั้งที่ 3 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเป้าหมายที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายฯ อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข, นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง, นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์, และแกนนำฝ่ายค้าน เช่น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เป็นต้น โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากจากหลายสำนักเฝ้าติดตามการทำข่าว

ขณะที่วิปฝ่ายค้าน ได้หารือก่อนการเข้ารับฟังการแถลงนโยบาย โดยนายสุทิน คลังแสง ส.ส. พรรคเพื่อไทย ได้แจ้งกับตัวแทนทั้ง 7 พรรคว่า กรอบเวลาของการอภิปรายวันนี้อาจจะมีการขยายไปถึงเช้าวันที่ 27 ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในเช้าวันดังกล่าว 3 ชั่วโมง ซึ่งฝ่ายค้านยังได้เวลาตามที่ประธานแจ้ง แต่ทั้งนี้อาจมีการขอหารือเพื่อขอปรับเวลาเนื่องจากมีหลายประเด็นที่ต้องซักถาม ขณะเดียวกันเห็นว่ารัฐบาลก็ต้องการเวลาเพิ่ม เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องชี้แจง

นายสุทินกล่าวว่า 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ในการซักถามทุกข้อสงสัยโดยได้วางตัวบุคคลที่จะอภิปรายไว้ตามลำดับ โดยมีตัวแทนแต่ละด้าน ดังนี้ คือ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดอภิปราย, นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว อภิปรายภาพรวม, นายไชยา พรหมา เริ่มอภิปรายด้านเศรษฐกิจ, นายชวลิต วิชยสุทธิ์ เริ่มอภิปรายด้านการเมือง, นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ เริ่มอภิปรายด้านสังคม, นายสงวน พวงมณี อภิปรายด้านความมั่นคง, นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม เริ่มอภิปรายด้านการศึกษา, นายพัฒนา สัพโส เริ่มอภิปรายด้านการกระจายอำนาจ, และนายสุทิน คลังแสง เป็นผู้ปิดการอภิปราย รวมผู้อภิปรายทั้งหมด 39 คน

ขณะที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนไม่มีรายชื่อเป็นผู้อภิปราย แต่จะทำหน้าที่สรุปประเด็นของฝ่ายค้าน และมาแถลงให้กับสื่อมวลชน โดยคิดว่าจะมีการแถลงข่าววันละ 2 รอบ

จนเมื่อเวลา 09.30 น. การประชุมรัฐสภาได้เริ่มขึ้น โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระ ส.ส.พปชร.หลายคนลุกขึ้นดักคอฝ่ายค้านว่าต้องอภิปรายในกรอบเท่านั้น การจะนำเรื่องคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์มาพูดในสภา ขณะที่เรื่องนี้ยังอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าชี้ขาดคุณสมบัติ ประธานจะรับผิดชอบอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มแถลงนโยบายด้วยการพูดคล้ายกับพูดในรายการนายกฯ พบประชาชน โดยไม่ได้อ่านตามเอกสารนโยาบที่ส่งให้สมาชิกรัฐสภา ขณะที่บางช่วงก็มีการชี้นิ้วประกอบด้วย ทำให้ฝ่ายค้านลุกขึ้นประท้วงอย่างต่อเนื่องว่านายกฯ ต้องอ่านตามเอกสารเท่านั้น ไม่ควรพูดเองเพราะเป็นการแถลงนโยบาย ต้องมีการบันทึก และสภาไม่ใช่ค่ายทหารไม่ควรมีท่าทีเหมือนพูดกับใต้บังคับบัญชา จะพูดข่มขู่ หรือสั่งสอนไม่ได้ ขณะที่นายชวนยังขอให้อ่านตามเอกสารนโยบายเท่านั้น ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ก็เปลี่ยนท่าทีด้วยการอ่านตามเอกสาร ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไม่มีอารมณ์หงุดหงิด