“เทวัญ” ย้ำไม่ได้ถือหุ้นสื่อ บัญชีงบดุลชี้ชัดไม่เกี่ยว พร้อมตอบฝ่ายค้านในสภา

“เทวัญ ลิปตพัลลภ” ยันไม่ได้ถือหุ้นสื่อ พร้อมตอบหากถูกซักในสภา ยกบัญชีงบดุลรายรับ-จ่ายไม่มีตรงไหนเกี่ยวข้องกับสื่อ เผยสัปดาห์หน้า เตรียมยื่นบัญชีทรัพย์สินในฐานะเป็น ส.ส. ถัดจากนั้นจะยื่นในส่วนของรัฐมนตรี

วันนี้ (22 ก.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่สำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เดิม ถนนพิษณุโลก นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า ตนได้รับนโยบายเรียบร้อยแล้ว และส่งดราฟให้สมาชิกพรรค ซึ่งสมาชิกพรรคส่วนมากเป็น ส.ส.คงได้รับกันแล้ว อาจจะได้หารือกันในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค.) ว่าในส่วนนี้มีใครจะอภิปรายหรือไม่ แต่จริงๆ แล้วในการแถลงนโยบายของรัฐบาล ก็มีหลายส่วนที่เป็นนโยบายของพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) หลังจากประชุมหารือกันในพรรคแล้ว ก็อาจจะมีนายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.พรรค ที่อาจจะสนใจในเรื่องอภิปราย

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่จะถูกเป็นเป้าในการอภิปราย นายเทวัญตอบว่า ก็คงจะเป็นเรื่องหุ้นสื่อ ตนขอชี้แจงเลยว่า หุ้นสื่อเป็นวัตถุประสงค์โดยปกติ เวลาที่ไปจดทะเบียนที่กระทรวงพาณิชย์ เหมือนกับเป็นแบบฟอร์มของเขาที่ให้กรอกอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไร และเป็นหุ้นที่คุณแม่ให้ตนมา โดยบริษัทดังกล่าวไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ใส่ชื่อบริษัทไว้ ซื้อที่ดินมาประมาณ 30 ปีแล้ว ไปดูงบดุลได้ ไม่มีรายรับอะไรที่เกี่ยวกับโฆษณาหรือสื่อสิ่งพิมพ์ ส่วนรายจ่ายก็ไม่มีรายจ่ายอะไรที่เป็นลักษณะแบบนั้น ไม่ได้ประกอบธุรกิจ เก็บที่ดินไว้เฉยๆ คุณแม่ท่านอายุเยอะแล้ว เป็นห่วงตน ก็ยกที่ดินให้ตน ทุกวันนี้ท่านเปิดทีวีก็ร้องไห้ทุกวันเวลามีข่าวเรื่องนี้ ท่านแค่ให้ความหวังดีแก่บุตร แต่เหมือนกลายเป็นผลร้าย ซึ่งตอนนี้ตนก็โอนคืนไปหมดแล้ว ปัจจุบันไม่มีแล้ว

เมื่อถามอีกว่าแล้วได้เตรียมตัวเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายเทวัญกล่าวว่า ตนก็เตรียมตัว วันนี้ขอขยายการชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญอีก 20 วัน ซึ่งศาลก็กรุณาให้ขยาย เพื่อไปดูหลักฐานเรื่องงบดุลทางการเงิน ว่าที่ประกอบการมา 20-30 ปี เราไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับสื่อเลย ทั้งรายรับและรายจ่าย ส่วนการชี้แจงในสภา หากสมาชิกผู้ทรงเกียรติถามเรื่องนี้มา ตนก็จะตอบ ซึ่งทางฝ่ายกฎหมายเราก็ได้เตรียมไว้หมดแล้ว

เมื่อถามถึงการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในของการดำรงตำแหน่ง นายเทวัญกล่าวว่า สัปดาห์หน้าตนเตรียมในส่วนของความเป็นสภาผู้แทนราษฎร์ และอีกประมาณ 10 กว่าวัน จะยื่นในส่วนของความเป็นรัฐมนตรี ตามกรอบเวลาที่ให้ไว้ 60 วัน

เมื่อถามว่า นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรค ได้ให้คำแนะนำอะไรกับท่านในเรื่องการทำงานหรือไม่ นายเทวัญกล่าวว่า ก็มี ท่านผ่านมาหลายกระทรวง เป็นนักการเมืองเก่าแก่ ตนก็เป็นมานาน แต่ในแง่ความเป็นรัฐมนตรีก็อาจจะใหม่ มีอะไรก็ปรึกษาท่าน ท่านก็ให้ข้อคิด ให้คำแนะนำตลอดเวลา