รองโฆษก ทบ.แจงใช้โมเดลกองพลน้อยสหรัฐ-ออสซี่ ปรับหน่วยระดับกรม บรรจุยานเกราะเข้าในอัตรายุทโธปกรณ์ รับ “สไตรค์เกอร์” ที่กำลังทยอยประจำการ ผบ.ทสส.สั่งเร่งเก็บกู้ 4,972 ทุ่นระเบิด ให้แล้วเสร็จ 6 ส.ค.
วันนี้ (18 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.อ.หญิง ฉัตรรพี พรศรี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพได้รับทราบการปรับปรุงโครงสร้างและเสริมสร้างหน่วยกำลังรบของกองทัพบกซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างและเสริมสร้างหน่วยกำลังรบเพื่อใช้เป็นหน่วยต้นแบบในอนาคตโดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างหน่วยกำลังรบระดับกรม ให้เป็นหน่วยที่มีความกระทัดรัดทันสมัย และมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ได้พิจารณาเปรียบเทียบกับการจัดหน่วยแบบกองพลน้อยของสหรัฐฯ ออสเตรเลีย (Brigade Combat Team : BCT) โดยนำไปประยุกต์ให้มีความเหมาะสมกับกองทัพบก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำอัตราการจัด และยุทโธปกรณ์ของหน่วยดังกล่าวให้มีความสมบูรณ์ควบคู่กับการพิจารณาจัดหายานเกราะที่เหมาะสม เข้าประจำการเพื่อให้กองทัพบกมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจการป้องกันประเทศรวมถึงภารกิจอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพบกจัดหายานเกราะล้อยาง “สไตรค์เกอร์” จากสหรัฐอเมริกาเข้าประจำการ และกำลังจะทยอยเข้าส่งมอบภายในปีนี้
ขณะที่ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน ประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยมี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอาการ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ด้านโฆษกกองทัพไทยแถลงผลการประชุมผู้บัญชาการทางทหาร ก่อนการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ว่า พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้แจ้งว่า ขณะนี้ทุ่นระเบิดที่ทำการเก็บกู้ของแต่ละเหล่าทัพมีจำนวนคงคลังอยู่ 4,970 ทุ่น ซึ่งตามหลักการขององค์การสหประชาชาติกำหนดว่าหากมีจำนวนทุ่นระเบิดเกิน 1,000 ทุ่น จะต้องเป็นประเทศที่ถูกจับตามอง ดังนั้นจึงสั่งการให้มีการวางแผนทำลายในวันที่ 6 สิงหาคม ที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดจะไปร่วมพิธีทำลายทุ่นระเบิด พร้อมเชิญ ผบ.เหล่าทัพ ไปร่วมเป็นสักขีพยาน ทั้งนี้ให้ทำลายทุ่นระเบิดที่มี โดยเหลือไว้ฝึกและศึกษาเพียง 81 ทุ่น เพื่อให้ไทยหลุดจากประเทศที่ถูกจับมอง
วันนี้ (18 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.อ.หญิง ฉัตรรพี พรศรี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพได้รับทราบการปรับปรุงโครงสร้างและเสริมสร้างหน่วยกำลังรบของกองทัพบกซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างและเสริมสร้างหน่วยกำลังรบเพื่อใช้เป็นหน่วยต้นแบบในอนาคตโดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างหน่วยกำลังรบระดับกรม ให้เป็นหน่วยที่มีความกระทัดรัดทันสมัย และมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ได้พิจารณาเปรียบเทียบกับการจัดหน่วยแบบกองพลน้อยของสหรัฐฯ ออสเตรเลีย (Brigade Combat Team : BCT) โดยนำไปประยุกต์ให้มีความเหมาะสมกับกองทัพบก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำอัตราการจัด และยุทโธปกรณ์ของหน่วยดังกล่าวให้มีความสมบูรณ์ควบคู่กับการพิจารณาจัดหายานเกราะที่เหมาะสม เข้าประจำการเพื่อให้กองทัพบกมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจการป้องกันประเทศรวมถึงภารกิจอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพบกจัดหายานเกราะล้อยาง “สไตรค์เกอร์” จากสหรัฐอเมริกาเข้าประจำการ และกำลังจะทยอยเข้าส่งมอบภายในปีนี้
ขณะที่ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน ประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยมี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอาการ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ด้านโฆษกกองทัพไทยแถลงผลการประชุมผู้บัญชาการทางทหาร ก่อนการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ว่า พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้แจ้งว่า ขณะนี้ทุ่นระเบิดที่ทำการเก็บกู้ของแต่ละเหล่าทัพมีจำนวนคงคลังอยู่ 4,970 ทุ่น ซึ่งตามหลักการขององค์การสหประชาชาติกำหนดว่าหากมีจำนวนทุ่นระเบิดเกิน 1,000 ทุ่น จะต้องเป็นประเทศที่ถูกจับตามอง ดังนั้นจึงสั่งการให้มีการวางแผนทำลายในวันที่ 6 สิงหาคม ที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดจะไปร่วมพิธีทำลายทุ่นระเบิด พร้อมเชิญ ผบ.เหล่าทัพ ไปร่วมเป็นสักขีพยาน ทั้งนี้ให้ทำลายทุ่นระเบิดที่มี โดยเหลือไว้ฝึกและศึกษาเพียง 81 ทุ่น เพื่อให้ไทยหลุดจากประเทศที่ถูกจับมอง