“ศรีสุวรรณ” จ่อร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน กรมศุลกากรละเมิดกฎหมาย อายัดสินค้าในพื้นที่ปลอดอากร ไม่ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลและกฎหมายในการส่งเสริมการค้า ทำให้ธุรกิจส่งสินค้าผลิตภัณฑ์สัตว์ผ่านแดนเสียหาย
วันนี้ (17 ก.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลมีนโยบายใช้เขตปลอดอากรเพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาค CLMV ให้เกิดความคล่องตัวในการค้าขายหาเงินเข้าประเทศนั้น แต่ปรากฏว่ากรมศุลกากรอายัดสินค้าในพื้นที่ปลอดอากรที่ผู้ประกอบการสั่งนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อที่จะนำส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศอีกทอดหนึ่ง โดยอ้างว่าไม่มีใบอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ ทั้งๆ ที่โดย พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 มาตรา 152 บัญญัติไว้ชัดเจนว่าการนําของเข้ามาในราชอาณาจักรหรือนําวัตถุดิบภายในราชอาณาจักร เข้าไปในเขตปลอดอากรเพื่อผลิต ผสม ประกอบ บรรจุ หรือดําเนินการด้วยวิธีอื่นใดกับของนั้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ให้ของนั้นได้รับยกเว้นไม่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับการควบคุมมาตรฐานหรือคุณภาพ การประทับตราหรือเครื่องหมายใดๆ แก่ของนั้น
กรณีดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายและปั่นป่วนในธุรกิจการส่งสินค้าที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สัตว์ผ่านแดนดังกล่าวเป็นอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่และอํานาจตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐตาม ม. 230 (2) และ ม.231 (2) ของรัฐธรรมนูญ 2560 รวมทั้งการเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้าตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง หากเห็นว่า กฎ คําสั่ง หรือการกระทําอื่นใดของกรมศุลากรและกรมปศุสัตว์หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะแสวงหาข้อเท็จจริงเมื่อเห็นว่ามีผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรม เพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ขจัดหรือระงับความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรมนั้น
“ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมฯ และผู้ประกอบการจะนำความไปยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อเร่งดำเนินการดังกล่าว เพื่อประโยชน์ต่อการค้าขายนำเงินเข้าประเทศโดยเร็วต่อไป โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันพฤหัสฯ ที่ 18 ก.ค. 62 เวลา 13.00 น. ณ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ห้อง 903 ชั้น 9 ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม.” นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด