“เดอะมาร์ช” เสียดาย “ภูมิใจไทย” ต้องขาด “นาที” แม่ทัพภาคใต้หลังศาลตัดสิทธิ์การเมือง ระบุนับถือเป็นอาจารย์-พี่สาว ที่ให้คำปรึกษางานการเมืองตลอด ชี้จะทำหน้าที่ ส.ส. เพื่อช่วยเหลือ ปชช. ตามคำแนะนำ

วันนี้ (10 ก.ค.) พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษก และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 13 ของพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงกรณีที่จะได้เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ แทน นางนาที รัชกิจประการ ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกและตัดสิทธิ์ทางการเมือง เนื่องจากไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากสภาผู้แทนราษฎร ให้เข้าปฏิญาณตนต่อสภาฯ ทราบเพียงแนวทางจากคำให้สัมภาษณ์ของ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ถึงการพ้นสภาพส.ส.ของนางนาที เท่านั้น คงเป็นต้องรอให้ทางสภาฯแจ้งมาอย่างเป็นทางการก่อน อย่างไรก็ตามส่วนตัวมีความพร้อมทำงานในหน้าที่ ส.ส. พร้อมจะผลักดันกฎหมาย นโยบายของพรรคภูมิใจไทย เพื่อประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และอะไรที่เป็นสิทธิของประชาชนตนก็พร้อมที่ช่วยผลักดันให้เต็มที่
“แม้การทำงาน ส.ส. จะเป็นบทบาทใหม่ แต่ผมไม่ได้หนักใจอะไร เพราะก้าวเข้าสู่สนามการเมืองมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว อีกทั้งประสบการณ์ทำงานด้านต่างๆของผม มั่นใจว่าจะช่วยให้ผมทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอให้เชื่อมั่นว่า ผมจะทำงานทุกอย่างให้คุ้มค่ากับภาษีประชาชนทุกบาททุกสตางค์” พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว
พ.อ.เศรษฐพงค์ ยังได้กล่าวถึงนางนาที ด้วยว่า รู้สึกเสียใจและเสียดาย ที่พรรคภูมิใจไทย ต้องขาดคนดีมีคุณภาพ อย่างนางนาที ที่เป็นคนทำงาน และที่ผ่านมาก็ทุ่มเททำหน้าที่แม่ทัพภาคใต้ของพรรค จนประสบความสำเร็จอย่างเหนือความคาดหมาย อีกทั้ง นางนาที ยังเป็นทั้งพี่สาวที่เคารพ และอาจารย์ทางการเมือง ที่ให้คำแนะนำดีๆ ในการทำงานการเมืองมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามแม้พรรคฯ จะขาดส.ส.คนสำคัญไป แต่เชื่อว่านางนาที ยังคงจะช่วยงานพรรคฯต่อไป ช่วยให้คำปรึกษา คำแนะนำด้านยุทธศาสตร์การเมืองทางภาคใต้ และอยู่เบื้องหลังในการผลักดันนโยบายของพรรค เพื่อพี่น้องชาวใต้ และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศไทยต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงประวัติ พ.อ.เศรษฐพงค์ ด้วยว่า เป็นนักเรียนเตรียมทหาร (ตท.) รุ่นที่ 26 และนักเรียนโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) รุ่นที่ 37 จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ถึงปริญญาเอก ทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสาร และวิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสารโทรคมนาคม ผ่านการอบรมหลักสูตรสำคัญอีกหลายหลักสูตร อาทิ วปอ. วตท. บยส. วปส. หลักสูตรเสนาธิการทหารบก หลักสูตรการบริหารทรัพยากรเพื่อความมั่นคง (Defense Resourse Management), Naval Postgraduate School โดยทุนจากกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา, หลักสูตรเสนาธิการร่วม Joint and Combined Warfighting Course โดยทุนกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา ในโครงการต่อต้านก่อการร้ายสากล (Counter Terrorism Fellowship Program), National Defense University เป็นต้น ก่อนหันเหเข้าสู่การเมืองเคยเป็นรองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) มีผลงานโดดเด่นในกำกับดูแลการประมูลคลื่นความถี่ 3G และ 4G มาก่อน.
วันนี้ (10 ก.ค.) พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษก และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 13 ของพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงกรณีที่จะได้เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ แทน นางนาที รัชกิจประการ ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกและตัดสิทธิ์ทางการเมือง เนื่องจากไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากสภาผู้แทนราษฎร ให้เข้าปฏิญาณตนต่อสภาฯ ทราบเพียงแนวทางจากคำให้สัมภาษณ์ของ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ถึงการพ้นสภาพส.ส.ของนางนาที เท่านั้น คงเป็นต้องรอให้ทางสภาฯแจ้งมาอย่างเป็นทางการก่อน อย่างไรก็ตามส่วนตัวมีความพร้อมทำงานในหน้าที่ ส.ส. พร้อมจะผลักดันกฎหมาย นโยบายของพรรคภูมิใจไทย เพื่อประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และอะไรที่เป็นสิทธิของประชาชนตนก็พร้อมที่ช่วยผลักดันให้เต็มที่
“แม้การทำงาน ส.ส. จะเป็นบทบาทใหม่ แต่ผมไม่ได้หนักใจอะไร เพราะก้าวเข้าสู่สนามการเมืองมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว อีกทั้งประสบการณ์ทำงานด้านต่างๆของผม มั่นใจว่าจะช่วยให้ผมทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอให้เชื่อมั่นว่า ผมจะทำงานทุกอย่างให้คุ้มค่ากับภาษีประชาชนทุกบาททุกสตางค์” พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว
พ.อ.เศรษฐพงค์ ยังได้กล่าวถึงนางนาที ด้วยว่า รู้สึกเสียใจและเสียดาย ที่พรรคภูมิใจไทย ต้องขาดคนดีมีคุณภาพ อย่างนางนาที ที่เป็นคนทำงาน และที่ผ่านมาก็ทุ่มเททำหน้าที่แม่ทัพภาคใต้ของพรรค จนประสบความสำเร็จอย่างเหนือความคาดหมาย อีกทั้ง นางนาที ยังเป็นทั้งพี่สาวที่เคารพ และอาจารย์ทางการเมือง ที่ให้คำแนะนำดีๆ ในการทำงานการเมืองมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามแม้พรรคฯ จะขาดส.ส.คนสำคัญไป แต่เชื่อว่านางนาที ยังคงจะช่วยงานพรรคฯต่อไป ช่วยให้คำปรึกษา คำแนะนำด้านยุทธศาสตร์การเมืองทางภาคใต้ และอยู่เบื้องหลังในการผลักดันนโยบายของพรรค เพื่อพี่น้องชาวใต้ และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศไทยต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงประวัติ พ.อ.เศรษฐพงค์ ด้วยว่า เป็นนักเรียนเตรียมทหาร (ตท.) รุ่นที่ 26 และนักเรียนโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) รุ่นที่ 37 จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ถึงปริญญาเอก ทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสาร และวิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสารโทรคมนาคม ผ่านการอบรมหลักสูตรสำคัญอีกหลายหลักสูตร อาทิ วปอ. วตท. บยส. วปส. หลักสูตรเสนาธิการทหารบก หลักสูตรการบริหารทรัพยากรเพื่อความมั่นคง (Defense Resourse Management), Naval Postgraduate School โดยทุนจากกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา, หลักสูตรเสนาธิการร่วม Joint and Combined Warfighting Course โดยทุนกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา ในโครงการต่อต้านก่อการร้ายสากล (Counter Terrorism Fellowship Program), National Defense University เป็นต้น ก่อนหันเหเข้าสู่การเมืองเคยเป็นรองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) มีผลงานโดดเด่นในกำกับดูแลการประมูลคลื่นความถี่ 3G และ 4G มาก่อน.