xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองเดือดแต่หัววัน"บิ๊กตู่"มาดใหม่ลุยเต็มพิกัด !!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมืองไทย 360 องศา




ก็ต้องบอกว่าเป็นการบริหารราชการแผ่นดินแบบต่อเนื่องไม่มีช่วงเว้นว่างกันเลย เพราะหากเมื่อวานนี้(9 กรกฎาคม)รัฐบาล "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้าย และจากการเปิดเผยของ นายกฯที่คาดหมายว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนในราวสัปดาห์หน้า ก็ถือว่าเป็นการรับไม้ต่อทันที

จะเรียกว่าเป็นการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อก็ได้ เพราะเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวกับคนก่อนนั่นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงแต่เปลี่ยนสถานะจาก"ผู้นำเผด็จการ"มาสู่ผู้นำที่ผ่านมการรับรองจากตัวแทนของประชาชนในรัฐสภา ส่วนจะเรียกได้ว่าเป็น"ประชาธิปไตย"หรือไม่นั้นเชื่อว่าสำหรับหลายคนคงไม่ค่อยมีความหมายเท่าใดนักในยุคนี้ เพราะไม่ว่าประชาธิปไตยหรือเผด็จการหากจะเลวก็ไม่ได้แตกต่างกัน และที่สำคัญอาจเป็นเพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปกลายเป็นชาวบ้านทุกคนสามารถเป็นสื่อที่ตรวจสอบทั้งรัฐมนตรี ผู้นำรวมไปถึงนักการเมืองได้ทุกฝีก้าว ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครเหมือนสมัยก่อน เพราะไม่ว่าผู้นำประชาธิปไตย(ในความหมายผ่านการเลือกตั้ง)หรือเผด็จการหากทำผิดหรือทุจริตแบบโจ่งแจ้งรับรองว่าต้องมีชะตากรรมสุดรันทดแน่

สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นชัดก็คือกรณีของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีสถานะเป็น"ผู้นำเผด็จการ"เต็มร้อยที่สามารถอยู่ยาวมานานกว่า 5 ปีแล้ว และกำลังก้าวข้ามไปสู่ ผู้นำแบบรัฐสภา มีการเลือกตั้ง การที่สามารถ"ยืนระยะ"ได้นานแบบนี้ แน่นอนว่าย่อมต้องมี"ความพิเศษ"อยู่ในตัว เพราะสำหรับเผด็จการนั้น เวลา 5 ปีถือว่านานมาก และส่วนใหญ่จะต้องโดนขับไล่

แต่กลายเป็นว่าจนถึงวันนี้ความนิยมยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ซึ่งสาเหตุก็น่าจะมาจากเรื่องผลงาน และยังไม่มีเรื่องทุจริตที่มองเห็นได้ชัดเจน

อย่างไรก็ดีภายใต้กติการัฐธรรมนูญใหม่ และ"เครือข่ายระบอบที่เริ่มถดถอย"ทำให้ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาทำให้ผลออกมาไม่มีฝ่ายใดชนะกันเด็ดขาด หากมองในแง่บวกก็ต้องบอกว่า"การเมืองกลับคืนสู่จุดสมดุล"อีกครั้ง การตรวจสอบจะมีพลัง ต่างกับในยุคก่อนหน้าที่พรรคการเมืองในเครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร จะชนะขาดทุกครั้ง

วกกลับมาที่ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แม้ว่านาทีนี้เขาสามารถไปต่อในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่แม้จะมี"จุดแข็ง"ในเรื่องข้ออ้างที่เป็นผู้นำจากประชาธิปไตย ปิดจุดอ่อนลงไปได้มากแล้วก็ตาม แต่อย่างที่เข้าใจกันด้วยสภาวะในช่วง"รอยต่อ" ที่รัฐบาลกับฝ่ายค้านหรือฝ่ายตรงข้ามยังมีเสียงสูสีกัน โอกาสที่จะเพลี่ยงพล้ำในสภาก็มีความเป็นไปได้ตลอดเวลา

ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่จะได้เห็นกำหนดการลงพื้นที่ การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร การตรวจราชการออกมาทันที โดยเริ่มจากการตรวจราชการในต่างจังหวัดแห่งแรกที่จังหวัดยะลา และตามมาด้วยการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรเดือนละครั้ง แม้ว่าเป็นกำหนดการที่ดูแล้วเป็นเรื่องปกติ และรัฐบาล"ประยุทธ์1"ก็ทำแบบนี้มาแล้ว แต่สำหรับในรัฐบาลใหม่"การเดินสาย"แบบนี้นอกเหนือจากการตรวจงาน และดูความคืบหน้าตามนโยบายแล้ว ยังได้พบปะกับชาวบ้านเป็นการ"หาเสียง"ล่วงหน้าไปในตัวอีกด้วย

ขณะเดียวกันยังเชื่อว่าการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารัฐบาลอีกครั้งเที่ยวนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เขาต้อง"จัดเต็ม"แน่นอน คงต้องรีบสร้างผลงานให้เข้าตา เป็นที่จดจำตั้งแต่ต้นมือเลยทีเดียว พิจารณาได้จากความเคลื่อนไหวที่เริ่มปรากฏออกมาทั้งการประชุมนัดแรกทันทีในวันเดียวกันหลังการเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ พร้อมๆกับกำหนดการในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร และการออกตรวจราชการแบบถี่ยิบ มันก็พออ่านเกมได้ไม่ยาก

มองอีกด้านหนึ่งเหมือนกับการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์เลือกตั้งได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันฝั่งตรงข้ามก็เริ่มเดินสายตามต่างจังหวัดเช่นเดียวกัน มันก็มีแนวโน้มทำให้การเมืองนับจากนี้ไปจะต้องมีแนวโน้มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะด้วยสภาพของเสียงรัฐบาลและฝ่ายค้านคู่คี่ก้ำกึ่งกันแบบนี้มันก็มีโอกาส"ล่ม"ในสภาและมีโอกาสเลือกตั้งใหม่ได้ตลอดเวลา
 
แต่สำหรับ "ลุงตู่" ย่อมมีแต้มต่อเพราะกุมอำนาจรัฐ แต่ต้องเร่งทำคะแนนให้เข้าตาเท่านั้น !!


กำลังโหลดความคิดเห็น