เพื่อไทยเข้าตาจน? ลือ “เจ๊แดง” เคลื่อนไหวแล้วที่เชียงใหม่ คัมแบ็กเปิดบ้านบงการเกมอำนาจท้องถิ่น **“ลุงตู่” จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง! “ผู้กองธรรมนัส” ที่หลุดกระแสรัฐมนตรีไปแล้ว แต่พอเปิดโผออกมากลับผงาดขึ้นเป็นว่าที่ รมว.แรงงาน

ข่าวปนคน คนปนข่าว



**เพื่อไทยเข้าตาจน? ลือ “เจ๊แดง” เคลื่อนไหวแล้วที่เชียงใหม่ คัมแบ็กเปิดบ้านบงการเกมอำนาจท้องถิ่นหลังถูก พปชร.-อนาคตใหม่ แซะฐานภาคเหนือ เรียกขวัญกำลังใจพรรคกลัวแพ้อีกจะไม่มีที่ยืน

ตั้งแต่มีกระแแสข่าวว่าถูกคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหาทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตที่ 2 นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ เจ๊แดง น้องสาวของนายทักษิณ ชินวัตร และแกนนำพรรคเพื่อไทย ก็หายไปจากวงสังคมนานนับหลายเดือน

เล่าลือกันไปต่างๆนานาโดยไม่มีใครพบเห็น หรือกบดานเงียบ หรือแม้กระทั่งมีข่าวว่า “เจ้าแม่วังบัวบาน” คนนี้ ได้ใช้ช่องทางธรรมชาติหลบหนีไปต่างประเทศตามแบบฉบับ “พี่น้องทักษิณ”

ล่าสุดลือกันให้สะพัดว่า “เจ๊แดง” เคลื่อนไหวแล้ว กลับมาบงการเกมการเมืองพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ซึ่งก็ว่ากันว่า ที่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ก็เพราะ ใบสั่ง ของ “เจ้าแม่วังบัวบาน” คนนี้ ... ไม่ใช่แค่จัดการพรรคเพื่อชินวัตร แต่ “เจ๊แดง” ตอนนี้ซึ่งปักหลักพักผ่อนที่บ้านในจังหวัดเชียงใหม่ ก็กำลังบัญชาเกมการเมืองท้องถิ่นอย่างจริงจัง หลังจากที่เสียรังวัดให้พรรคพลังประชารัฐ และพรรคอนาคตใหม่รุกล้ำอาณาจักรภาคเหนือซึ่งแต่เดิมเป็นของเพื่อไทย

อย่างที่รู้กัน ศึกเลือกตั้งสนามใหญ่ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย เด็กในคอกเจ๊แดงโดนลูบคม พ่ายแพ้ในหลายจังหวัด เช่น เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน... ว่าแล้วเจ๊คนดังก็เปิดบ้านเรียกแกนนำ ส.ส.ภาคเหนือ เข้าพบเพื่อสั่งการให้ส.ส.ของพรรค เตรียมตัวช่วยเหลือคนของพรรคที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ให้ได้รับชัยชนะในทุกจังหวัดภาคเหนือ

ประกาศิตของ “เจ๊แดง” คือ คนของเพื่อไทยต้องชนะคู่แข่งให้มากที่สุด เช่น การเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ต้องช่วย นายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร ประธานสโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย ต้องเอาชนะ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ ที่เคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปสนับสนุน พรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ให้ได้ ... ส่วนในจังหวัดอื่นๆ เช่นที่ พะเยา ก็ต้องล้ม นายอัครา พรหมเผ่า น้องชาย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ ว่าที่ รมว.แรงงาน ให้ได้

นัยว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ “เจ๊แดง” ลงทุนลงแรงทั้งขู่ ทั้งคาดคั้นบริวาร หากท้องถิ่นไม่มีคนของพรรคเพื่อไทยไปตรึงอำนาจท้องถิ่นไว้ ต่อไปพรรคเพื่อไทยจะลำบาก ไม่มีที่ยืน

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทย กลับออกมาปฏิเสธข่าวลือนี้ว่าไม่มีมูล เพราะเจ๊แดงไม่ได้อยู่เชียงใหม่ ส่วนจะอยู่ที่ไหน ไม่มีใครยืนยัน ...ครั้งสุดท้ายที่เจ๊แดงปรากฏตัวออกสื่อ คือ งานแต่งของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกง แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้เห็นเจ้าแม่วังบัวบานอีกเลย ... เป็นไปได้ว่าเพื่อไทย กำลังเข้าตาจนหรือไม่ ถึงปูดข่าวเจ๊แดงเพื่อเรียกขวัญกำลังใจ และเป็นการส่งสัญญาณไปถึงคู่แข่งว่าเจ๊แดงยังอยู่ ยังมีอำนาจและบารมีในภาคเหนือเหมือนเดิม

จะอย่างไรก็ตาม ก็ต้องถาม “ผู้กองธรรมนัส” ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือของพรรคพลังประชารัฐ ที่ ณ บัดนี้ตามโผ ครม. ขึ้นเป็น ว่าที่รมว.แรงงาน เท่ากับขยับฐานะเป็น พยัคฆ์ติดปีก ถีบตัวเองขึ้นมาเป็นคนสำคัญของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปเรียบร้อยว่า จะยอมมั้ย?

ที่แน่ๆ มันย่อมไม่ง่ายเหมือนเดิม

** “ลุงตู่” จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง!! “ผู้กองธรรมนัส” ที่หลุดกระแสรัฐมนตรีไปแล้ว แต่พอเปิดโผออกมา กลับผงาดขึ้นเป็นว่าที่ รมว.แรงงาน

เปิดโผ ครม.ลุงตู่ 2 ออกมา ว่าที่รัฐมนตรีที่เรียกเสียงฮือฮามากกว่าใคร คงต้องยกให้ “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือของพรรคพลังประชารัฐ ที่คว้าเก้าอี้ รมว.แรงงาน ไปนั่งอย่างเหนือความคาดหมายของสื่อมวลชน และบรรดานักเก็งโผ ครม.

ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ผู้กองธรรมนัส มีบทบาทอย่างเด่นชัด ในการจัดตัวผู้สมัคร ส.ส. วางแผนและลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงในพื้นที่ภาคเหนือ จนสามารถนำ ส.ส.เข้าสภามาได้ตามเป้า ทั้งที่ภาคเหนือนั้นเป็นฐานเสียงหลักของพรรคเพื่อไทย ...นับหัว ส.ส.ที่เป็นลูกทีมของผู้กองธรรมนัสดูแล้วสามารถแลกโควตา “รัฐมนตรีว่าการ” ได้สบายๆ โผแรกสุดที่ออกมาระบุว่า ตามบุคลิกของผู้กองธรรมนัสน่าจะได้นั่ง รมว.แรงงาน แต่ต่อมาก็โผออกมาใหม่ว่าจะได้โควตา รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)

จัวหวะเดียวกับช่วงนั้นที่โผของพรรคภูมิใจไทยมีออกมาว่า ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี ผู้กว้างขวางแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง จะได้นั่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ แต่แล้วก็มีเสียงต้านตามมาอื้ออึง เพราะติดภาพ มาเฟีย เกรงว่า ครม.ลุงตู่ จะไม่สง่างาม “ชาดา” ก็เลยตัวเปลี่ยนตัว ด้วยการส่งน้องสาว มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ที่นั่งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานีมาแทน... เช่นเดียวกับ “ผู้กองธรรมนัส” ที่มีภาพของมาเฟียสายทหารติดมาด้วยเหมือนกัน ก็เลยออกมาประกาศว่าจะให้ อัครา พรหมเผ่า น้องชาย ที่เป็นอดีตรองนายก อบจ.พะเยา มานั่ง รมว.ดีอี แทน คล้ายกรณีของ “ชาดา” จะได้ไม่ต้องทนฟังเสียงครหาเรื่องสองมาตรฐาน

ไม่มีเสียงบ่นเสียงโวยวายจากปาก “ผู้กองธรรมนัส” มีแต่ก้มหน้าก้มตาเป็น มือทำงาน ให้กับ “ลุงตู่” เพราะช่วงนั้น การเจรจาต่อรองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ลงตัว เพราะส่งบรรดาแกนนำพรรคพลังประชารัฐไปเจรจาก็ไม่สำเร็จ “ลุงตู่” จะไปเองก็ไม่ได้ เพราะตอนนั้นยังไม่ได้รับการโหวตจากสภาฯ ให้เป็นนายกฯ ก็ได้ “ผู้กองธรรมนัส” เป็นผู้ออกหน้า ไม่ว่าจะเป็นที่พรรคประชาธิปัตย์, กลุ่ม10 พรรคเล็ก ที่ “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พยายามก่อหวอดทวงโควต้ารัฐมนตรี, กลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ และกลุ่ม ส.ส.ภาคอีสานของพรรคพลังประชารัฐเองก็ร้องหาโควตาของภาค ...สุดท้ายก็เคลียร์จบ โผ ครม.ทำท่าว่าจะนิ่ง

กระทั่ง “พรรคชาติพัฒนา” ที่มี ส.ส.อยู่ 3 เสียง ออกมาทวงโควตารัฐมนตรีให้กับ เทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค ประกอบกับ “ลุงตู่” ต้องการให้ ดอน ปรมัตถ์วินัย นั่ง รมว.การต่างประเทศต่อไปอีก เพื่อสานงานอาเซียน โผ ครม.จึงกระเพื่อมอีกรอบ ซึ่งรอบนี้นอกจากจะมีข่าวว่า อนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท ในกลุ่มสามมิตร ที่เคยมีชื่อเป็นว่าที่ รมช.คลัง จะหลุดโผแล้ว ยังไปเบียดโควตาของ รมว.ดีอี ของผู้กองธรรมนัส หลุดไปด้วย ...

ขณะที่ “อนุชา” ออกมาโวยวายใหญ่โต เมื่อรู้ข่าวว่าชื่อหลุดโผ แต่ “อัครา พรหมเผ่า” น้องชายผู้กองมนัส กลับออกมาประกาศถอนตัวไม่ขอรับตำแหน่ง รมว.ดีอี ทั้งๆ ที่ได้กรอกแบบฟอร์มประวัติส่งไปแล้ว โดยบอกว่าน่าจะมีคนที่มีความรู้ความสามารถในด้านนี้ทำหน้าที่ได้ดีกว่าตัวเขา ...จนขณะนั้นใครๆ ต่างคิดว่าโควตาของผู้กองธรรมนัส ถูกเอาไปให้คนอื่นแล้ว

แต่เมื่อโผสุดท้ายออกมา กลับกลายเป็นว่า มีชื่อ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เป็น รมว.แรงงาน โดย “หม่อมเต่า” ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ที่ว่าจะได้เป็น รมว.แรงงาน กลับไปได้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ คู่กับ “เทวัญ ลิปตพัลลภ” ส่วน พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ไปเป็น รมว.ดีอี แทน ...

หากมองย้อนกลับไปดูถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้คิดถึงคำพูดที่ว่า “การทหาร ไม่หน่ายยุทธวิธี” และทั้งคู่คือทั้ง “ลุงตู่” และ “ผู้กองธรรมนัส” ได้ร่วมกันเล่นเกม ลับ ลวง พราง เพื่อหลบกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ก่อนจะปิดเกมในวินาทีสุดท้าย ตามที่ “ลุงตู่” เคยชอบพูดว่า จะไม่ทิ้งใคร ไว้ข้างหลัง ...ถึงตอนนี้น่าจะยอมรับกันแล้วว่า “ใคร” คนนั้น คือ “ผู้กองธรรมนัส” มือทำงานการเมืองตัวจริงของลุงตู่ ...