“ลุงป้อม” เจอเองจะจะ ตีปิ๊บแก้หนี้นอกระบบ ชาวบ้านบุกร้องทุกข์ ร่วมพิธีคืนโฉนด พอลงจากเวทีกลับบ้านโดนริบคืนเฉย **ตรวจโผ ครม.ลุงตู่ ที่วันนี้นิ่งแล้ว “เสี่ยหนู” ยิ้มออก ประชาธิปัตย์โล่งอก ขณะที่ “สุวัจน์” ต้องทำใจ

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** “ลุงป้อม” เจอเองจะจะ ตีปิ๊บแก้หนี้นอกระบบ ชาวบ้านบุกร้องทุกข์ ร่วมพิธีคืนโฉนดพอลงจากเวทีกลับบ้านโดนริบคืนเฉย แถมบางรายโดนสวมสิทธิ อ้างชื่อ งานนี้ตั้งใจจะสยบข่าว “สร้างภาพ-แหกตา” ดันกลายเป็นยืนยันว่ามีอยู่จริง

ช่วงนี้ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม งานเข้าถี่ๆ แต่ก็ต้องชมที่ก้มหน้าก้มตาทำงาน เมื่อวาน (27มิ.ย.) ก็ไปเป็นประธานในพิธิมอบคืนโฉนดที่ดิน และทรัพย์สิน คืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ครั้งที่ 12 ภายใต้ยุทธการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองให้น่าอยู่” ที่ห้องประชุมพระนารายณ์ อาคารรัตนเทพสตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี อ.เมืองฯ จ.ลพบุรี...

งานนี้ได้รับความสนใจจากสังคมมากเป็นพิเศษ เพราะไม่กี่วันที่ผ่านมามีกระแสแฉขบวนการ “ปาหี่” สร้างภาพ-แหกตา หลอก “ลุงป้อม” และสังคม ว่ากันว่าการได้มาของโฉนดที่ดินมาทำพิธีมอบคืนโดยเชิญ “ลุงป้อม” ไปเป็นประธานแจกนั้น มีคนสร้างภาพขึ้นโดยเน้นโฉนดที่ดินให้ได้คราวละมากๆ เบื้องหลังมาจากการเจรจาบีบเจ้าหนี้ หรือนายทุน ให้ไปหาโฉนดที่ดินมาเพิ่ม แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี หรืออาจจะมีนอก-มีในเรียกรับผลประโยชน์ไว้เสียเอง อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย... กระแสข่าวผ่านมาหลายวัน กระทั่งวันนี้ “ลุงป้อม” ก็ยังไม่เชื่อว่ามีขบวนการนี้อยู่จริง งานนี้จึงตั้งใจโชว์เพาเวอร์สยบข่าวลือ “สร้างภาพ-แหกตา” แต่ดันมีเรื่องไม่คาดคิด... เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างที่ “ลุงป้อม” จะเดินเข้าไปในงานเพื่อทำพิธีแจกโฉนด ก็มีชาวบ้านกว่า 30 ราย ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดในภาคอีสาน นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น และเลย มาร้องเรียนถึงตัว... บอกว่าพวกเขาเป็นผู้เสียหายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการที่ถูกริบโฉนดที่ดินคืน มาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ทั้งหมดเรียกร้องให้ “ลุงป้อม” สั่งการตรวจสอบความโปร่งใสในการดำเนินโครงการนี้

เรื่องของเรื่องมีตัวอย่างชัด เช่น รายของนางแสงจันทร์ บุตรเขียว ชาวชัยภูมิ นำโฉนดที่ดินไปจำนองกับนายทุนเงินกู้ ในพื้นที่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ซึ่งมี “สุพล ผลสมบูรณ์สุข” เป็นนายทุนเงินกู้ โดยได้เงินจากการจำนองโฉนดที่ดินมากว่า 300,000 บาท และตนเองก็พยายามที่จะไถ่ถอน แต่นายทุนให้นำเงินกว่า 1.7 ล้านบาท มาไถ่ถอน ต่อมาได้มีการดำเนินการเจรจาประนอมหนี้ ในการไถ่ถอน และเข้าสู่กระบวนการในการคืนโฉนดของทางจังหวัดเมื่อครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นในพื้นที่ จ.นครราชสีมา โดยจัดคู่ขนานกับที่ จ.พิษณุโลก...

ไฮไลต์มาอยู่ตรงภายหลังจากได้รับการคืนโฉนดปรากฏว่าระหว่างที่เดินทางกลับจนถึงที่ จ.ชัยภูมิ ก็ถูกริบโฉนดคืน กลายเป็นไม่ได้อะไรเลย... อีกรายหนึ่งในงานพิธีการคืนโฉนดที่ จ.นครราชสีมา เช่นกัน พบว่าชื่อของตนเองถูกนำไปสวมอ้างในการรับโฉนด ทั้งที่ความเป็นจริงตนเองไม่ได้รับโฉนดคืนแม้แต่ครั้งเดียว ...“โป๊ะแตก” กันเลยคราวนี้

ก็ตัวอย่างที่ “ลุงป้อม” เจอจังๆ กับตัวเองอย่างนี้ ยืนยันชัดเจนว่า งานนี้ต้องมีปัญหาแน่ ได้โฉนดแล้วไปริบในภายหลัง ก็ดี หรือสวมรอยอ้างสิทธิ์ชาวบ้านก็ดี ไม่เรียกว่า “ปาหี่ สร้างภาพ และแหกตา” จะเรียกว่าอะไร... หนี้นอกระบบ ถือเป็น “วาระแห่งชาติ” โครงการแก้หนี้นอกระบบ คืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ย้ำอีกทีว่าเป็นโครงการดีต้องชม เพราะมีประโยชน์ต่อประชาชน แต่ในความดีเมื่อมีขบวนการปาหี่ “สร้างภาพ แหกตา” หลอกลุงป้อม หลอกสังคม ...แทนที่จะโกรธ หรือขู่ฟ้องคนนำเรื่องนี้มาปูด “ลุงป้อม” ต้องเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องโจมตี หรือ ไม่เข้าใจในเจตนาที่ดีของการทำโครงการนี้ การสร้างภาพแหกตาทำให้ประชาชนทุกข์หนักเข้าไปอีก และสังคมก็สงสัยในความโปร่งใสในกระบวนการทำงาน

“ลุงป้อม” ต้องสั่งการไปเลย เร่งตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าปัญหาเกิดขึ้นจุดใด จะได้แก้ปัญหาให้ตรงจุด โดยเฉพาะต้องกระชากคนที่อยู่เบื้องหลังกระบวนการสร้างภาพ แหกตานี้ออกมาให้สังคมได้รู้ คนเขาจะได้ไม่ครหาว่า นี่ไงการทำงานแบบ “ป้อมๆ” ปล่อยให้คนบางคนทำงานเอาใจนายโดยไม่เลือกวิธีใช้จนงานเละ “เป็นโจ๊ก” อย่างที่เห็นหลายงาน ก็ไม่สนใจ

ไฟต์บังคับแล้ว เพื่อชาวบ้าน และวาระแห่งชาติ “ลุงป้อม” ต้องจัดการจริงจัง เว้นเสียแต่จะยอมรู้ว่าเขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง.

** ตรวจ “โผ ครม.ลุงตู่” ที่วันนี้นิ่งแล้ว “เสี่ยหนู” ยิ้มออก ประชาธิปัตย์โล่งอก ขณะที่ “สุวัจน์” ต้องทำใจ ส่วนในพรรคพลังประชารัฐ ทั้งสายที่ติดสอยห้อยตามลุงตู่ และสายนักการเมืองก็หยุดกระเพื่อม ... เหลือเพียงด่านต่อไป คือ “รบกับฝ่ายค้าน”

ถึงวันนี้มีสัญญาณบอกเหตุว่า โผ ครม.น่าจะนิ่งแล้ว หลังจาก “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีบอกว่า มีบางคนที่ต้องหลุดไป เพราะมีการเสนอชื่อมากว่า 40 คน แต่เก้าอี้รัฐมนตรีมีเพียง 30 เก้าอี้เท่านั้น ...

ก่อนหน้านี้ที่ลุ้นหนักกว่าใครก็คงจะเป็น “พรรคภูมิใจไทย” ที่มีกระแสข่าวว่ารายชื่อว่าที่รัฐมนตรีที่ส่งไปอาจถูกตีกลับ อาทิ “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” น้องสาว “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ที่จะไปเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ว่าที่ รมช.มหาดไทย และ “วีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” ว่าที่ รมช.พาณิชย์ เพราะถูก “ไอโอ” ของฝ่ายที่ต้องการเขย่าเก้าอี้ ได้พยายามเปิดแผลเก่าขุดเบื้องลึกเบื้องหลังมาดิสเครติด ...ล่าสุด “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ก็ยิ้มร่าให้สัมภาษณ์สื่อว่า “ลุงตู่” ได้ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อมาเพื่อให้คนที่มีชื่อจะเป็นรัฐมนตรีที่พรรคเสนอไปได้กรอกรับรองเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติ และตรวจทานเอกสารของตัวเองให้เรียบร้อย และตอนนี้ก็ส่งกลับไปให้นายกฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้วทุกคน

รวมทั้ง “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” ก็ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ อุทัยธานี เพื่อขอลาออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว... เป็นอันว่า ว่าที่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย คงไม่มีใครตกหล่น... เช่นเดียวกับ “ประชาธิปัตย์” ที่นิ่งเงียบ ไม่มีเสียงเอะอะโวยวาย ส่วน “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคก็ลงพื้นที่ภาคใต้ เตรียมตัวแก้ปัญหาราคายาง ราคาปาล์ม อย่างสบายใจ ... ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ได้โควตามา 2 เก้าอี้ ก็มี “เสี่ยท๊อป” วราวุธ ศิลปอาชา นั่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ประภัตร โพธสุธน เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ก็นิ่งดี

ส่วนพรรคชาติพัฒนาของ “สุวัจน์ ลปตพัลลภ” ที่มี ส.ส.อยู่ 3 เสียง และได้ส่งชื่อ “เทวัญ ลิปตพัลลภ” ไปเป็นว่าที่ รมช.อุตสาหกรรม นั้นคงจะปิ๋ว เพราะถ้าพรรคชาติพัฒนาได้เก้าอี้ รมช. แล้วทางพรรคพลังท้องถิ่นไท ของ “ชัช เตาปูน” ชัชวาลย์ คงอุดม ที่มี ส.ส.อยู่ 3 เสียงเหมือนกันก็คงต้องออกมาขยับบ้าง ...ไหนจะกลุ่ม 10 พรรคเล็ก ที่เงียบเสียงลงไปแล้วก็คงออกมาส่งเสียงเจี๊ยวจ้าวอีก... ยังมีพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ของ “ดำรงค์ พิเดช” ที่อยากคุมกระทรวงทรัพยยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ... ถ้าจะให้ก็ต้องไปเจียดเอาจากโควตาในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ที่แทบจะไม่พอแบ่งกันอยู่แล้ว เห็นได้จากกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ และ ส.ส.ภาคอีสาน ก็เพิ่งออกมาทวงเก้าอี้ กว่าจะเคลียร์กันได้ก็ต้องให้ “ผู้กองธรรมนัส” ออกแรงไปเจรจา ... ดังนั้น เพื่อเป็นการ “ตัดจบ” ปัญหาไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อม กลุ่มพรรคที่ว่านี้คงไม่มีใครได้เก้าอี้รัฐมนตรี ...

ส่วนในพรรคพลังประชารัฐ แกนนำรัฐบาล ที่ลงตัวชัดๆ แล้วในสายที่ติดสอยห้อยตาม “ลุงตู่” มา ก็มีลุงตู่เป็นนายกฯ ควบ รมว.กลาโหม ส่วน “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “ลุงป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นั่ง รมว.มหาดไทย เหมือนเดิม “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ และ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย... คนที่จะมาเป็น รมช.กลาโหม ช่วยงานลุงตู่ และคอยรับมือฝ่ายค้านในสภาฯ ก็เป็น “บิ๊กช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล

คราวนี้มาดูโควตาพรรคพลังประชารัฐ ในสายนักการเมืองดูบ้าง แกนนำตั้งรัฐบาล ประกอบด้วย “อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรค เป็น รมว.คลัง “สันติ พร้อมพัฒน์” เป็น รมช.คลัง “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย เป็น รมช.คลัง ส่วน “เสี่ยบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อาจจะพ่วงโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วน “เสี่ยตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นั่ง รมว.ศึกษาธิการ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.พลังงาน “สุวิทย์ เมษินทรีย์” รมว.การอุดมศึกษา วิจัย วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม - ขณะที่ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาธิการพรรค เป็น รมว.อุตสาหกรรม “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน “เสี่ยดม” อัครา พรหมเผ่า น้องชายผู้กองธรรมนัส เป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สายตะวันออก “เสี่ยติ๊ก” อิทธิพล คุณปลื้ม นั่ง รมว.วัฒนธรรม และ “เสี่ยแบงค์” อธิรัฐ รัตนเศรษฐ ลูกชาย “วิรัช รัตนเศรษฐ” เป็น รมช.คมนาคม

ส่วนคนที่อกหักในตำแหน่งรัฐมนตรี ก็รับตำแหน่ง “ข้าราชการการเมือง” ที่ถือว่ามีบทบาทสูง อย่างเช่น ผู้แทนการค้าไทย กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เลขานุการ หรือที่ปรึกษารัฐมนตรี กระทั่งประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ต่างๆ คงพอประคับคองให้ “รัฐบาลมีเสถียรภาพ” ภายในกันไปก่อน ...ส่วนด่านต่อไป ที่ต้องไป “รบ” กับฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ค่อยว่ากันทีหลัง