ศาล รธน.ไม่รับคำร้องหุ้นสื่อ 9 ส.ส.เฮ “ปารีณา-กรณ์” รอดไม่หลุด ส.ส. อีก 32 ส.ส.ลุ้นต่อหลังรับวินิจฉัยแต่ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เหตุยังไม่มีการสอบสวน จึงไร้หลักฐาน ต่างจาก “ธนาธร” ที่ถูก กกต.สอบมาก่อน พร้อมสั่งยื่นคำชี้แจงใน 15 วัน
วันนี้ (26 มิ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องกรณี ส.ส. 32 คน ใน 41 คน ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของ 66 ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการที่ ส.ส.เหล่านี้ถือครองหุ้นสื่อ ทำให้ขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่ง ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่ ไว้พิจารณาวินิจฉัย พร้อมกับไม่รับคำร้องในส่วนของ ส.ส. 9 คนที่ถูกร้องไว้พิจารณา โดยศาลเห็นว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) บัญญัติลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ไว้ว่า “เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ มิใช่เพียงมีเจตนาหรือความประสงค์ที่จะทำกิจการดังกล่าวเท่านั้น แม้การถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่มีวัตถุประสงค์จะประกอบธุรกิจพอที่จะใช้เป็นเหตุให้มีการยื่นคำร้องต่อศาลได้ แต่ก่อนที่จะรับคำร้องไว้พิจารณาต่อไปยังจำเป็นต้องตรวจสอบวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ผู้ถูกร้อง ถือหุ้นอยู่ว่ามีวัตถุประสงค์ที่จะประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆ หรือไม่” ซึ่งเมื่อตรวจสอบจากเอกสารประกอบคำร้องของประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ปรากฏว่า หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งออกให้แก่ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทของนายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา เขต 1 นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ ส.ส.สระแก้ว เขต 3 น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 3 น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม.เขต 30 พรรคพลังประชารัฐ นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์ โรจน์ ส.ส.ราชบุรี เขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ มีข้อความระบุรายละเอียดวัตถุที่ประสงค์ไว้ทำนองเดียวกันว่า “การประกอบกิจการค้า กระดาษ เครื่องเขียน แบบเรียน แบบพิมพ์ หนังสือ อุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์ถ่ายภาพและภาพยนตร์ เครื่องคำนวณ เครื่องพิมพ์ อุปกรณ์การพิมพ์ สิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ ตู้เก็บเอกสาร และเครื่องใช้สำนักงานทุกชนิด เครื่องมือสื่อสาร คอมพิวเตอร์ รวมทั้งอุปกรณ์ และอะไหล่ของสินค้าดังกล่าว ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนๆ ที่จะเป็นลักษณะเข้าข่ายอันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของทั้ง 9 คนต้องสิ้นสุดลง จึงให้แจ้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ส.ส.ทั้ง 32 คนที่ศาลฯรับคำร้องไว้วินิจฉัยทราบและให้ทั้ง 32 ส.ส. ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
ทั้งนี้ ศาลฯไม่ได้มีคำสั่งให้ 32 ส.ส.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเห็นว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง กำหนดเงื่อนไว้ว่า “ต้องปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า ส.ส.ผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกต้อง แต่คดีนี้ประธานสภาฯไม่ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง มีเพียงเอกสารประกอบคำร้องเป็นหนังสือรับรองห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทระบุรายละเอียดวัตถุที่ประสงค์ กับสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นเท่านั้น ไม่ปรากฏแบบแสดงรายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนบริษัทฯ (แบบ สสช.1) และแบบนำส่งงบการเงินของห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทว่ามีรายได้จากการประกอบกิจการใด จึงยังไม่มีความชัดเจนว่า ส.ส.ทั้ง 32 คนประกอบธุรกิจใด ซึ่งศาลต้องดำเนินการไต่สวนหาข้อเท็จจริงให้ยุติต่อไป เมื่อยังไม่ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า ส.ส.ทั้ง 32 คน มีกรณีตามที่ถูกร้องจึงยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แตกต่างจากกรณีที่ กกต.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ที่ผ่านการสืบสวนหาข้อเท็จจริงของ กกต.ก่อนยื่นคำร้อง โดยมีเอกสารประกอบคำร้อง เช่น แบบ สสช.1 ระบุสินค้า หรือบริการ ที่ประกอบการว่า ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ โรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย ประกอบกับแบบนำส่งงบการเงินที่บริษัทของนายธนาธร ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 2554-2558 ระบุไว้ชัดเจนว่า มีรายได้จากการขายนิตยสาร และรายได้จากการให้บริการโฆษณาจึงมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายธนาธร มีกรณีตามที่ถูกร้อง ศาลจึงสั่งให้ยุติการปฎิบัติหน้าทีจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 32 ส.ส.ที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้วินิจฉัยประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 21 คนคือ 1 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 2.นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ 3. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 4. นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ส.ส.กทม. เขต 8 5 นางกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 6. นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.กทม. เขต 15 7. นายฐานิสร์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว เขต 1 8. นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 6 9. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว เขต 2 10 นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา เขต 4 11.นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี เขต 2 12. นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม เขต 4 13. นายภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 1 14. นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 2 15. พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร เขต 2 16. นายสมเกียรติ วอนเพียร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 2 17. นายสัมพันธ์ มะซูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2 18. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. เขต 9 19. นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี เขต 1 20. นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก เขต 3 21 น.ส.ภาดาห์ วรกานนท์ ส.ส.กทม.เขต 6
พรรคประชาธิปัตย์ 7 คนคือ 1. น.ส.จิตรภัสร์ กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2. นายอัศวิน วิภูศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3. นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ส.ส.พังงา เขต 1 4 นายภานุ ศรีบุศยกาญจน์ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 5. น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 3 6. นายสมชาติ ประดิษฐพร ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 4 7. นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง เขต 1
ส่วนพรรคอื่น ๆ พรรคละ1คนคือ พรรคภูมิใจไทย นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร สุรินทร์ เขต1 พรรครวมพลังประชาชาติไทย 1 ราย ได้แก่ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุลส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา 1 ราย ได้แก่ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาภิวัฒน์ 1 ราย ได้แก่ นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ