คณะผู้ตรวจฯ ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหา กรณีการเคหะฯ โอนกรรมสิทธิ์บ้านเอื้ออาทรบางขุนเทียน 3 ล่าช้า หลังแก้แบบแปลนจนติดเงื่อนไขEIA คาดโอนได้ก.ย. ระบุมีปัญหาอีก 6 โครงการ
วันนี้ (26มิ.ย.) นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายพินิจ ตันติวิญญูพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 3 ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหากรณีการเคหะแห่งชาติโอนกรรมสิทธิ์โครงการบ้านเอื้ออาทรบางขุนเทียน 3 ให้ประชาชนล่าช้า โดนนายบูรณ์ กล่าวว่า โครงการบ้านเอื้ออาทรบางขุนเทียน3 เป็นโครงการที่รัฐบาลริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2546 ซึ่งปกติการก่อสร้างต้องทำ EIA ทำให้เกิดความล่าช้า ต่อมาในปี 2548 รัฐบาลจึงให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมออกประกาศให้โครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติได้รับยกเว้นไม่ต้องทำ EIA แต่มีเงื่อนไขว่า ห้ามการเคหะแห่งชาติเปลี่ยนแปลงรายละเอียดแบบแปลนโครงการ (สผ.4) ซึ่งโครงการบ้านเอื้ออาทรบางขุนเทียน 3 นั้น ตามแบบแปลนเดิมที่ยื่นไปพร้อมกับ สผ. 4 เป็นแบบแปลนอาคารชุดสูง 4 ชั้น จำนวน 165 อาคาร มี 7,888 หน่วย ก่อสร้างจริงเหลือเป็นอาคารชุดสูง 4 ชั้น จำนวน 46 อาคาร มี 2,200 หน่วย สามารถส่งมอบห้องชุดให้ประชาชนผู้ซื้อเข้าอยู่อาศัยได้ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2553 โดยในสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดบ้านเอื้ออาทรกับการเคหะแห่งชาติ ข้อ 8 ระบุว่า “ผู้จะขาย (การเคหะแห่งชาติ) จะโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้แก่ผู้ซื้อเมื่อครบกำหนด 5 ปี นับแต่วันทำสัญญา...” แต่เมื่อสัญญาครบ 5 ปี คือ เดือนกันยายน 2558 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน การเคหะแห่งชาติก็ไม่สามารถดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ประชาชนได้ เนื่องจากปัญหาแบบแปลนที่ปรับเปลี่ยนเพื่อลดจำนวนการสร้าง ทำให้ผิดไปจากเงื่อนไขที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องทำ EIA ส่งผลเดือดร้อนต่อประชาชนที่ซื้อห้องชุดไว้จนต้องมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม
นายบูรณ์ กล่าวต่อว่า ในการลงพื้นที่ วันนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ รองอธิบดีกรมที่ดิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานอาคาร สำนักงานนโยบายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการแก้ไขความเดือดร้อนและชี้แจงให้กับประชาชนทราบความคืบหน้าที่ล่าสุด คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้มีมติอนุญาตให้มีการแก้ไขแผนผังแบบแปลนตาม สผ.4 ที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องทำ EIA แล้ว ซึ่งก็จะทำให้กระบวนการดำเนินต่อไปได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างที่กรมที่ดินและกรมธนารักษ์จะร่วมกันดำเนินการออกโฉนดห้องชุดเพื่อมอบให้แก่การเคหะแห่งชาติ จึงจะสามารถจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้แก่ประชาชนต่อไป คาดว่าโครงการบ้านเอื้ออาทรบางขุนเทียน 3 จะโอนได้ภายในเดือนกันยายน 2562 นอกจากนี้ พบว่ายังมีโครงการบ้านเอื้ออาทรอีก 6 โครงการ กว่า 7,500 หน่วยที่ประสบปัญหาลักษณะเดียวกัน ได้แก่ โครงการพรพระร่วงประสิทธิ์ โครงการบางขุนเทียน 1 โครงการบางขุนเทียน 2 โครงการบางขุนเทียน (แสมดำ) โครงการสมุทรปราการ (บางบ่อ 3) และ โครงการ นครปฐม (ไร่ขิง) โดยให้นำแนวทางการแก้ไขที่ได้จากโครงการบางขุนเทียน 3 ไปเป็นโมเดลปรับใช้กับโครงการอื่นๆต่อไป