xs
xsm
sm
md
lg

กลัวลืม “ปิยบุตร” ย้ำอีก หาก “ธนาธร” ผิดหุ้นสื่อ 41 ส.ส.ฝั่งรัฐบาลก็ต้องใช้บรรทัดฐานเดียวกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ชี้หากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องคดีถิอหุ้น 41 ส.ส. ควรใช้มาตรฐานเดียวกับ “ธนาธร” คือหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้ศาลฎีกาเคยตัดสินโดยดูบริคณห์สนธิมาแล้ว ควรใช้บรรทัดฐานเดียวกัน

วันนี้ (26 มิ.ย.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาเรื่องที่พรรคอนาคตใหม่ส่งให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องให้วินิจฉัย 41 ส.ส.ถือครองหุ้นสื่อ ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.หรือไม่ว่า พรรคก็จะติดตามและคาดหวังไว้ว่ามาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยจะเท่าเทียมกัน ซึ่งมีบรรทัดฐานมาแล้ว 2 เรื่อง คือ การพิจารณาเรื่องการถือหุ้นว่าใครถือหุ้นอย่างไร ให้ดูจากบริคณห์สนธิเป็นหลักโดยศาลฎีกาวางแนวเอาไว้แล้ว ไม่ได้ดูเรื่องการประกอบกิจการ ส่วนเรื่องการปฏิบัติหน้าที่นั้นในกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ก็ถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว โดยให้เหตุผลว่าหากให้ประชุมไปจะเกิดความเสียหายได้ และอาจจะมีปัญหาในข้อกฎหมายต่างๆ ตามมา ดังนั้น กรณีของ 41 ส.ส.น่าจะไม่แตกต่างกัน และในชั้นนี้เป็นการรับคำร้องเท่านั้น ยังไม่ได้ชี้ขาดว่าถูกหรือผิด ซึ่ง ส.ส.ทุกคนมีสิทธิแก้ต่างต่อศาลรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับนายธนาธร อย่างไรก็ตาม ทางพรรคก็เคารพดุลพินิจของศาล

นายปิยบุตรยังกล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ว่า ตนจะอภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวาระการแจ้งรายงานการตรวจสอบบัญชีและงบการเงินของสำนักงานศาลยุติธรรมที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบ ส่วนรายงานแผนปฏิรูปที่ส่งมาให้รายงานต่อสภาผู้แทนราษฎรในทุก 3 เดือนนั้น วิปฝ่ายค้านและรัฐบาลได้ตกลงกันเรื่องสัดส่วนเวลาแล้ว โดยพรรคฝ่ายค้านจะได้เวลาในการอภิปราย 5 ชั่วโมง พรรคเพื่อไทยได้เวลาอภิปราย 2 ชั่วโมง 30 นาที และพรรคอนาคตใหม่ได้เวลา 100 นาที จึงเตรียม ส.ส.ไว้ 7 คนในการอภิปราย และตนจะอภิปรายสรุป


กำลังโหลดความคิดเห็น