สหภาพ กทพ.ยื่นหนังสือถึง “ชวน” หนุนญัตติหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ตั้ง กมธ.ศึกษาค่าโง่ทางด่วน ด้าน “หมอระวี” จ่อพบ “อนุทิน” ตัวเก็ง รมว.คมนาคม ค้านต่ออายุสัมปทานให้ BEM แลกยุติคดีค่าโง่ เสนอรอผลศึกษา กมธ.ก่อน เชื่อตั้งได้ไม่เกินต้นเดือนหน้า กำหนดกรอบพิจารณา 3 เดือน
วันนี้ (20 มิ.ย.) นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังธรรมใหม่ นำตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เข้ายื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สนับสนุนญัตติของ นพ.ระวี ให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากรณีการต่อสัญญาสัมปทานให้แก่บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพื่อแลกกับการยุติกรณีพิพาทซึ่ง กทพ.เป็นฝ่ายแพ้คดี ตามที่นายแพทย์ระวีได้เสนอเป็นญัตติด่วนไปแล้ว เพื่อให้เกิดความรอบคอบ และป้องกันไม่ให้ประเทศชาติ ประชาชนได้รับความเสียหาย โดยนายชวนได้รับเรื่องไว้แล้ว
นพ.ระวีกล่าวว่า การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญในเรื่องดังกล่าวน่าจะดำเนินการได้ปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้า โดยได้รับแจ้งจากประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า องค์ประกอบในกรรมาธิการฯ จะต้องมีตัวแทนจากรัฐบาลด้วย ดังนั้นจึงต้องรอการตอบรับจากฝ่ายรัฐบาลก่อน ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากให้มีการตั้งกรรมาธิการชุดนี้โดยเร็วเพื่อหาทางออกกรณีค่าโง่ทางด่วนและศึกษาการขยายสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะต้องชดเชยให้บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หือ BEM เพื่อแลกกับการจ่ายค่าชดเชยมูลค่า 4.3 พันล้านบาท ในคดีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561 ซึ่งการทางพิเศษฯต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 3 แสนบาท แม้จะยังไม่มีการจ่ายเงินในขณะนี้ แต่ถ้ายิ่งล่าช้าออกไปความเสียหายก็จะมากขึ้น จึงคิดว่ากรอบเวลาการศึกษาของกรรมาธิการไม่ควรเกิน 3 เดือน เพื่อนำผลการศึกษาส่งมอบให้รัฐบาลใหม่ตัดสินใจ โดยในระหว่างนี้ตนจะยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ให้ชะลอการตัดสินใจตามที่มีการเสนอให้ขยายสัญญาสัมปทาน 30 ปีให้กับ BEM แลกกับการยุติข้อพิพาทในคดีต่างๆ ออกไปก่อน โดยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่เป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งตนจะได้เข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล เมื่อได้รับตำแหน่ง รมว.คมนาคมด้วย เพื่อจะได้เสนอแนวทางให้รัฐบาลรอผลการศึกษาจากกรรมาธิการฯ ชุดนี้ก่อน