ข่าวปนคน คนปนข่าว
**"ธรรมนัส พรหมเผ่า" มือทำงานการเมืองตัวจริงของ "ลุงตู่" ที่ก่อนหน้านี้เคยอยู่ "ฝ่ายทักษิณ" แต่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก พอย้ายข้างมาอยู่กับ"พลังประชารัฐ" กลับโดดเด่น ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ด้วยผลงานออกหน้าเคลียร์ปัญหาต่อรองโควตากระทรวง และแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรี ของกลุ่มก๊วนการเมืองได้อย่าง"หมดจด" จนโผครม.นิ่ง พร้อมให้"ลุงตู่" นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ก่อนสิ้นเดือนนี้
ได้รู้ ได้เห็นกันแล้วว่า ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล "ลุงตู่ 2" ประมาณ 1 เดือนกว่าๆ ที่ผ่านมานี้ การต่อรอง แย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรี เข้มข้นขนาดไหน กว่าจะลงตัวได้ โดยเฉพาะโควตากระทรวงเกรดเอ ที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องการ ...ในส่วนของ"พรรคภูมิใจไทย" อาจจะไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไร แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นี่ถือเป็นงานหิน กว่าจะลงตัวได้ "ผู้กองธรรมนัส" ต้องแวะไปนั่งจิบกาแฟกับ "เจ๊ก้อย" ถึง สองรอบ เรื่องถึงจบลงได้
ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เองก็ใช่ยอย เพราะมีหลายกลุ่ม ก๊วน ที่มาอยู่รวมกัน ...อย่างแรงกระเพื่อมจาก "กลุ่มสามมิตร" ที่ไม่พอใจในเก้าอี้รัฐมนตรีที่ได้รับ... กลุ่ม 10 พรรคเล็ก ที่ "มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์" หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ "ตัวห้าว" ที่พยายามทำตัวเป็นหัวหน้ากลุ่ม ออกมาทวงเก้าอี้รัฐมนตรี ถ้าไม่ได้จะย้ายไปอยู่ฝ่ายค้าน... กลุ่ม13 ส.ส.ภาคใต้ หรือ"กลุ่มด้ามขวาน" รวมทั้งกลุ่มส.ส.อีสาน ก็ออกมาประสานเสียง ทวงเก้าอี้รัฐมนตรีเช่นกัน... หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ลงไปเจรจาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล แต่พอ "ลุงตู่" ส่ง"ผู้กองธรรมนัส" ไปเคลียร์ ทุกปัญหาก็เรียบร้อย
สปอตไลต์ จึงฉายจับไปที่ "ผู้กองธรรมนัส" ให้คอการเมืองได้เห็นอย่างเด่นชัดขึ้นมาทันที
"ร.อ.พชร พรหมเผ่า" หรือ "ร.อ.มนัส พรหมเผ่า" ในวันก่อน ที่มาเป็น "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" ในวันนี้ จบจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 25 นายร้อย จปร. รุ่น 36 รุ่นเดียวกันกับ "เสธ.เปา" พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และ "เสธ.หิ" พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ เคยเป็นอดีต ผบ.ร้อยสารวัตรทหาร ประจำ บก.ทหารสูงสุด เป็นคนใกล้ชิดและร่วมกับผู้กว้างขวางในวงการอย่าง "เสธไอซ์" พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต ตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัย จึงมีภาพเป็นทหาร"สายบู๊" ติดตัวมา
อาชีพข้าราชการทหาร สิ้นสุดลง เมื่อปี 2542 หลังจากไปเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม "นายพูลสวัสดิ์ จิราภรณ์" หนุ่มนักเรียนนอก โดยคดีนี้ตำรวจออกหมายจับ ขณะนั้นเขาใช้ชื่อ ร.อ.พชร ในฐานะเจ้าของบ้านเกิดเหตุ กับพวกรวม 3 คน ต่อมาในปี 2546 ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้อง ตัวเขา กับลูกน้องที่เป็นทหารในคดีดังกล่าว
จากนั้นก็ผันตัวเอง มาทำธุรกิจรักษาความปลอดภัยชื่อ "บริษัท ธรรมนัส การ์ด" ซึ่งเป็นบริษัทแรก ที่ดูแลสนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากมีบริษัทการ์ด แล้วยังมีธุรกิจอื่นๆ อีก อาทิ เป็นหุ้นส่วนของ "เจ๊แดง"หรือ "ปลื้มจิตต์ กนิษฐสุต" หจก. ขวัญฤดี ที่ตัวแทนจำหน่ายล็อตเตอรี่รายใหญ่ 1 ใน 5 เสือกองสลาก ที่เบิกลอตเตอรี่ งวดละเป็นพันล้าน ต่อมาชนะการประมูลบริหารตลาดคลองเตยในนามบริษัท "ลิเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล " จากกลุ่มเดิมที่บริหารตลาดมาต่อเนื่องหลายสิบปี จนเกิดเหตุวุ่นวาย เมื่อพ่อค้า-แม่ค้า ก่อม็อบประท้วง ปิดถนนบริเวณแยกคลองเตย และมีเหตุรุนแรงขึ้นหลายครั้ง เคยเป็นผู้บริหารพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักรของการรถไฟแห่งประเทศไทย และยังมีธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ มีทีมฟุตบอลพะเยาเอฟซี
หากจะดูชื่อ บริษัท อย่างเป็นทางการที่ "ผู้กองธรรมนัส" เป็นเจ้าของกิจการ หรือเป็นหุ้นส่วนอยู่ อาทิ บริษัท รักษาความปลอดภัย ที.พี.การ์ด จำกัด , ห้างหุ้นส่วนจำกัด ขวัญฤดี , บริษัท พะเยา เอฟซี จำกัด , ห้างหุ้นส่วนจำกัด กว๊านพะเยาวิลล์ , บริษัท กุ๊กยิ้ม จำกัด, บริษัท โกลเบิล ทราเวล เอเจนซี จำกัด , บริษัท ไชน่า คิงดอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท ตลาดคลองเตย (2551) จำกัด , บริษัท ที เอ เอ็ม (2011) เมเนจเมนท์ จำกัด, บริษัท ธรรมนัส พัทยา การ์ด (2009) จำกัด, บริษัท พิกุล ทรานสปอร์ต จำกัด, บริษัท ภัทรเจริญ ไมนิ่ง จำกัด,บริษัท ยู-เพย์ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ศรีธนวรรณ จำกัด ,บริษัท สบายใจ มาร์เก็ต จำกัด, บริษัท สิทธิอาโป จำกัด และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุวรรณเภรี ส่วนบริษัทที่เลิกดำเนินการแล้ว ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิน ลีเกิ้ล เทคโนโลยี และ บริษัท เอ็น แอล โมบายล์ จำกัด... ที่ยกตัวอย่างมานี้ ยังไม่ถึงครึ่ง ในธุรกิจของ "ผู้กองธรรมนัส" มีอยู่ แต่เพียงเท่านี้ก็เห็นภาพแล้วว่า เป็นระดับ "ขาใหญ่" คนหนึ่ง เพราะธุรกิจที่ทำนั้น ถ้าไม่มีบารมี ทำไม่ได้...
ในช่วงปลายปี 61 นี้เอง ผู้กองคนดัง ยังตกเป็นข่าวพัวพันการฉ้อโกงเงินบิตคอยน์ มูลค่าเกือบ 800 ล้านบาท จากนักลงทุนชาวฟินแลนด์ พร้อมกับ"นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ" ผู้บริหารโบรกเกอร์ชื่อดัง และถูกตำรวจเรียกสอบ ...
"ผู้กองธรรมนัส" ก็เข้าสู่เส้นทางการเมือง ที่พรรคไทยรักไทย ของ "ทักษิณ ชินวัตร" เมื่อปี 42 ดูแลยุทธศาสตร์เลือกตั้งในสนามกรุงเทพฯ โดยอยู่กับอดีตรัฐมนตรีปรีชา เลาหพงศ์ชนะ และอดีตรัฐมนตรีอีกหลายคน เคยได้รับการวางตัวเป็นผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ของพรรค ... ด้วยที่เป็นคนพื้นเพ จ.พะเยา จึงมีความสนิทสนมกับ "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของทักษิณ ชินวัตร ด้วย
หลังคสช.รัฐประหาร และมีการตั้งพรรคพลังประชารัฐ "ผู้กองธรรมนัส" ได้รับการชักชวนจาก"ผู้ใหญ่" ให้มาร่วมทำงานการเมือง รับตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ ดูแลพื้นที่เลือกตั้ง การจัดวางตัวผู้สมัคร และผลงานการเลือกตั้งที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจของพรรค จึงได้รับ "โควตารัฐมนตรี"ไป 1 เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ ซึ่งตัวเขาเองก็คงรู้ว่าตัวเอง"ไม่เหมาะ" กับตำแหน่งรัฐมนตรี จึงให้น้องชาย "อัครา พรหมเผ่า" อดีตรองนายก อบจ.พะเยา มาเป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแทน...ปัจจุบัน "ผู้กองธรรมนัส" แต่งงานกับ "น้องจุ๊บจิ๊บ" ธนพร ศรีวิราช ที่การันตีความงาม ด้วยตำแหน่งนางสาวไทย ปี 2559
**จับตาหนุ่มไฟแรง”เสธ.มิตต์”ลูกเลิฟ "เงาลุงตู่" ยื่นลาออกจากเสธ.ประจำรมว.กลาโหมแล้ว ลุยการเมืองเต็มตัว
เมื่อ"ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไปต่อในฐานะนักการเมือง ทั้งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ "เสธ" ใกล้ตัวใกล้ใจ ไม่ต่างจากเงาอย่าง "เสธ.มิตต์" พล.ต.นิมิตต์ สุวรรณรัฐ นายทหารฝ่ายเสธ. ประจำรมว.กลาโหม ก็ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากราชการทหารเรียบร้อยแล้ว ...ว่ากันว่า "เสธ.มิตต์" ไปลากับ "พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ" ปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งก็คาดว่าเพื่อมารับตำแหน่งทางการเมืองเต็มตัว ตาม"ลุงตู่"
ต้องติดตามอย่ากะพริบตากันทีเดียว เพราะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา "พล.ต.นิมิตต์" ถือเป็นเสธคนสนิทของ "พล.อ.ประยุทธ์" ที่ไว้วางใจมาก ทำหน้าที่ประสานงานด้านการเมือง และติดตามนายกฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการมาโดยตลอด ... การหันเหเส้นทางชีวิตราชการที่สดใส อนาคตไกลมาทำงานการเมืองครั้งนี้ของ เสธ.หนุ่มไฟแรงจึงถือว่าเป็นการตัดสินใจที่สำคัญของเจ้าตัว ยิ่งภาวะการเมืองที่เชี่ยวกราก ท่ามกลาง เสือ สิงห์ กระทิง เขี้ยวลากดิน ย่อมจะเป็นบทพิสูจน์ที่รออยู่อย่างท้าทาย
"เสธ.มิตต์" เป็น เตรียมทหาร รุ่น 30 เรียนจบ นายร้อย Virginia Military Institute หรือ ที่รู้จักกันในนาม นายร้อย VMI สหรัฐอเมริกา อยู่ในสาย"วงศ์เทวัญ" ที่เติบโตมาจาก พล.1รอ. เคยเป็น ผบ.หน่วยคุมกำลัง เช่น เคยเป็น ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ ที่1 รักษาพระองค์ และ เป็น ผบ.กรมพัฒนาที่1 ... จริงๆแล้ว"เสธ.มิตต์" ทำงานกับลุงตู่ มาตั้งแต่ลุงตู่ ยังเป็น แม่ทัพภาค 1 รู้ใจและเป็นมือทำงาน อยู่ข้างกายใกล้ชิดกับลุงตู่มากแค่ไหนคงไม่ต้องบรรยาย ถึงกับพูดกันว่า ถ้าไม่ได้พบ หรือเข้าหาลุงตู่ แต่เจอ"เสธ.มิตต์" ก็เหมือนลุงตู่มาเอง
ไม่เพียงแต่ความสามารถความเป็น เสธ.ด้านทหาร และการเมืองในคอนเนกชั่น ส่วนของแวดวงนักธุรกิจ และ นักลงทุน "เสธ.มิตต์" ก็เป็นที่ยอมรับนับถือ มาถึงตรงนี้ บนเส้นทางการเมืองของ "เสธ.มิตต์" ไม่ว่าจะมอบหมายภารกิจอะไร หรือรับตำแหน่งอะไร ไม่ต้องสงสัยว่า จะเป็นคีย์แมนสำคัญ ที่จะผลักดันเรื่องต่างๆ ของ"ลุงตู่" อย่างแน่นอน