xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโผ รมว.ครม.ลุงตู่ ที่คนจ้องจับตากาหัวมากสุด นิด้าโพลระบุโควต้าประชาธิปัตย์ "เกษตรฯ" ยืนหนึ่ง **"ลุงตู่"คิดหนักเมื่อ"เสี่ยหนู"เสนอชื่อ"ชาดา"เป็น รมช.เกษตรฯ คงต้อง"วัดใจ"ลุงตู่จนถึงวินาทีสุดท้าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ข่าวปนคน คนปนข่าว 

**เปิดโผ รมว.ครม.ลุงตู่ ที่คนจ้องจับตากาหัวมากสุด นิด้าโพลระบุ โควต้าประชาธิปัตย์ "เกษตรฯ" ยืนหนึ่ง เห็นตัวคนสุดจัดตั้งแต่ รมว.ถึง รมช. สองศึกษาฯ "ณัฏฐพล" และรมต.พาณิชย์ วาสนาในคราเคราะห์ ของอู๊ดด้า

หลังจากที่ใช้เวลาต่อรองกันนาน "พลังประชารัฐ"และพรรคร่วมรัฐบาล ดูเหมือนจะจัดสรรเก้าอี้แบ่งกันลงตัว โผคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ปรากฏเป็นข่าวแย้มออกมา จะถูกอกถูกใจหรือจะพากันร้องยี้ ไม่นานเกินรอจะได้รู้กัน

ก่อนที่ ครม.จะเผยโฉม "นิด้าโพล" สำรวจความเห็นเรื่อง "รัฐมนตรีที่ควรเฝ้าจับตามอง" ช่วง13-14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า รัฐมนตรีที่เห็นว่าสำคัญต่อ"รัฐบาลลุงตู่" มากที่สุดอันดับ 1 เป็น "กระทรวงเกษตรฯ" รองมาคือ "ศึกษาธิการ" ต่อด้วยอันดับสาม "กระทรวงพาณิชย์" น่าแปลกใจที่กระทรวงเกรด เอ อย่างคมนาคม ที่ตบตีกันชุลมุน กลับรั้งอันดับรองๆ ลงไป ... น่าคิดและติดตามดูจริงๆ เพราะทั้ง 3 กระทรวงที่ว่า รมว.เป็นโควตาของพรรคร่วม 2 กระทรวง และพลังประชารัฐเพียง 1 กระทรวง

ดูที่กระทรวงเกษตรฯ กันก่อน โผที่ออกมาเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งจัด "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" ที่มีบทบาทสูงในการจูงปชป. เข้าร่วมรัฐบาล รมช.สองคนว่ากันว่า เป็น "ชาดา ไทยเศรษฐ์" คนมากบารมี จากอุทัยธานีของภูมิใจไทย ที่เรียกเสียงฮือฮาตั้งแต่ปรากฏชื่อ ทำนองภูมิใจไทย "ช่างกล้า" ... อีกคนเป็น "ประภัตร โพธสุธน" จากชาติไทยพัฒนา คนเก่าที่เวียนว่ายไปมาประจำกระทรวงนี้ ที่คล้ายเป็นสมบัติประจำตระกูลศิลปอาชา ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่า กระทรวงนี้ มีครบทุกรส บังเอิญที่ดรีมทีมนี้มีชื่อมาเป็น รมต.แล้วถามว่า ทำไมผลสำรวจคนถึงจ้องกระทรวงนี้มากที่สุด

กระทรวงเกษตรฯวันนี้ เป็นกระทรวงใหญ่ อาจจะไม่ถึงเกรด A แต่ก็ใกล้เคียง งบประมาณแผ่นดินหาได้น้อยกว่าใคร ดูแลโครงการเมกะโปรเจกต์ใหญ่ๆ ก็เยอะ เฉพาะเรื่องกาจัดการน้ำ ที่ดินทำกิน และเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมพี่น้องเกษตรกร และปศุสัตว์สมัยใหม่ มีอะไรให้ทำมากกว่าอดีต และต้องไม่ลืมว่าพืชเศรษฐกิจใหม่อย่าง "กัญชา" ที่คนสนใจกันมาก

มาถึงอันดับสอง ที่ประชาชนให้ความสนใจจับจ้องมาก คือ "กระทรวงศึกษาธิการ" เป็นคนของพลังประชารัฐ สาย กกปส. ลูกรักบิ๊กทหาร อย่าง "ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ" ที่พลาดท่าจากกระทรวงใหญ่พลังงาน มาว่าการกระทรวงนี้
อันดับสามประชาชนหมายหัว น่าจะด้วยเหตุผล ความหวังเรื่อง ปากท้องค่าครองชีพ ของคนทั้งประเทศ ... ไม่รู้จะเป็นวาสนาในคราเคราะห์ของ "อู๊ดด้า" จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนใหม่หรือไม่ ที่มีชื่อปรากฏรับตำแหน่งรองนายกฯ ควบ รมว.กระทรวงนี้ ...ก็อย่างที่รู้กัน ประชาธิปัตย์อยากได้ เพราะต้องการโชว์ และ เคลมในช่วงเจรจาต่อรองขอจากพลังประชารัฐเจ้าของกระทรวงเดิม เพราะหาเสียงไว้ อยากเข้ามาดูแลสินค้าเกษตร แต่พาณิชย์ พ.ศ. นี้ไม่ง่าย ... ไหนจะสงครามการค้า ไหนจะปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ ไม่นับที่ "สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" รมว.คนก่อน ทำมาตรฐานไว้ งานนี้มีเจ๊า และเจ๊งสูง

ส่วนกระทรวงอิ่นๆ ที่รองจาก 3 กระทรวงที่ว่ามา อันดับ 4 ระบุว่าเป็น "รมว.กลาโหม" ซึ่งตามโผ "ลุงตู่" จะนั่งควบแทน"ลุงป้อม" ประวิตร วงษ์สุวรรณ ... อันดับ 5 ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ อันดับ 6 ระบุว่าเป็น รมว.คลัง ซึ่งน่าจะเป็น "อุตตม สาวนายน" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พี่ใหญ่ของ 4 กุมาร ... อันดับ 7 เป็น รมว.มหาดไทย ที่ "ลุงป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จับจองเก้าอี้เหนียวแน่นมาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว

อันดับ 8 รมว.คมนาคม ซึ่งยื้อแย่ง ต่อรองมากที่สุด จนที่สุด รมว.กลายเป็นโควต้าของภูมิใจไทย "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" อันดับ 9 โพลระบุว่าเป็น รมว.สาธารณสุข ซึ่งแน่นอนว่า กระทรวงสาธารณสุข ตามโผรายชื่อ ไม่ใข่ใครอื่นต้องเป็น " เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งประกาศตั้งแต่อยู่ในมุ้ง เป็นนโยบายพรรค อยากจะเข้ามาคุมกระทรวงหมอ เพราะต้องการทลายข้อจำกัด "เดินหน้านโยบายกัญชาเสรี"

อาจจะเพราะด้วยเหตุผลนี้ เพราะกัญชารักษาโรคเป็นความหวังของประชาชน และ เป็นกระแสที่จุดประกายความหวังของทั้งผู้ป่วย และเกษตรกรผู้ต้องการพลิกฟื้นความเป็นอยู่ ด้วยพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าทางการแพทย์สูง "เสี่ยหนู" ประกาศชัดเจนตั้งแต่ตอนหาเสียง เก้าอี้ตัวนี้ขอจอง และเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเจรจาร่วมรัฐบาล นี่อาจจะเป็นเหตุผลว่า ทำไมโพลถึงจับจ้องกระทรวงนี้

อันดับ 10 ระบุว่าเป็น รมว.แรงงาน อันดับ 11 รมว.ยุติธรรม อันดับ 12 รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อันดับ 13 รมว.การต่างประเทศ และ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสัดส่วนที่เท่ากัน อันดับ 14 เป็น รมว.อุตสาหกรรม อันดับ 15 รมว. พลังงาน อันดับ 16 เป็น รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา อันดับ 17 ระบุว่าเป็น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อันดับ 18 รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อันดับ 19 เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ อันดับ 20 ที่คนไม่ค่อยจับตามอง หรือ มองน้อยที่สุดเป็น รมว.วัฒนธรรม

จากโพล รมว.คนสำคัญที่เฝ้าจับตามาถึงคนที่ชาวบ้านไม่อยากให้เป็นรมว. มาลองดูว่า มีสเปกแบบไหน
โพลชี้ว่า ลักษณะของบุคคลที่ไม่ควรให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมากที่สุด พบว่า อันดับ 1 บุคคลที่มีข่าวหรือภาพลักษณ์ในอดีตไม่โปร่งใส ไม่ซื่อสัตย์ ...รองลงมา อันดับ 2 เป็น บุคคลที่ไม่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งรัฐมนตรีที่ได้รับ และ อันดับ 3 ระบุว่า เป็น บุคคลที่อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน เช่น คนที่มีธุรกิจหรือมีคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง ทำธุรกิจเกี่ยวพันกับกระทรวงที่จะเข้าไปดูแล

อันดับ 4 ระบุว่าเป็น บุคคลที่มีชื่อเสียงว่าเป็น "เจ้าพ่อ มาเฟีย ผู้มีอิทธิพล" อันดับ 5 ร้อยละ 16.72 ระบุว่าเป็น บุคคลที่มีชื่อเสียงว่า สนใจแต่ผลประโยชน์ของจังหวัดของตนเองมากกว่าของทั้งประเทศ
โผครม.ที่แบออกมา มีบุคคลที่ประชาชนเห็นว่าไม่ควรมาเป็นรมว.เช่นนี้อยูหรือไม่ ...หาคำตอบกันไม่ยาก.

**"ลุงตู่"คิดหนัก เมื่อ"เสี่ยหนู" เสนอชื่อ "ชาดา ไทยเศรษฐ์" ผู้ยิ่งใหญ่แห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง เป็น รมช.เกษตรฯ ขณะที่ ปชป. มีมติ เสนอชื่อ "นิพนธ์ บุญญามณี" นั่งรมช.มหาดไทย ทั้งที่มีเรื่องร้องเรียนที่ ป.ป.ช. อยู่หลายเรื่อง คงต้อง "วัดใจ" ลุงตู่จนถึงวินาทีสุดท้าย ก่อนลงนาม นำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ

ถึงวันนี้ การจัดวางตัวบุคคลเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลค่อนข้างนิ่งแล้ว และมีกำนดจะเสนอรายชื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันนี้
ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยนั้น ชื่อของ "ชาดา ไทยเศรษฐ์" ว่าที่รมช.เกษตรและสหกรณ์ ถูกจับตาจากสังคมเป็นอย่างมาก ถึงความเหมาะสม และเพราะทันที ที่มีข่าวว่า"ชาดา" จะได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ก็มีกระแสข่าวออกมาทันทีว่า "ลุงตู่ไม่ปลื้ม" เนื่องเพราะภาพในอดีตของเขานั้น คือผู้กว้างขวางระดับ "เจ้าพ่อ" แห่งอุทัยธานี และหลังเกิดเหตุการณ์ "รัฐประหาร" เมื่อปี 57 เขาก็ถูกตำรวจบุกค้นบ้านมาแล้วถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรก ตำรวจกองปราบเปิดยุทธการสะแกกรังปิดล้อม ตรวจค้นเครือข่ายผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้างใน จ.อุทัยธานี ครั้งที่ 2 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. นำกำลังตำรวจค้นบ้านผู้มีอิทธิพล และละเมิดกฎหมาย รวมทั้งบ้านพักนายชาดาด้วย และครั้งที่ 3 พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษณ์ ผบช.ก. เปิดยุทธการไพร่ฟ้าหน้าใส ตรวจค้นบ้านผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.อุทัยธานี รวม 30 จุด แต่เหตุการณ์เหล่านี้ "ชาดา" ชี้แจงว่า ตำรวจ ไม่ได้เข้ามาค้นบ้านเขา แต่มีไปค้นบ้านคนอื่น อาจเป็นเพราะสืบทราบว่า มีบุคคลกระทำผิด หรือปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย ซึ่งตัวเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะตามหลักศาสนาอิสลาม เรื่องนี้เป็นเรื่องความผิด เป็นบาปที่ร้ายแรง เขาไม่ทำแน่

ในมุมมองของ"เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แล้ว การที่ "ชาดา" ออกจากพรรคชาติไทยพัฒนา มารับตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รับผิดชอบสนามเลือกตั้งลุ่มน้ำสะแกกรัง และยังไปช่วยหาเสียงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ จนประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ จึงน่าจะได้โควตารัฐมนตรี เป็นการตอบแทน โดยตอนแรก มีชื่อโผล่มาว่า จะเป็น รมช.มหาดไทย แต่สุดท้ายก็มาลงตัวที่ รมช.เกษตรฯ เพราะเคยเป็นประธานกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ก่อตั้ง "สมาคมชาวไร่อ้อยไทยเศรษฐ์" จ.อุทัยธานี และ นำชาวไร่อ้อยอุทัยธานี เข้าสู่การเป็นสมาชิกสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ...

ภาพจดจำของ "ชาดา" ที่บางคนอาจไม่รู้คือ ในช่วงปลายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เขานำทัพเกษตรกรอุทัยธานี พร้อมรถอีแต๋น อีแต๊ก รถไถนา และรถยนต์ปิกอัพ หลายร้อยคัน เคลื่อนจากลุ่มน้ำสะแกกรัง มาตามถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงเงินค่าจำนำข้าว แต่ม็อบอีแต๋น มาได้แค่ จ.อยุธยา เพราะตัวแทนรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ รีบรุดไปเจรจา และรับปากจะจ่ายเงินให้ชาวนา ขบวนอีแต๋น จึงสลายตัวไป

ล่าสุด ก่อนจะส่งชื่อรัฐมนตรีของพรรคให้ นายกฯ "เสี่ยหนู" ยังพูดถึงเรื่องขอให้เปลี่ยนตัว "ชาดา" ว่า เป็นแค่ข่าวปล่อย แต่ถึงที่สุดแล้วจะได้เป็นรัฐมนตรี ตามที่พรรคเสนอไปหรือไม่ ขอวัดใจ "ลุงตู่" เป็นด่านสุดท้าย...

อีกคน ที่เพิ่งเป็นข่าวขึ้นมาก็ คือ "นายนิพนธ์ บุญญามณี" รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ อดีต นายกอบจ.สงขลา ที่พรรคมีมติส่งไปดำรงตำแหน่ง "รมช.มหาดไทย"...ด้วยมีผลงานในการเจรจากับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเข้าร่วมรัฐบาล จนได้มา 8 เก้าอี้รัฐมนตรี

แต่ "นายศรีสุวรรณ จรรยา" เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ก็ลุกขึ้นมาปลุกกระแส และเตรียมไปยื่นเรื่องคัดค้านต่อนายกรัฐมนตรี ในวันนี้ โดยเขาระบุว่า ได้ไปตรวจสอบประวัติ การทำหน้าที่นายก อบจ.สงขลา ของนายนิพนธ์ แล้ว พบว่ามีเรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับการใช้อำนาจ และการปฏิบัติหน้าที่ ที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายเรื่อง หลายโครงการ บางเรื่องอยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช. หากได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รมช.มหาดไทย อาจไม่เหมาะสม

"ศรีสุวรรณ" ได้ยกตัวอย่างโครงการที่ถูกร้องเรียน อาทิ ... โครงการประมูลซื้อรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ ชนิด 10 ล้อ 2 คัน วงเงิน 52 ล้านบาท แต่ไม่ยอมเบิกจ่ายเงินให้กับผู้ชนะการประมูลตามสัญญา จนเอกชนนำความไปฟ้องคดีต่อศาลปกครองสงขลา และศาลได้พิพากษาให้ อบจ. ต้องจ่ายเงินทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยตามสัญญา ซึ่งเป็นเหตุให้ราชการเสียหาย เพราะต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่ม ซึ่งเรื่องนี้ ได้มีการร้องเรียนต่อป.ป.ช.แล้ว ... โครงการเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา ที่ถูกร้องว่ามีการใช้งบประมาณ เกินกว่าอำนาจหน้าที่ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2547 ทำให้รัฐสูญเสียเงินไปกว่า 34 ล้านบาท ซึ่งเรื่องดังกล่าว สตง. มีมติให้เรียกเงินจำนวนดังกล่าวคืนทั้งหมด และก็มีผู้นำไปร้องเรียนเอาผิดต่อ ป.ป.ช. แล้วเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีโครงการจัดซื้อจัดจ้างรถอุบัติเหตุฉุกเฉิน ในราคาที่แพงเกินเหตุ ... โครงการสร้างสวนสาธารณะเมืองสงขลา เพื่อการท่องเที่ยว โดยใช้งบกว่า 375 ล้านบาท ... การอนุมัติงบประมาณ โครงการให้ 4 อำเภอ ใน จ.สงขลา มากกว่าอำเภออื่นๆ ทำให้ขาดความเสมอภาค และบริษัทที่ได้งานรับเหมาก็เป็นบริษัทเดิมๆ ที่เคยทำงานให้ อบจ. ยุคที่ นายนิพนธ์ เป็นนายกฯ จึงเข้าข่ายเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กัน ซึ่งเรื่องต่างๆเหล่านี้ล้วนถูกร้องเรียนไปที่ ป.ป.ช.

"ศรีสุวรรณ"เห็นว่า หาก"นิพนธ์ บุญญามณี" ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย โดยที่ยังมีเรื่องร้องเรียนอยู่ในป.ป.ช.เช่นนี้ อาจจะทำให้ ครม.ของ"ลุงตู่" ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ขาดความ "สง่างาม" และยังเป็นการพิสูจน์ว่า "ลุงตู่" จะเอาจริงเอาจังต่อการปราบปรามทุจริต คอร์รัปชัน หรือไม่ด้วย

ดังนั้น"โผครม." ที่ว่า นิ่ง ว่าลงตัวแล้ว ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด จนถึงวินาทีสุดท้าย ที่ "ลุงตู่" จรดปากกา ลงนาม แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯ จึงจะถือว่า 100%




กำลังโหลดความคิดเห็น