xs
xsm
sm
md
lg

เด็ก พปชร.วอนพรรคเก็บกระทรวงสำคัญ “เกษตร-คมนาคม” ต้องอยู่ในมือสานต่องาน-ทำตามหาเสียง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายสิระ เจนจาคะ (แฟ้มภาพ)
“สิระ เจนจาคะ-อนุชา น้อยวงศ์” วอนผู้ใหญ่ใน พปชร.เก็บกระทรวงสำคัญ สานนโยบายหาเสียง รักษาสัญญาประชาชน ลั่นเกษตร-คมนาคมต้องอยู่ในมือ สานต่องานโครงสร้างคมนาคม-แก้ปัญหาพืชผลทางการเกษตรตามที่ได้หาเสียง

วันนี้ (6 มิ.ย.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.เขต 9 กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมรัฐสภาลงมติเสียงข้างมากเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าในฐานะตัวแทน ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ มีความรู้สึกภาคภูมิใจที่สมาชิกรัฐสภาเคารพเสียงของประชาชน และมีมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ เป็นไปตามมติมหาชนผ่านคะแนนเสียง 8.4 ล้านเสียงของพรรคพลังประชารัฐ มากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ภายหลังที่พรรคพลังประชารัฐสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นั่นหมายถึงประเทศของเรากำลังเดินไปข้างหน้าตามระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง

นายสิระเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ภายในพรรคพลังประชารัฐ มีความกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับกระแสข่าวการแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนนโยบาย ที่พวกเราได้ไปหาเสียงไว้กับประชาชนทั่วประเทศ จึงอยากฝากไปยังนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ผู้ได้รับมอบหมายเจรจาประสานงานจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า เราในฐานะแกนหลักของรัฐบาล ต้องได้ดูแลกระทรวงสำคัญต่างๆ เพื่อสานงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งขับเคลื่อนงานนโยบายที่ได้หาเสียงไว้

“พรรคพลังประชารัฐควรได้ดูแลในส่วนกระทรวงสำคัญที่ดูแลในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ซึ่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ได้ริเริ่มไว้หลายโครงการ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาพืชผลทางการเกษตร ที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน” นายสิระระบุ

นายสิระกล่าวอีกว่า กระแสข่าวที่ออกมาทำให้บรรดา ส.ส.ของพรรคเกิดความสับสนในเรื่องการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะมีแนวโน้มที่พรรคพลังประชารัฐจะไม่ได้ดูแลกระทรวงที่สามารถทำงานเข้าถึงประชาชนได้อย่างแท้จริงนั้น ประกอบกับจะเกิดปัญหาในระยะยาว เพราะเราไม่สามารถทำงานตามที่รับปากกับประชาชนได้ ผู้ใหญ่ในพรรคต้องให้ความสำคัญว่า พรรคเราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ หากจะทำการเมืองต่อไปต้องดูแลภาคเกษตร ไม่ว่าจะเป็นชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ พืชผลทางการเกษตร ส.ป.ก.4.0 ซึ่ง ส.ส.ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย เพราะเราเคยหาเสียงไว้กับพี่น้องประชาชน หากเราไม่ได้เข้าไปดูแลกระทรวงเกษตรฯ จะไม่สามารถผลักดันโครงการต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

“อยากให้ผู้บริหารพรรคและกรรมการบริหารพรรคทุกคนเข้าใจ ในสิ่งที่เราเคยรับปากกับประชาชนในการหาเสียงไว้ด้วย เพราะนโยบายเหล่านี้ทำให้เราได้ ส.ส.ถึง 116 ที่นั่ง อีกทั้งเป็นเพียงพรรคเดียวที่มี ส.ส.มาจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เราไม่ควรที่จะโกหกประชาชน และควรปกป้องสิทธิในฐานะพรรคแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล” นายสิระระบุ

ด้านนายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในฐานะอดีตกลุ่มสามมิตร ที่ก่อตั้งและได้เดินทางปราศรัยช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั่วประเทศมาก่อนที่จะเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ได้สัมผัสและรับฟังปัญหาของพี่น้องเกษตรกรมาตลอด จึงมีความเห็นว่านโยบายด้านการเกษตรถือเป็นภารกิจสำคัญของพรรคพลังประชารัฐที่ต้องขับเคลื่อนโดยเร่งด่วน เพื่อคลี่คลายวิกฤตความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน พวกเราจึงเห็นว่าควรมีคนของพรรคพลังประชารัฐเข้ารับตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ ส่วนการพิจารณาบุคคลใดที่มีความเหมาะสมนั้นถือเป็นอำนาจของนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล




กำลังโหลดความคิดเห็น