แกนนำ พปชร.แถลงพร้อม 5 พรรคเล็ก ร่วมเจตนารมณ์ ปัดส่งสัญญาณตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ชี้ เป็นการพบปะพุดคุยเหมือนที่เคยเทียบเชิญ 3 พรรคก่อนหน้านี้ ยันมีข้อเสนอตอบ ปชป.กลับแล้ว รอกระบวนการภายในของแต่ละพรรค ย้ำเป้าหมายตั้งรัฐบาลเกิน 250 เสียง
วันนี้ (4 มิ.ย.) เวลา 12.00 น.ที่โรงแรมเดอะสุโกศล นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรครวมพลังประชาชาติไทย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นายชัชวาลย์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย นายดำรง พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย และ นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป แถลงข่าวภายหลังหารือเกี่ยวกับการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล
นายอุุตตม กล่าวว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐได้รับเกียรติจากพรรคการเมืองที่มีเจตนารมณ์ในการร่วมกันทำงานเพื่อประเทศ เพื่อหารือเกี่ยวการตั้งรัฐบาลเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไป หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสเดินสายไปพบปะพรรคการเมืองที่มีเจตนารมณ์เดียวกันพรรคอื่นๆ แล้ว ซึ่งถือว่าค่อนข้างครบถ้วนแล้ว ไม่ใช่การมาส่งสัญญาณเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะเรายังมุ่งหวังตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เพื่อทำงานให้ประชาขน ซึ่งการพบปะวันนี้ได้พูดคุยเรื่องนโยบายของแต่ละพรรค ว่าจะขับเคลื่อนกันอย่างไร เมื่อคุยเกี่ยวกับนโยบายแล้วก็จะจัดสรรโครงสร้างบุคลากรในการขับเคลื่อนงานให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งรูปแบบการหารือเป็นเหมือนกันทุกพรรค ที่เราได้ไปเทียบเชิญ
ด้าน นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ในแง่ตัวบุคคลที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลพรรครวมพลังประชาชาติไทย ชัดเจนว่าหนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการมาพบปะพูดคุยกันวันนี้ คือ นำนโยบายแต่ละพรรคมาผสมผสานร่วมกัน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจชาวบ้าน และในเวลา 17.00 น.จะประชุม กก.บห.และ ส.ส.เพื่อมีมติอย่างเป็นทางการตามระเบียบพรรค
ด้าน นายสุวัจน์ กล่าวขอบคุณ พรรคพลังประชารัฐที่ได้ให้เกียรติพรรคชาติพัฒนาเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่สภาจะมีนักการเมืองหลากหลาย จากพรรคเกือบ 30 พรรค จึงไม่ง่ายที่จะรวมเสียงตั้งรัฐบาล ให้มีเสถียรภาพ ดังนั้น ในฐานะที่พรรคชาติพัฒนาเป็นพรรคการเมืองมา 20 ปี จึงจำเป็นต้องสนับสนุนการตั้งรัฐบาล ที่สำคัญ ได้เห็นความตั้งใจของ พปชร.ในการเชิญพรรคใหญ่ๆ เลยตอบรับคำเชิญของ พปชร.พร้อมฝากนโยบาย 9 นโยบายให้ผลักดัน โดยในเวลา 14.00 น.นี้ จะประชุมพรรคเพื่อมีมติเป็นทางการ แล้วส่งมติทางการมายัง พปชร.
เมื่อถามว่า วันนี้เป็นการแถลงข่าวปิดดีลหรือไม่ หรือ ต้องรอความชัดเจนของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย นายอุตตม กล่าวว่า อย่างที่เรียนไว้ วันนี้ไม่ใช่การปิดดีล เราได้เชิญทั้ง 5 พรรคมาพบกัน ก่อนหน้านี้ เราพบประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา มาแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้มีเจตนารมณ์การทำงานในทิศทางเดียวกัน วันนี้จึงไม่สามารถพูดได้ว่ามาปิดดีลอะไรทั้งนั้น วันนี้เรามาแสดงเจตนารมณ์ร่วมกัน ส่วนแนวทางการหารือของทุกพรรคก่อนหน้านี้ ก็เป็นแนวทางเดียวกับ 5 พรรคที่มาเจอกันวันนี้ โดยพูดถึงนโยบายแนวทางที่จะทำงานร่วมกัน ส่วนรายละเอียดจะตามมา ในส่วนของพรรคที่จะมีขั้นตอนตามมาเราก็ต้องให้เกียรติกันให้ท่านดำเนินการให้เสร็จก่อน โดยยืนยันว่าเรายังมุ่งมั่น ตั้งเป้า ตั้งรัฐบาล ให้มีเสถียรภาพ เพื่อทำงานให้พี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า กังวลพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ในสภาวะเสียงปริ่มน้ำ นายอุตตม กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวล เพราะวันนี้เราได้ฟังพรรคร่วมแถลงไปแล้ว ทุกคนมาด้วยความตั้งใจที่จะทำงานให้ประเทศชาติ เพราะหากเอาเป้าหมายดังกล่าวเป็นหลัก การจัดสรรกำลังต่างๆ คุยกันได้ เพราะเป็นปกติทางการเมือง และเชื่อว่าจะลงตัว
เมื่อถามว่า การโหวตเลือกนายกฯ สัญญาณทางพรรคประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย เป็นอย่างไรบ้าง นายอุตตม กล่าวว่า เข้าใจว่า ทั้ง 2 พรรคยังมีการดำเนินการอยู่ ถือให้เขาดำเนินการให้เสร็จ เราไม่ควรไปพูดก่อน แต่เรายืนยันเดินหน้าในการโหวตเลือกนายกฯ แน่นอน
เมื่อถามว่า มั่นใจว่า จะได้เสียง ส.ส.โหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เกิน 250 คนขึ้นไปหรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า นั่นเป็นเป้าหมายของเรา
เมื่อถามว่า หากเสียง ส.ส.ไม่ถึง 250 คน กระบวนการโหวตนายกฯ จะดำเนินการต่อไปหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เราก็ดำเนินไปตามกระบวนการประชาธิปไตย ที่เป็นอยู่และตามรัฐธรรมนูญ อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ว่าจะเกิดอย่างไร
เมื่อถามย้ำว่า หากได้ ส.ส.ไม่ถึง 250 ก็กัดฟันตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยใช้หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เรามีกรอบอยู่แล้ว แต่วันนี้ยังเร็วเกินไป เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยจะเกิดได้มั้ย หรือ อย่างไร ต้องรอให้ ส.ส.และ ส.ว.ในสภาได้ทำงานก่อน
เมื่อถามว่า การแถลงข่าววันนี้ เป็นการส่งสัญญาณว่า พปชร.จะโหวตเลือกนายกฯ ไปก่อนแล้วตั้งรัฐบาลทีหลัง นายอุตตม กล่าวว่า การแถลงวันนี้คือสัญญาณเดียวกับ 3 พรรคที่เราไปเทียบเชิญก่อนหน้านี้ ก็มีเจตนารมณ์เดียวกันในการร่วมรัฐบาล นั่นคือ สิ่งที่เราต้องการนำเสนอในวันนี้ และยืนยันว่า 5 พรรคการเมืองวันนี้ ยืนยันร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ รอเงื่อนไขพิเศษจากพรรคพลังประชารัฐ นายอุตตม กล่าวว่า เราได้หารือกันมาโดยตลอด และเราก็มีข้อเสนอจากเราที่เสนอไปแล้วเช่นเดียวกัน เชื่อว่า ประชาธิปัตย์ก็มีกระบวนการภายในที่จะพิจารณา ส่วนข้อเสนอเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ มีความเห็นร่วมกันว่าเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร ซึ่งถ้าจะทำจริงต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง ถ้าจะแก้ไขก็ต้องพิจารณาร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อเรียกร้องให้ผู้ถูกเสนอตัวเป็นนายกฯ แสดงวิสัยทัศน์ ทางพลังประชารัฐมีการเตรียมการอย่างไร นายอุตตม กล่าวว่า เรามีการเตรียมการในทุกประเด็น และมีความมั่นใจอธิบายได้ แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีการพูดเรื่องอะไร และที่ผ่านมาไม่เคยมีการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งไหนต้องแสดงวิสัยทัศน์ อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงวิสัยทัศน์มาแล้ว 5 ปี ถือว่าได้ฟังมาแล้วพอสมควร
เมื่อถามว่า มีความมั่นใจหรือไม่ว่า 250 ส.ว.จะลงคะแนนอย่างเป็นเอกภาพ นายอุตตม กล่าวว่า เป็นเรื่องของ ส.ว.เพราะท่านมีความคิดของท่านเอง
คำต่อคำ พลังประชารัฐแถลงจับมือ 5 พรรคเล็ก
อุตตม สาวนายน
ในวันนี้พรรคพลังประชารัฐได้เชิญและได้รับเกียรติจากพรรคการเมืองที่เรามีเจตนารมณ์ร่วมกันในการที่จะทำงานให้ประเทศชาติ ให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อที่จะเดินหน้าไป ก่อนอื่นผมขอเรียน วันนี้ท่านที่กรุณาให้เกียรติมา ประกอบด้วย ท่านทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรครวมพลังประชาชาติไทย ท่านสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ท่านชัชวาลย์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย ท่านดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าไทย ท่านไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป
วันนี้พวกเรามาพร้อมกัน ก่อนอื่นผมขอเรียนเพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนเลยว่า วันนี้เป็นวันที่เรานัดพบปะกันในฐานะที่เรามีเจตนารมณ์ร่วมกัน ก็มีข่าวออกไปว่าวันนี้พรรคพลังประชารัฐเชิญท่านทั้งหลายมา จะจัดตั้งรัฐบาลเลยหรือ ไม่รอพรรคอื่นหรือ ก็เรียนว่านั่นไม่ใช่ความตั้งใจในวันนี้ ความตั้งใจในวันนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พรรคพลังประชารัฐได้เชิญพรรคที่มีเจตนารมณ์ร่วมกัน มาพูดคุย มาแสดงเจตนารมณ์นั้น ก่อนหน้านี้เราก็ได้มีโอกาสพบปะกับพรรคการเมืองอื่นดังที่ท่านได้ทราบแล้ว วันนี้ก็ถือโอกาสเชิญพรรคการเมืองที่ท่านมาร่วมกับเรา พบปะในวันนี้ เนื่องจากเวลาก็เหลือไม่มาก พรุ่งนี้ก็สภาฯ แล้ว ก็เหลือวันนี้ ก็เลยเชิญทุกท่านมาพร้อมกัน อันนี้ก็เรียนเพื่อให้เกิดความชัดเจนในความเข้าใจว่าวันนี้เป็นเช่นนั้น เราได้เดินสายพบปะกับพรรคที่ร่วมเจตนารมณ์มาแล้ว วันนี้เป็นอีกวันหนึ่ง ก็เชื่อว่าน่าจะครบถ้วนแล้ว ไม่ใช่การที่จะไปจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย อะไรเช่นนั้น ไม่ใช่นะครับ ไม่ใช่เจตนารมณ์ ความตั้งใจเรายังเหมือนเดิม คือมุ่งไปสู่การตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ สามารถทำงานรับใช้ (***สัญญาณหาย***) วันนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น
เราได้หารือกัน เริ่มตั้งแต่แนวทางการร่วมงาน ซึ่งเราเห็นพ้องต้องกันว่าเราเริ่มจากการพูดคุยในเชิงนโยบาย แต่ละพรรคมีนโยบายที่ได้นำเสนอกับพี่น้องประชาชนไว้ เรามาทำงานร่วมกัน เราก็คงต้องมาหารือกันให้ชัดเจนว่า ในเชิงนโยบายเราจะร่วมกันขับเคลื่อนอย่างไร แล้วเมื่อพูดกันเรื่องนโยบายแล้ว ก็จะนำไปสู่การจัดสรรโครงสร้างบุคลากร หน่วยงานที่จะทำให้การขับเคลื่อนนโยบายนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันนั้นก็จะตามมา แต่วันนี้เรามาแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันอีกครั้งหนึ่งว่า เราจะเดินหน้าไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล ไม่เพียงแต่กลุ่มเราในวันนี้นะครับ อย่างที่ผมเรียน พรรคอื่นที่ร่วมเจตนารมณ์ตามที่ได้เป็นข่าวไปแล้ว ก็เช่นเดียวกัน นี่ก็เป็นที่มาของงานวันนี้ ก็อยากจะให้ท่านสื่อมวลชนได้มีโอกาสซักถาม แล้วก็อยากจะเรียนเชิญทุกท่านในที่นี้ได้กรุณาให้ข้อมูลด้วย
ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง
สวัสดีครับทุกท่าน ที่จริงก็ไม่มีอะไรที่จะต้องเกริ่นมากนัก ก็นอกจากพรรค รปช.ของเรา รวมพลังประชาชาติไทย ผมเข้าใจว่าเป็นที่ทราบกันอยู่ในทางสาธารณะมาพอสมควรแล้วว่าในแง่ของตัวบุคคลที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาลต่อไป พรรคเราได้แสดงท่าที พูดชัดนานแล้ว ว่าเราจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี อันนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร นอกนั้นก็อย่างที่ท่านอุตตมได้กล่าว ว่าการมาพบปะพูดจา และคุยกันในเรื่องของนโยบายของแต่ละพรรคที่จะเอามาผสมผสานในการตั้งรัฐบาลร่วมกัน ก็อย่างที่ทราบกันว่าทุกพรรคก็มีนโยบายที่เราได้บอกกล่าว เราได้ประกาศ เราได้ขายไว้กับประชาชน ดังนั้นก็เป็นเรื่องที่จะต้องเอามาพยายามผสมผสานกัน ปัญหาเฉพาะหน้าที่สุด นโยบายเฉพาะหน้าพื้นฐานที่สุดสำหรับพรรค รปช.ของเราก็คือ เรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจชาวบ้าน ผมเข้าใจว่าทุกพรรคได้สัมผัสปัญหาเศรษฐกิจชาวบ้านมาพร้อมๆ กัน ในฤดูกาลหาเสียงที่ผ่านมานี้ นั่นก็เป็นสิ่งที่เป็นเรื่องที่ผมถือว่าเป็นนโยบายเฉพาะหน้า ส่วนนโยบายหลักเรื่องอื่นๆ นั้นก็คงค่อยๆ คุยรายละเอียดกัน ขอบคุณมากครับ
สุวัจน์ ลิปตพัลลภ
ในนามของพรรคชาติพัฒนา ผมต้องขอขอบคุณท่านอุตตม ท่านหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้ให้เกียรติเชิญพรรคชาติพัฒนาในการที่จะเข้าร่วมรัฐบาล ผมก็อยากจะเรียนสื่อมวลชนทุกท่านว่า เราได้มีการเลือกตั้งกันมาตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม มาวันนี้ก็สองเดือนกว่าแล้ว ตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนสอบถาม มีความกังวลเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล รวมทั้งต่างประเทศ นักลงทุน (สัญญาณสะดุด) เรามีเลือกตั้งแล้ว ถ้าเราสามารถจัดรัฐบาลได้ ก็เหมือนกับเหตุการณ์ต่างๆ ของบ้านเมืองก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ เราจะได้ทำงานกันในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้พี่น้องประชาชนในชนบท เกษตรกร หรือว่าเศรษฐกิจรากหญ้า กำลังต้องการมาตรการหรือนโยบายอย่างเร่งด่วนจากรัฐบาลใหม่ในการที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหา แล้วก็นักลงทุน ตลาดหุ้น การท่องเที่ยว การส่งออกต่างๆ เขาก็ต้องการเห็นนโยบายที่ชัดเจนจากรัฐบาลใหม่ จากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และวันนี้สงครามการค้าที่กำลังจะเป็นปัญหากับเศรษฐกิจโลกที่ต้องมีผลกระทบต่อประเทศไทย ผมคิดว่าเรามีความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการจากรัฐบาลใหม่ในการที่จะเข้ามากอบกู้เศรษฐกิจ ฉะนั้นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นที่จะต้องมีความร่วมมือกันในระหว่างพรรคการเมือง เพื่อให้มีการจัดตั้งรัฐบาลได้
แต่ก็อย่างที่ทุกท่านได้ทราบ ว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เราก็ต้องยอมรับเสียงของพี่น้องประชาชน ก็คงจะเป็นครั้งแรกที่เราจะมีสภาฯ ที่มีพรรคการเมืองหลากหลาย ตั้งแต่ 1 เสียง จนกระทั่งมากกว่า 100 เสียง เกือบ 30 พรรค เป็นความหลากหลายในระบอบประชาธิปไตยที่เป็นคำตอบจากพี่น้องประชาชน ฉะนั้นก็ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายในการที่จะรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล และโดยเฉพาะในเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล ที่เราก็จะต้องยอมรับกันว่า นอกจากเราจะมีพรรคการเมืองเยอะแล้ว จุดยืนทางการเมืองของแต่ละพรรคที่เป็นอุดมการณ์ของแต่ละพรรคนั้น ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดความไม่ง่ายนักในการที่จะจัดรัฐบาลที่มีเสถียรภาพด้วย ฉะนั้นจากเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมด ผมคิดว่าพรรคชาติพัฒนาในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองที่มีอายุมา 20 กว่าปี ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งจะต้องเข้ามาช่วยกันสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาล และได้เห็นความตั้งใจของพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้เชื้อเชิญพรรคการเมืองใหญ่ๆ เพื่อให้ได้เสียงมากเพียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ฉะนั้นก็เลยได้มาร่วมแถลงข่าววันนี้ในการตอบรับคำเชิญของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งก่อนที่จะตอบรับคำเชิญกันนั้น ก็ได้มีการหารือและได้ฝากกับท่านหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐไว้ด้วยว่า พรรคชาติพัฒนาเองก็มีนโยบายในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่สำคัญ ตามที่เราได้บอกกับพี่น้องประชาชนไว้ในช่วงเลือกตั้ง เราก็มีนโยบายที่เรียกว่า ก้าวหน้า ก้าวไกล ไทยไร้ปัญหา ก็มีอยู่ 9 ประการ ก็เป็นนโยบายทางด้านการศึกษา นโยบายด้านสังคม นโยบายด้านเศรษฐกิจรากหญ้า นโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายด้านพลังงาน อุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม นโยบายขับเคลื่อนการท่องเที่ยว นโยบายเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล นโยบายกระจายอำนาจ และนโยบายเรื่องการกีฬา ซึ่งก็ได้หารือกันแล้วว่า อยากจะฝากให้พรรคพลังประชารัฐได้พิจารณานโยบายต่างๆ ซึ่งเรามีความเชื่อมั่นว่าเป็นนโยบายที่ดี และประสบความสำเร็จมาแล้ว อยากให้เป็นส่วนหนึ่งของการประกอบกันขึ้นเป็นนโยบายรัฐบาลต่อไป
ส่วนในเรื่องภารกิจงานต่างๆ ที่จะมีการมอบหมายกัน ก็อย่างที่ท่านหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้เรียนไว้ว่า จะได้มีการหารือกันต่อไป วันนี้ผมก็มารับคำเชิญ แต่ว่ามติพรรคอย่างเป็นทางการ วันนี้ตอนบ่ายสองโมงตรง พรรคชาติพัฒนา โดยท่านหัวหน้าพรรค คือคุณเทวัญ ลิปตพัลลภ กับผู้ที่ได้รับมอบหมาย ก็จะได้มีการประชุมเพื่อจะได้มีมติอย่างเป็นทางการ ตอนบ่ายสองโมง แล้วก็จะได้ส่งมติอย่างเป็นทางการของพรรคชาติพัฒนา มายังท่านหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐต่อไป ขอบคุณครับ
ชัชวาลย์ คงอุดม
สวัสดีครับ ท่านผู้สื่อข่าวทุกท่าน วันนี้ผมได้รับเกียรติจากทางพรรคพลังประชารัฐให้มาร่วมกันแถลงข่าวในการที่เราจะร่วมกันทำงานให้กับประเทศชาติ ผมเองไม่มีอะไรมากครับ มีความตั้งใจอยากให้ประเทศเดินหน้าไปได้ เพราะฉะนั้นอะไรที่ประเทศชาติเดินหน้า ผมก็ต้องทำ สิ่งที่ผมอยากจะเข้าไป ครั้งแรกนี่ก็คิดว่าจะต้องขอพรรคพลังประชารัฐก็คือ เรื่องยาเสพติด ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องที่เป็นอันตรายกับประเทศชาติ กับเด็กรุ่นหลังอย่างมากๆ บ้านผมก็ได้ทำมานาน ทำตั้งแต่ผมอายุ 19 จนกระทั่งตอนนี้ 76 แล้ว ก็ยืนยันได้ครับว่าไม่มี ฉะนั้นจะใช้ประสบการณ์ตรงนี้แนะนำหรือเสนอแนะให้พรรคร่วมรัฐบาลเอาไปใช้ ก็คงจะของ่ายๆ แค่นี้ครับ ส่วนความตั้งใจอะไรต่างๆ ผมคิดว่าท่านก็รู้อยู่แล้วว่า ผมมีจุดมุ่งมั่น มีปณิธานอย่างไร ก็ขอขอบพระคุณครับที่พวกเรามาช่วยกันทำข่าวในการที่พวกเรามาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ ขอบคุณครับ
ไพบูลย์ นิติตะวัน
สวัสดีท่านสื่อมวลชนทุกท่าน ผมในนามของหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ในวันนี้ก็ได้รับเชิญจากทางท่านหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้มาร่วมในการหารือเกี่ยวกับนโยบายและแถลงจุดยืนที่มีต่อการจัดตั้งรัฐบาล ผมต้องขออนุญาตเรียนว่า เรื่องของพรรคพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาลนั้น ผมได้เป็นกำลังใจให้มาโดยตลอด เพราะโดยเหตุที่รัฐบาลจะต้องเกิดขึ้น โดยเฉพาะผมได้มีจุดยืนและเป็นนโยบายของพรรค เป็นมติของที่ประชุมของพรรค ว่าต้องการที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุที่ว่าท่านมีความเหมาะสมทุกประการ ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ในระยะนี้ ซึ่งจุดยืนนั้นเป็นมติของพรรคด้วย
ส่วนเมื่อพรรคพลังประชารัฐ มีท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตที่จะนำเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น พรรคประชาชนปฏิรูปพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ นโยบายที่นำเสนอไปนั้น ก็คงจะสอดรับกับพรรคพลังประชารัฐอยู่แล้ว เพราะว่านโยบายในข้อบังคับที่เขียนของพรรคประชาชนปฏิรูปนั้น ก็จะดำเนินการไปตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ นอกจากนั้น เราก็มีนโยบายซึ่งเชื่อว่าทางพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะแกนนำ คงจะต้องนำไปแน่นอน ก็คือ คุณธรรมนำการเมือง รวมทั้งอาจจะเป็นเรื่องของการน้อมนำคำสอนพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหา ความทุกข์ร้อนให้กับประชาชนด้วย เชื่อว่าความทุกข์ร้อนนั้นเป็นหัวใจหลักของการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ความทุกข์ร้อนของประชาชนเป็นเรื่องที่เราจะต้องเร่งแก้ไข บรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน ดังนั้น การที่พรรคพลังประชารัฐจะจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งก็จะเป็นรูปธรรมขึ้นในวันพรุ่งนี้ ที่จะมีการประชุมเพื่อที่จะโหวตเลือกท่านนายกรัฐมนตรีนั้น เราจึงเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเราสนับสนุนตั้งแต่ต้น ก็คงจะเป็นชื่อหนึ่งที่จะเสนอในที่ประชุมแห่งรัฐสภา พรรคประชาชนปฏิรูปก็จะสนับสนุนให้ความเห็นชอบ และเชื่อมั่นว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะจัดตั้งขึ้นนั้น จะนำพาประเทศ บริหารงานของประเทศให้มีความมั่นคง สงบ และราบรื่นไปได้ตลอด ผมมั่นใจครับ นอกเรื่องนิดหนึ่งก็คือ ครบ 4 ปีแน่ ดังนั้นก็เชื่อว่า ระยะเวลา 4 ปีข้างหน้า จะเป็นช่วงเวลาที่แก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนได้อย่างแน่นอน
ในฐานะเป็นพรรคประชาชนปฏิรูป จึงยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมในวันนี้ ขอขอบคุณท่านสื่อมวลชนทุกท่านครับ
ดำรงค์ พิเดช
สวัสดีครับท่านสื่อมวลชนทุกท่าน ผมขอขอบคุณท่านหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และทีมงานของพลังประชารัฐ ที่ได้เชิญมาในวันนี้ จริงๆ พรรคของผมไม่เหมือนพรรคอื่น พรรคอื่นเขามีนโยบายกันเป็นสิบๆ อย่าง หมุนไปได้หมด ของผมมันหมุนไม่ได้ เป็นเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ เป็นเรื่องอยู่กับความจริง จริงๆ พรรคเพื่อไทยผมก็รู้จัก พลังประชารัฐก็รู้จัก ทุกพรรคก็เชิญมา เพิ่งเชิญมาเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผมอยู่เคว้งคว้างตั้งสิบกว่าวัน ไม่มีใครโทรมาหรอก วันนี้พลังประชารัฐเขาบอกมาช่วยกันทำงาน มาช่วยนะ ไม่ใช่มาเป็นรัฐมนตรี มาช่วยกันทำงานเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็ตรงกับนโยบายของพรรค เรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมันจะออกนอกลู่นอกทางไม่ได้ ในโลกนี้ ประเทศใดก็แล้วแต่ที่มีสภาพสิ่งแวดล้อมเลวทราม ประเทศไปไม่รอด เพราะฉะนั้นทุกประเทศในโลกนี้ต้องให้ความสำคัญ เรื่องป่า เรื่องน้ำ เรื่องสารพิษ เรื่องโลกร้อน โดยเฉพาะเรื่องไฟป่า ที่เป็นปัญหาที่จะต้องแก้อย่างใหญ่หลวงของประเทศ ทั้งไฟนอกประเทศ ไฟในประเทศ เรื่องนี้สำคัญมากนะครับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นมาปีที่แล้ว เป็นบทเรียนอย่างดีสำหรับทุกรัฐบาล ใครเข้ามาก็ต้องเอาเรื่องนี้ไว้ก่อน เพราะเป็นเรื่องของชีวิตประชาชน
สารเคมี อันนี้สำคัญยิ่ง คือผมขอร้องให้รัฐบาล ใครเป็นรัฐบาล อย่างพลังประชารัฐ เอาสถานที่ราชการนำร่อง ปรุงด้วยผักปลอดสารพิษ สารอินทรีย์ นำร่อง อย่าเพิ่งไปเอกชน ภาคเอกชนลำบาก ถุงพลาสติก โฟม เอาราชการนำร่อง คืออันนี้มันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ถ้าเราไปบังคับภาคเอกชน ขอร้องโน่นขอร้องนี่ มันลำบาก เอาราชการทั่วประเทศวันนี้ โรงเลี้ยงเด็ก โรงอะไรต่างๆ โรงเรียน ห้ามนำถุงพลาสติก ห้ามนำโฟม เข้าใช้ประโยชน์ อย่างนี้เป็นการที่เรียกว่าเซฟชีวิตประชาชน ผมมองชีวิตประชาชนมีค่ามากกว่าเงินตราของประเทศ เพราะฉะนั้นพรรคผมเป็นพรรคเล็กๆ เสียงดังน้อย 2 เสียง แต่ก็พยายามที่จะทำเรื่องนี้ และทางรัฐบาลเองก็มีนโยบายเรื่องนี้อยู่แล้ว เราก็พร้อมที่จะเข้าไปทำงานเรื่องนี้ ขอขอบคุณครับ
ถาม-ตอบ
ถาม- วันนี้ถือเป็นการปิดดีลในการจัดตั้งรัฐบาลหรือยัง ต้องรอประชาธิปัตย์ กับภูมิใจไทยอีกไหม
อุตตม- วันนี้ อย่างที่เรียนว่า เราเชิญพรรคอีกกลุ่มหนึ่งมาพบกัน เราได้ไปพบพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา มาแล้ว ผมถือว่าพวกเราทั้งหมดนี้ และสามพรรคนั้นด้วย มีเจตนารมณ์ อย่างน้อยก็มีแนวความคิดที่จะมาร่วมมือกัน เพราะฉะนั้นวันนี้คงไม่พูดมาว่ามาปิดดีลอะไรทั้งนั้น วันนี้เรามาแสดงตัว แสดงเจตนารมณ์ร่วมกัน
ถาม- หมายความว่าจะรอการตอบกลับจากทางประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย?
อุตตม- ก็อย่างที่เรียนว่าเราได้ไปหารือแล้ว แนวทางหารือเหมือนวันนี้เลย เราพูดถึงนโยบาย พูดถึงแนวทางที่จะร่วมมือกัน แล้วรายละเอียดก็จะตามมา ในส่วนของแต่ละพรรคที่ยังมีขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการ เราก็ต้องให้เกียรติกัน ให้ท่านดำเนินการให้เสร็จก่อน
ถาม- การจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก จนถึงเวลานี้?
อุตตม- เราก็ยังมุ่งมั่นเช่นนั้น เหมือนเดิม อย่างที่ผมเรียนตอนต้นว่า เรามุ่งมั่น ตั้งเป้าที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้มีเสถียรภาพ ก็เพราะว่าเราจะได้มีโอกาสทำงานให้พี่น้องประชาชนซึ่งรอคอยอยู่ การที่รัฐบาลมีความเข้มแข็ง มีเสถียรภาพ ก็จะทำงานให้พี่น้องประชาชนได้
ถาม- การที่มีพรรคร่วมจำนวนมาก การจัดสรร หรือการแบ่งหน้าที่การทำงาน จะมีปัญหาหรือกังวล?
อุตตม- ไม่ได้มีความกังวล เพราะผมคิดว่าเรามาร่วมกันแล้ว อย่างที่ได้ฟังทุกท่านพูดไปแล้ว เรามาด้วยความตั้งใจที่จะทำงานให้ประเทศชาติ เพราะถ้าเอาตรงนั้นเป็นหลักแล้ว ผมคิดว่าในเรื่องของการจัดสรรกำลังทั้งหลาย พูดกันได้ เป็นปกติของทางการเมืองอยู่แล้ว แต่ผมเชื่อว่าเราจะลงตัวได้
ถาม- การโหวตนายกฯ วันพรุ่งนี้ สัญญาณของประชาธิปัตย์ กับภูมิใจไทย เป็นอย่างไรบ้าง
อุตตม- เดี๋ยวให้พรรคทั้งสอง เข้าใจว่ายังมีการดำเนินการอยู่ ก็ให้เขาดำเนินการให้เสร็จ อย่าเพิ่งไปพูดเผื่อเขา
ถาม- จะมีความชัดเจนในวันนี้?
อุตตม- ก็แล้วแต่ทางนู้น ก็คงต้องรอดู ให้เกียรติเขาทำงานนิดหนึ่ง
ถาม- ???
อุตตม- ก็เรียนว่า เราได้หารือมาโดยตลอด และเราก็มีข้อเสนอที่ได้เสนอไปแล้วเช่นเดียวกัน ก็เชื่อว่าทางพรรคประชาธิปัตย์เองก็จะมีการที่จะได้รับข่าว มีกระบวนการภายในที่จะพิจารณา
ถาม- เรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญ ทางพลังประชารัฐเห็นอย่างไรบ้าง ตามที่ได้หารือกับประชาธิปัตย์
อุตตม- ตามที่ได้หารือเบื้องต้นในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เห็นร่วมกันว่าเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องใหญ่พอสมควร ถ้าจะทำจริงก็ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ไม่ใช่แต่ว่าพรรคใดพรรคหนึ่ง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ถ้าจะพิจารณาก็คงต้องไปพิจารณาร่วมกันว่าจะทำอย่างไร
ถาม- คำตอบจากประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยจำเป็นต้องมีก่อนการเลือกนายกรัฐมนตรีพรุ่งนี้ไหม
อุตตม- ก็รอดูว่ากระบวนการของทั้งสองพรรคเป็นอย่างไร แต่เราเดินหน้าแน่นอน ในวันพรุ่งนี้ เป็นวันสำคัญที่จะมีการเสนอชื่อเลือกนายกรัฐมนตรี
ถาม- ความมั่นใจต่อการเลือกนายกรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้
อุตตม- ก็เดี๋ยวดูนะครับ อย่าเพิ่งไปพูด คาดอะไร ซึ่งอีกทางสองพรรคเขากำลังดำเนินการอยู่ เรารออยู่แล้ว
ถาม- ???
อุตตม- เรามีการเตรียมการของเรา เรายังไม่ทราบว่าเขาจะพูดเรื่องอะไร เราก็เตรียมการในทุกประเด็น มีความมั่นใจว่าอธิบายได้ทุกประเด็น
ถาม- ประเด็นเรื่องการแสดงวิสัยทัศน์ การไปปรากฏตัวที่รัฐสภา ของ พล.อ.ประยุทธ์ พรรคพลังประชารัฐมองว่าอย่างไรในฐานะเป็นแคนดิเดตของพรรคฯ
อุตตม- อันนี้ก็เป็นเรื่องซึ่งพรรคฯ เองก็จะพิจารณา ขอให้รอดูในวันพรุ่งนี้ แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ในอดีตมาแต่อย่างใด
ถาม- สัญญาณของ 250 เสียงจาก ส.ว. ยังเป็นเอกภาพ? แล้วเรามั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนทั้งหมดไหม
อุตตม- อันนี้เป็นเรื่องของทาง ส.ว.ท่าน ท่านมีความคิดของท่านเอง ผมเชื่อว่าพรุ่งนี้ท่านก็จะดำเนินการในส่วนของท่าน กลับไปที่วิสัยทัศน์ ถ้าท่านพูดถึงพรรคพลังประชารัฐเสนอท่านประยุทธ์ จริงๆ ก็เสนอวิสัยทัศน์มา 5 ปีแล้ว โดยตลอด ก็ได้รับฟังกันมาพอสมควร และอย่างที่ผมเรียน ในอดีตก็ไม่เคยมีการเสนอวิสัยทัศน์ในการเลือกนายกฯ ในสภา
ถาม- จนถึงตอนนี้พรรคพลังประชารัฐมั่นใจการโหวตเลือกนายกฯ ???
อุตตม- นั่นยังเป็นเป้าหมายของเรา เป็นเช่นนั้น ไม่เปลี่ยนแปลง
ถาม- ถ้าเสียงไม่ถึง 251?
อุตตม- เราก็เดินไปตามกระบวนการ อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ว่าถึง/ไม่ถึง อะไร อย่างไร ผมยืนยันว่ากระบวนการมีอยู่ เราก็เดินตามกระบวนการ ตามระบบประชาธิปไตยที่เป็นอยู่ ตามที่รัฐธรรมนูญได้วางกรอบไว้แล้ว
ถาม- หมายความว่าถ้าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็กัดฟันตั้งรัฐบาลไป?
อุตตม- เรามีกรอบอยู่แล้ว แต่วันนี้ยังเร็วเกินไป วันนี้ เวลานี้ ที่เรามาพบกัน ผมคิดว่าคงจะยังไม่ถึงเวลาที่เราจะมาพูดว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยจะเกิดไหม หรืออย่างไร ก็ให้ท่าน ส.ส. ส.ว. ที่พรุ่งนี้จะทำหน้าที่ในสภาได้มีโอกาสได้ทำหน้าที่ก่อน
ถาม- ???
อุตตม- วันนี้สัญญาณจริงๆ ก็อย่างที่ผมเรียนว่า สำหรับวันนี้ พรรคการเมืองที่ท่านมาในวันนี้ ก็เช่นเดียวกับอีกสามพรรคที่เราได้ไปเยี่ยมเยียนมาแล้ว ว่า แสดงเจตนารมณ์ แสดงตัวว่ามีความสนใจที่จะมาร่วมรัฐบาลด้วยกัน นั่นคือสิ่งที่เราต้องการที่จะเสนอในวันนี้
ถาม- วันนี้มีใครที่ให้ความชัดเจน?
อุตตม- ก็ห้าพรรคอยู่นี่ วันนี้ คำตอบชัดไหม ก็ชัดดีนะ ผมฟังดู ชัดกันนะ
ถาม- ???
อุตตม- อ๋อ หมายถึงถ้าทางท่านสุวัจน์ เข้าใจท่าน เป็นกระบวนการภายในของท่านที่ท่านจะไปพิจารณาเท่านั้นเอง
สุวัจน์- ที่ผมเรียนเมื่อกี้ก็คือเหมือนกับว่า ทางพรรคฯ ก็ต้องทำให้เป็นไปตามมติ ฉะนั้นก็จะมีมติอย่างเป็นทางการตอนบ่ายสองโมง ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าทำให้ถูกต้องตามกระบวนการของพรรคการเมืองเท่านั้น
ถาม- มั่นใจไหมว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้จะราบรื่น??
อุตตม- เราก็จะทำเต็มที่เพื่อให้กระบวนการเดินหน้าไปได้ ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ผมเชื่อว่าพรรคที่จะมาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล
ถาม- สามารถที่จะบอกได้หรือไม่ว่าได้ประมาณกี่ที่นั่ง??
อุตตม- เดี๋ยวรอก่อน ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะไปพูดทั้งหมด
ถาม- ก่อนหน้านี้คุณไพบูลย์เสนอเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และพูดถึงการที่นายกรัฐมนตรีจะสามารถทำหน้าที่ต่อไปได้ ??? อยากให้คุณไพบูลย์อธิบายว่า ระบบตรวจสอบของรัฐสภาที่เป็นกลไกสำคัญ จะทำให้ไม่มีความน่าเชื่อถือหรือเปล่า
ไพบูลย์- ก่อนอื่น ผมไม่ได้คุยว่าจะต้องไปใช้เสียงข้างน้อยในสภา ผมคุยเสมอว่า จะต้องใช้เสียงข้างมากของรัฐสภา ไม่ว่าการเลือกนายกรัฐมนตรี การดำเนินการต่างๆ ก็ต้องใช้เสียงข้างมากของรัฐสภา ซึ่งเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ท่านบริหารประเทศ ท่านได้รับการสนับสนุนโดยเสียงข้างมากของรัฐสภา ท่านสามารถบริหารได้ ส่วนเสียงข้างมากของรัฐสภานั้นจะมีเสียงเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่าไรนั้น ก็สุดแล้วแต่ ผมคิดว่ามันเป็นเอกสิทธิ์ หรือเป็นแต่ละสมาชิกท่านจะคิดอะไรก็เรื่องของท่าน แต่ส่วนผม ผมพูดภาพรวมว่า ท่านได้เสียงข้างมากของรัฐสภา ซึ่งถ้าการได้เสียงข้างมากของรัฐสภานั้น สามารถดำเนินการบริหารประเทศ มันก็เป็นระบบรัฐสภาอยู่แล้ว เป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกอย่าง ส่วนการที่จะต้องไปใช้รัฐธรรมนูญมาตราอย่างที่ผมได้นำเสนอ ไม่ว่า 270 , 272 อะไร ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในรัฐธรรมนูญทั้งสิ้นนั่นล่ะ แต่เป็นเพียงแค่คนไปพยายามทำความเข้าใจ ไปพูดถึงเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรอะไรต่างๆ ซึ่งที่จริงแล้วเราควรจะต้องพูดในรัฐธรรมนูญที่บังคับช่วงบทเฉพาะกาลนั้น ต้องพูดถึงเสียงข้างมากในรัฐสภา ส่วนใครที่จะไปบอกว่า เกรงจะไปตั้งรัฐบาลได้โดยมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรทั้งนั้น อันนั้นเป็นการพูดที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพราะว่าการที่จะตั้งรัฐบาลได้จะต้องมีเสียงข้างมากในรัฐสภาเท่านั้น ซึ่งอันนี้ก็ใช้เฉพาะ 5 ปีแรก ดังนั้นผมก็ยังมีจุดยืนเดิม จุดยืนเดิมเชื่อว่าในวันพรุ่งนี้ การโหวตนายกรัฐมนตรี โดย พล.อ.ประยุทธ์ นั้นท่านก็จะได้รับเสียงข้างมากของรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี และผมเชื่อว่าการที่จะไปเสนอเทคนิคในการที่จะไปพูดเรื่องวิสัยทัศน์ หรือไปพูดเรื่องอภิปราย ไปว่า ต่อว่าเรื่อง ส.ว.ที่มา เพื่อที่จะดึงเวลาให้อภิปรายข้ามวันข้ามคืนอะไรนั้น ผมไม่เชื่อว่าทำได้ เพราะการกระทำอย่างนั้นมันเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับการประชุมของรัฐสภา ซึ่งผมมั่นใจในท่านชวน หลีกภัย ในฐานะท่านเป็นประธานรัฐสภา ท่านไม่ทำอะไรที่ไปฝ่าฝืนข้อบังคับแน่นอน ดังนั้น ข้อบังคับก็มี ดังนั้นสมาชิกรัฐสภาทุกท่านเข้าไปร่วมประชุม ต้องประชุมตามข้อบังคับ ถ้าใครดำเนินการไม่เป็นไปตามข้อบังคับ ก็จะต้องถูกทักท้วงกันไปตามกฎเกณฑ์ของการประชุมรัฐสภา ฉะนั้นพรุ่งนี้การประชุมคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมั่นใจว่า หลังจากวันพรุ่งนี้ ประชาชนรอคอยกันมานานแล้ว หลายฝ่ายที่พยายามจะใช้เกมเพื่อที่จะปลุกปั่น ใช้เกมเพื่อที่จะบิดเบือนอะไรต่างๆ นั้น ก็ขอให้เห็นใจประชาชนที่เขารอคอยให้รัฐบาลเดินหน้าเพื่อจะแก้ไขปัญหา
ผมอยากจะฝากสิ่งที่เมื่อกี้ผมตกหล่น ไม่ได้เสนอทางฝ่ายพรรคพลังประชารัฐไป ก็คือปัญหาลูกหนี้ กยศ. ปัญหาลูกหนี้ กยศ. ผมอยากจะเสนอเลยว่า ปัญหาหนี้สินที่ประชาชนเป็นหนี้สินรัฐ โดยเฉพาะลูกหนี้ กยศ. ต้องนำมาแก้ไขอย่างเร่งด่วน เขารอคอย ซึ่งผมมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน ขอบคุณครับ
ทวีศักดิ์- ผมขอเสริมนิดเดียวครับ เมื่อกี้ท่านสุวัจน์ กล่าวถึงเรื่องพรรคชาติพัฒนาจะต้องไปมีมติพรรคเป็นทางการ ผมก็เลยขออนุญาตเรียนเสริมว่า พรรค รปช.เราก็เช่นเดียวกันนะครับ เมื่อกี้เรียนไปแล้วว่าเราได้พูดคุยกันมาตลอดเวลา จนรู้ทิศทางว่าพรรคเราจะเดินอย่างไร ให้ความร่วมมือในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร แต่ว่าในแง่ของรูปแบบพิธีการ เย็นวันนี้ ห้าโมงเย็น เรามีการนัดประชุมคณะกรรมการบริหารและ ส.ส. เพื่อที่จะมีมติเป็นทางการ เท่านั้น ไม่ใช่เงื่อนแง่ ไม่ใช่เงื่อนไขลีลาอะไร ขอเรียนเพื่อความสมบูรณ์เท่านั้นเอง ขอบคุณมากครับ
อุตตม- ชัดเจนนะครับ ก็ต้องขอขอบคุณท่านสื่อมวลชนกรุณามาทำข่าววันนี้ ผมขอยุติรายการในวันนี้ไว้เท่านี้ก่อน เพราะหลายท่านก็มีภารกิจต้องไปดำเนินการต่อ