แถลงการณ์กสม.ประณามเหตุลอบวางระเบิดตลาดบ่อทอง ปัตตานี ชี้โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม จี้สังคมมีส่วนร่วมเพื่อยุติการใช้วัตถุระเบิดทำร้ายผู้บริสุทธิ์ จนท.เร่งสืบสวนหามาตราการเหมาะสม
วันนี้ (28พ.ค.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
ได้ออกแถลงการณ์ประณามการก่อเหตุลอบวางระเบิดบริเวณตลาดบ่อทองปัตตานี โดยระบุว่ากรณีเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 พ.ค. 2562 ว่าได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณตลาดบ่อทองปัตตานี อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้แก่ เด็กชายอัยดิลฟิตลี ยะโก๊ะ อายุ 14 ปี นางสารีปะห์ อาเย๊าะแซ อายุ 35 ปี และมีประชาชนได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมากซึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว นั้น กสม.ในฐานะองค์กรซึ่งมีหน้าที่และอำนาจในการส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ขอประณามการก่อเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าว และขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอให้ทุกภาคส่วนได้คำนึงถึงการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพของบุคคล โดย1. ขอให้ทุกฝ่ายในสังคมร่วมกันประณามผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงยุติการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้วัตถุระเบิดซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อเด็ก สตรี และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่โหดร้ายและขัดต่อหลักศีลธรรมของทุกศาสนา และนำไปสู่การสร้างพฤติกรรมความรุนแรง ความหวาดกลัว และความรู้สึกเกลียดชังระหว่างกันในพื้นที่
2. ขอสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสืบสวนเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว ตลอดจนให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเหมาะสมและทั่วถึง ล3. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการที่เหมาะสมและรัดกุมในช่วงเทศกาลสำคัญที่จะคุ้มครองความปลอดภัยแก่ประชาชนในพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก สตรี คนชรา ให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัยและเป็นปกติสุข ทั้งนี้ อาจสนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมเฝ้าระวังเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้ 4. ขอให้รัฐบาลควบคุมและกำกับดูแลให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานตามข้อ 2 และ 3 ปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง
ทั้งนี้ กสม. พร้อมให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนในการร่วมสร้างสังคมแห่งการเคารพสิทธิมนุษยชนและสังคมแห่งสันติสุขกลับสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้