เกิดแรงกระเพื่อมเลือกประธาน-รองประธานกลุ่ม ส.ว.กว่า 50 คน ไม่พอใจแคนดิเดตที่วางไว้ ควรเปิดให้แข่งขันเป็นธรรม ไม่ปลื้มผลงาน “พรเพชร” ไม่หารือสมาชิกเท่าที่ควร ทำกระทบต่อภาพลักษณ์
วันนี้ (22 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ถึงความคืบหน้าการเปิดประชุมวุฒิสภาในวันที่ 24 พ.ค.ที่หอประชุมบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อเลือกตัวประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาอีก 2 คน ที่ก่อนหน้านี้มีการวางตัวค่อนข้างจะลงล็อกแล้ว คือ นายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นประธานวุฒิสภา พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร อดีต สนช.เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และนายศุภชัย สมเจริญ อดีตประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 นั้น ปรากฏว่ามีรายงานล่าสุดว่าเกิดแรงกระเพื่อมภายในกลุ่ม ส.ว.กว่า 50 คน ที่ไม่พอใจการวางตัวตำแหน่งประธาน ส.ว.และรองประธาน ส.ว.อีก 2 คน ในลักษณะพยายามไม่ให้มีการโหวตแข่งขันในทุกตำแหน่ง โดย ส.ว.กลุ่มที่ไม่พอใจได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ควรเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรมในทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะตำแหน่งประธานวุฒิสภา ที่ ส.ว.หลายคนเห็นว่าตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกต้องจะต้องได้รับการยอมรับจากสมาชิกทุกคนด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้กลุ่ม ส.ว.หลายคนยังได้จับกลุ่มวิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการวางตัวให้นายพรเพชรดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาอย่างหนักว่า ช่วงที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นประธาน สนช.5 ปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมาหารือกับสมาชิก สนช.เท่าที่ควร ทำให้การออกกฎหมายหลายฉบับมีปัญหา ถูกโซเชียลมีเดียรุมถล่มจนกระทบต่อภาพลักษณ์ คสช. และวิจารณ์ว่าขณะนี้มีบางคนทำตัวเป็นประธานตั้งแต่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งด้วยซ้ำ
อีกทั้งการจัดสรรตำแหน่งประธาน กมธ.ชุดต่างๆ ในวุฒิสภา ยังไม่มีการปรึกษาหารือกับสมาชิก ทำให้ขณะนี้ ส.ว.กลุ่มดังกล่าวกำลังหารือกันว่า หากมีคำสั่งของผู้ใหญ่วางตัวให้นายพรเพชรมาเป็นประธานวุฒิสภาจริง ก็ควรมาทำความเข้าใจกับ ส.ว.ทุกคนให้เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงถึงที่มาที่ไป ไม่ใช่ยึดสภาแล้วมาสั่งซ้ายหันขวาหันตั้งแต่ยังไม่เริ่มเปิดประชุมอยู่เพียงผู้เดียว ถ้านายพรเพชรยังไม่มาประสานงานทำความเข้าใจกับสมาชิก ส.ว. อาจจะมีการเสนอให้โหวตแข่งขันในตำแหน่งประธานวุฒิสภา แม้จะรู้ว่าถ้าโหวตกันจริงๆ แล้วมีโอกาสสูงที่จะพ่ายแพ้ต่อนายพรเพชรก็ตาม