"ไอติม" ย้ำ "ฝ่ายค้านอิสระ" คำนึงประโยชน์ของชาติ สามารถต่อรองนโยบายได้มากกว่าร่วมรัฐบาล ยันเคารพมติประชาธิปัตย์ แต่ถ้าความคิดต่างกันลึกซึ้งถึงขั้นอุดมการณ์ก็พร้อมพิจารณาตัวเองถอยห่างออกมา เพราะพรรคการเมืองควรเป็นศูนย์รวมคนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน เผยคนที่เห็นต่างในพรรคไม่เคยประณามคุยกันด้วยเหตุผลตลอด ทำให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
วันที่ 19 พ.ค. นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ใน "Suthichai Live" ทางเพจ "Suthichai Yoon"
โดย นายพริษฐ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า หลายคนบอกว่าข้อเสนอของตนไม่คำนึงถึงประเทศชาติ ตนอยากยืนหยัดว่าฝ่ายค้านอิสระนี่คำนึงถึงประเทศชาติ อย่าผูกขาดว่าทำประโยชน์ให้ประเทศชาติต้องเป็นไปในทิศทางไหน เราคำนึงการผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อชาติ ตำแหน่งไหนผลักดันได้ดีสุด ถ้าเราเห็นว่าเศรษฐกิจที่ผ่านมาบริหารโดยบุคลากรในพรรคพลังประชารัฐ เป็นอะไรที่ไม่ดี แล้วเขาจะตั้งรัฐบาลขึ้นมา เราต่อรองนโยบายในรูปแบบไหนได้ดีกว่ากัน ระหว่างไปนั่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หรือฝ่ายค้านที่ต่อรองนโยบาย
ความจริงแล้วการทำงานของรัฐบาลผสมทั่วโลกและในไทย มีน้อยมากที่พรรคร่วมจะมีสิทธิ์กำหนดทิศทางนโยบายหลักของรัฐบาลผสม แต่ถ้าเราดูอังกฤษ และนิวซีแลนด์ พรรคที่ประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระ ที่สนับสนุนบางนโยบาย และไม่ได้ค้านทุกอย่าง สามารถต่อรองนโยบายได้ อย่างนิวซีแลนด์ก็มีพรรคกรีน ผลักดันนโยบายสิ่งแวดล้อม โดยไม่ได้ทำงานร่วมกับฝ่ายค้านหลักของประเทศด้วย ฝ่ายค้านอิสระจึงตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของอุดมการณ์พรรค การรักษาคำพูด และเรื่องทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ด้วย
เมื่อถามว่า ถ้าเสียงส่วนใหญ่ในกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. บอกเราไม่ต้องการช่วยพลังประชารัฐสืบทอดอำนาจ เราไปอยู่ซีกเพื่อไทยเลย เห็นด้วยไหม นายพริษฐ์ กล่าวว่า ก็ต้องกลับมาเรื่องอุดมการณ์ สัจจะ และผลประโยชน์ชาติ เรื่องอุดมการณ์ในมุมมองของประชาธิปัตย์บางคน ไม่ต้องการร่วมกับพรรคที่มองว่าสุ่มเสี่ยงต่อการทุจริต ตนไม่ได้โจมตี แต่มุมมองประชาธิปัตย์มองแบบนั้น เขาอาจไม่ร่วม แล้วคนก็จะดูที่ นายอภิสิทธิ์เคยพูด หลายคลิปก็บอกว่าไม่ร่วมกับเพื่อไทย ถ้าเราร่วม คนที่ออกมาโหวตให้ก็รู้สึกเราผิดคำพูดเช่นกัน
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า ฝ่ายค้านอิสระไม่ใช่สิ่งที่ขวางโลก เพราะนายกฯก็มีได้ แต่สิ่งที่ขาดคือการตรวจสอบที่เข้มข้น แล้วไม่ว่าประชาธิปัตย์จะไปร่วมกับฝ่ายไหน เสถียรภาพก็หาไม่ง่ายขนาดนั้น
เมื่อถามว่า เตรียมใจหรือยัง ถ้าประชาธิปัตย์โหวตร่วมพลังประชารัฐ นายพริษฐ์ ตอบว่า ตนไม่ใช่เข้าของประชาธิปัตย์ ตัดสินอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของประชาธิปัตย์ที่ต้องเคารพ ตนไม่ได้ใหญ่กว่าพรรค แต่พรรคใหญ่กว่าตน
"ถ้าทิศทางที่ประชาธิปัตย์เดินไป เป็นทิศทางที่ผมไม่เห็นด้วย และมีความรู้สึกเป็นความแตกต่างในความคิดที่ลึกซึ้งถึงขั้นอุดมการณ์ ผมก็ต้องพิจารณาตัวเองและทบทวนตัวเองว่าจะยังอยู่ในสถานะไหนของประชาธิปัตย์หรือไม่ เพราะว่าพรรคการเมืองไม่ว่าพรรคอะไร ควรจะเป็นศูนย์ที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน ถ้าวันนึงอุดมการณ์ผมไม่ตรงกับอุดมการณ์ของพรรค ก็ลำบากใจทั้งสองฝ่าย ถ้าผมอยู่แล้วอุดมการณ์แตกต่างไปจากพรรค แล้วพูดไปอีกทิศทางนึง ก็คงไม่แฟร์กับพรรคเหมือนกัน" นายพริษฐ์ กล่าว
ผู้สัมภาษณ์ ถามว่า รู้สึกโดดเดี่ยวไหม นายพริษฐ์ ตอบว่า ไม่โดดเดี่ยว ความคิดในพรรคหลากหลาย คนเห็นต่างไม่ประณามตน พร้อมนั่งคุยด้วยเหตุและผล นี่คือข้อดีของพรรค ทำให้ไม่รู้สึกขาดความอบอุ่น