“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ด้วยคะแนนท่วมท้นกว่าร้อยละ 50
ผลการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ วันนี้ (15 พ.ค.) หลังจากเปิดให้ ผู้เสนอตัวชิงตำแหน่ง 4 คน ได้แสดงวิสัยทัศน์ ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายกรณ์ จาติกวณิช นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค แล้วได้เปิดให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนจำนวน 309 คน ได้ลงคะแนนโดยใช้อุปกรณ์ลงคะแนนอิเล็กทรอนิคส์จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 15 ชุด ผลปรากฏว่านายจุรินทร์ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 คิดเป็นร้อยละ 50.595% ได้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่
ส่วนผู้เสนอตัวคนอื่นๆ นายพีระพันธุ์ได้คะแนนร้อยละ 37.2 นายกรณ์ได้คะแนนร้อยละ 8.4 และนายอภิรักษ์ได้คะแนนร้อยละ 8.4 เช่นกัน
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ได้กล่าวในช่วงการแสดงวิสัยทัศน์ก่อนเปิดให้ลงคะแนนว่า ตนร่วมอุดมการณ์กับพรรคมาอย่างน้อย 33 ปี ถ้านับจากวันที่เป็น ส.ส.ปี 2529 ยังไม่รวมการทำงานร่วมกับพรรคก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง หากตนได้รับโอกาสเป็นหัวหน้าพรรคจะหยิบยื่นโอกาสให้ทุกคนที่ตั้งใจทำงานทุ่มเทเสียสละให้พรรคโดยไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ฝ่ายไหน หรือเป็นเด็กของใคร นี่เป็นคำสัญญาที่ขอให้ไว้ มีหลายคนถามว่าถ้าเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะมีอะไรเปลี่ยนหรือไม่ ขอเรียนว่าประชาธิปัตย์ถึงเวลาต้องเปลี่ยน แต่ต้องเปลี่ยนอย่างมีวุฒิภาวะ อะไรดีต้องรักษาไว้ อะไรสมควรเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน แต่สิ่งที่ต้องไม่เปลี่ยนคืออุดมการณ์ระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องไม่เปลี่ยน การทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต้องไม่เปลี่ยน ประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว 7 คน หัวหน้าพรรคคนที่ 8 ไม่มีสิทธิอยู่นอกเหนืออุดมการณ์ความซื่อสัตย์ สุจริต
ส่วนสิ่งที่ต้องเปลี่ยน คือ นโยบายวิสัยทัศน์ ต้องเปลี่ยนให้เท่าทันโลก รองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันที่เกิดขึ้นทั้งทางเศรษฐกิจการเมือง เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมการและมองไปข้างหน้า รวมถึงต้องเปลี่ยนระบบบริหารจัดการ ต้องมีระบบบิ๊กดาต้า เอไอ นำมาใช้รวบรวมข้อมูลวิเคราะห์ สังเคราะห์ประกอบการตัดสินใจทางการเมือง เดินหน้าสู่ความทันสมัยในอนาคต บุคลากรต้องเปลี่ยน
“หมดยุคซูเปอร์แมน ยุคต่อไปต้องเป็นยุคของอเวนเจอร์ ซูเปอร์ฮีโร่ของพรรคต้องจับมือเป็นทีมอเวนเจอร์ประชาธิปัตย์ นำทัพเดินไปข้างหน้า นายกรณ์ นายอภิรักษ์ และนายพีระพันธุ์จะเป็นหนึ่งในทีมอเวนเจอร์ของพรรค แต่แค่นี้ไม่พอ เพราะวันนี้ประชาธิปัตย์เหลือแค่ 52 คน หัวหน้าพรรคต้องคิดทำอย่างไรให้เพิ่มจนมากกว่า 200 ในอนาคต ซึ่งมีคำตอบอยู่แล้วคือเราต้องมีความเป็นเอกภาพ ภายใต้ความร่วมมือร่วมใจของทุกคนมั่นใจว่าประชาธิปัตย์สามารถก้าวเดินไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นได้ ผมมายืนตรงนี้เพื่อขอโอกาสกับทุกคน และยืนยันมั่นใจกับทุกคนว่าการให้โอกาสผม คือการให้โอกาสประชาธิปัตย์ ผมพร้อมจับมือร่วมแรงร่วมใจกับทุกคนที่มุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อพรรค พาพรรคก้าวสู่ความเป็นหนึ่ง และพาพรรคประชาธิปัตย์ไปเป็นที่หนึ่งในหัวใจประชาชนในอนาคต ผมหวังว่าจะได้รับโอกาสจากทุกคน” นายจุรินทร์กล่าว