รัฐสรุปปันรายได้ให้ท้องถิ่นปี 63 สัดส่วนรายได้ต่อรายได้สุทธิ ในอัตราร้อยละ 30 หรือ 825,000 ล้าน คาดเป็นรายได้ที่ อปท.จัดเก็บเอง 75,750.32 ล้าน รายได้ที่รัฐจัดเก็บให้ 254,049.95 ล้าน รายได้ที่รัฐแบ่งให้ 130,011 ล้าน เงินอุดหนุนอีก 365,188.73 ล้าน พร้อมกำหนดหลักเกณฑ์พ่วงแนวทางการตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนของ อปท.ปีงบ 63 จัดสรรเงินอุดหนุนให้ อปท.3 กลุ่มได้รับการจัดสรรเพิ่มขึ้นจากปีงบ 62 ในสัดส่วนที่เท่ากัน
วันนี้ (13 พ.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) ได้เห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการด้านการเงิน การคลัง และงบประมาณ ให้กำหนดสัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในอัตราร้อยละ 30 โดยคำนวณจากประมาณการรายได้ของรัฐบาลตามแผนการคลังระยะปานกลางที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อ 25 ธ.ค. 2561 จำนวน 2,750,000 ล้านบาท ทำให้รายได้ของ อปท.คิดเป็น 825,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ประมาณการรายได้ของ อปท.ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 รวมทั้งสิ้น 825,000 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ที่ อปท.จัดเก็บเอง จำนวน 75,750.32 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.18 โดยประมาณการจากที่ อปท.จัดเก็บจริงในปีที่ผ่านมา รายได้ที่รัฐบาลจัดเก็บให้ จำนวน 254,049.95 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 30.79 โดยประมาณการจากอัตราการเจริญเติบโตทางเศณษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อของประเทศ
รายได้ที่รัฐแบ่งให้จำนวน 130,011 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.76 โดยประมาณการจากอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อของประเทศ เงินอุดหนุนที่จัดสรรให้แก่ อปท.จำนวน 365,188.73 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 44.27 โดยเป็นส่วนที่รัฐจะต้องจัดสรรให้แก่ อปท. เพื่อให้ อปท.มีสัดส่วนรายได้ในอัตราร้อยละ 30
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบหลักเกณฑ์และแนวทางการตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนของ อปท. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ อปท.ให้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 กรุงเทพมหานคร กลุ่มที่ 2 เมืองพัทยา และกลุ่มที่ 3 อบจ. เทศบาล และ อบต. โดยให้แต่ละกลุ่มได้รับการจัดสรรเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ในสัดส่วนที่เท่ากัน
ทั้งนี้ ให้กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และ อบจ. เสนอคำขอตั้งงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยตรง สำหรับการตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่ เทศบาล และ อบต. ให้ตั้งงบประมาณผ่านส่วนราชการ ได้แก่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ส่วนการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ อบจ. เทศบาล และ อบต. ให้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 อบจ. กลุ่มที่ 2 เทศบาล และ อบต. โดยให้แต่ละกลุ่มได้รับการจัดสรรเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่เท่ากัน
สำหรับการตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่ อบจ. แบ่งเป็นเงินอุดหนุนทั่วไปและเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ โดย “เงินอุดหนุนทั่วไป” เพื่อดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ให้ตั้งงบประมาณเพิ่มขึ้นจากที่ได้รับการจัดสรรในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ในอัตราร้อยละ 10 ที่กำหนดวัตถุประสงค์การใช้จ่ายเงินเพื่อดำเนินการภารกิจต่างๆ ให้ตั้งงบประมาณตามรายการที่เคยได้รับการจัดสรรตามเป้าหมายและความจำเป็นในการใช้จ่ายเงิน สำหรับ “เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ” ให้ตั้งงบประมาณสำหรับรายการ ที่เคยได้รับการจัดสรรตามเป้าหมายและความจำเป็นในการใช้จ่ายเงิน
ทั้งนี้ การตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่ เทศบาล และ อบต.ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนทั่วไปและเงินอุดหนุนเฉพาะกิจเช่นเดียวกับของ อบจ. ขณะที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ตั้งงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนเพื่อเป็นแรงจูงใจในการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการท้องถิ่น ด้าน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ตั้งงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนโครงการตามแผนปฏิบัติการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด
นอกจากนี้ การเสนอตั้งงบประมาณเงินรุดหนุนให้แก่ อปท.ซึ่งเป็นรายการใหม่ให้เสนอ ก.ก.ถ. ให้ความเห็นชอบด้วย และให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. ตามความเหมาะสมและความจำเป็นในการใช้จ่ายเงินต่อไป
ทั้งนี้ การตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มีข้อสังเกตเพิ่มเติม ประกอบด้วย กรุงเทพมหานครได้เสนอโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายนํ้าคลองเปรมประชากร จากคลองบางบัวลงสู่แม่นํ้าเจ้าพระยา และโครงการจ้างที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำฯ เป็นโครงการตามยุทธศาสตร์ที่ใช้งบประมาณจำนวนมากที่จะกระทบต่อสัดส่วนรายได้ของ อปท.การสนับสนุนงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการ ควรอยู่นอกกรอบวงเงินในสัดส่วนรายได้ของ อปท.
ขณะที่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้เสนอตั้งงบประมาณเงินอุดหนนเฉพาะกิจ รายการใหม่ไปยังสำนักงบประมาณ ได้แก่ โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว โครงการ อปท.ต้นแบบจัดการนํ้าตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ธนาคารนํ้าใต้ติน) และโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เด็กปฐมวัยท้องถิ่นไทยผ่านการเล่น ซึ่งเป็นรายการที่อยู่ในอำนาจหนัาที่ อปท. และเป็นภารกิจถ่ายโอน แต่ทั้งนี้จะต้องไม่กระทบกับวงเงินอุดหนนทั่วไปที่ อปท. ได้รับการจัดสรร