สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงครองใจคนไทยหลายสิบล้าน เพียงเวลาไม่กี่วัน โดยไม่ต้องพึ่งปาฏิหาริย์ ด้วยความ อ่อนโยน เอื้อเฟื้อ และอุตสาหะ

ข่าวปนคน คนปนข่าว



** สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงครองใจคนไทยหลายสิบล้าน เพียงเวลาไม่กี่วัน โดยไม่ต้องพึ่งปาฏิหาริย์ ด้วยความ อ่อนโยน เอื้อเฟื้อ และอุตสาหะ

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่ผ่านมา นับว่าคนไทยโชคดีที่ได้เกิดมาในแผ่นดินนี้ เป็นช่วงเวลาที่ดัชนีแห่งความสุขพุ่งสูงลิ่วหัวใจอิ่มเอมด้วยความปลาบปลื้มปิติ ... ทุกคนพร้อมใจกันถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เฝ้าติดตามชื่นชมพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ มีภาพแห่งความประทับใจมากมายที่เกิดขึ้นตลอดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

หนึ่งในภาพที่คนไทยปลื้มปิติ ประทับใจมากที่สุดภาพหนึ่ง คือ "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี" ทรงร่วมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศพระดำเนินกระหนาบข้าง คู่เคียงพระราชยาน ในฐานะที่ทรงดำรงพระยศเป็น"ราชองครักษ์ในพระองค์" ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราสถลมารค

"ภัทร เหมสุข"นักวิชาการอิสระ โพสต์ภาพ และข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Pat Hemasuk อธิบายถึงความรู้สึกนี้ร่วมกันว่า

“การชนะใจให้ใครคนใดคนหนึ่งให้รัก ถือว่ายากมากพอสมควร การชนะใจให้คนหลายคนรักนั้น ยิ่งยากกว่าหลายเท่า แต่การที่จะทำให้คนหลายสิบล้านคนรักภายในสามวันนั้น ยิ่งยากเหมือนต้องพึ่งพาปาฏิหาริย์เท่านั้นถึงทำได้ แต่ด้วยความ อ่อนโยน เอื้อเฟื้อ และเจียมตน ในฐานะสมเด็จพระราชินี ที่มีต่อพระราชวงศ์พระองค์อื่นที่มีทั้งสูงกว่า และต่ำกว่า และความแข็งแกร่งในฐานะ พลเอก รองผู้บัญชาการหน่วยถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ในช่วงทรงมีพระราชพิธีเลียบพระนคร ตลอดเวลาแปดชั่วโมงที่ถวายงานนั้น แสดงให้เห็นถึงความอุตสาหะ สายพระเนตรของในหลวงนั้นกว้างไกลยิ่งนัก ทรงพระเจริญ”

นอกจากนี้ "ภัทร เหมสุข" ยังได้โพสต์ภาพ และข้อความ ว่า หลายคนคงไม่เคยเห็นภาพสองภาพนี้ ภาพที่พระราชินีทรงเป็นทหารที่ผ่านการฝึกอย่างหนักของจริง ทรงเป็นทหารที่สามารถออกรบได้จริง ไม่ใช่เป็นทหารเพียงพระอิสริยยศ

ในอดีตนั้นเราเคยมีราชินีนักรบมาหลายพระองค์ ในแผ่นดินนี้เราจะมีราชินีนักรบเพิ่มมาอีกหนึ่งพระองค์ ...ซึ่งในเวลาต่อมาโพสต์นี้ถูกแชร์ต่อจำนวนมาก ด้วยความปลื้มปิติ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

**สัญญาณชัด "ลุงตู่" อยู่ต่อ เมื่อรัฐมนตรีสาย คสช. 15 คน พร้อมสมาชิก สนช. กว่า 60 คน ลาออกไปเป็น ส.ว. เพื่อเป็นพี่เลี้ยงและค้ำเก้าอี้นายกฯให้ ...แต่การตั้ง 250 ส.ว.ครั้งนี้ ก็ยังต้องมีเรื่องให้ลุ้นระทึก เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นเรื่องให้ศาลรธน. วินิจฉัยว่า การตั้ง "บิ๊กป้อม" เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาส.ว. นั้น "เป็นกลาง" หรือไม่ ซึ่งศาลรธน.จะมีมติวันนี้ ว่าจะรับ หรือไม่รับเรื่องไว้พิจารณาวินิจฉัย

หลังจากหอบหิ้วกันมาเป็นเวลา 5 ปี ถึงวันนี้ รัฐมนตรีในรัฐบาล"ลุงตู่" ที่เป็นสมาชิกคสช. และคนนอกคสช. ได้ลาออกแล้ว 15 คน หลังได้รับการแจ้งว่าจะได้ไปต่อ ในตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ทำให้การประชุมครม. เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) ถือเป็นการประชุมครม.เต็มคณะครั้งสุดท้ายของรัฐบาลนี้

รายนามรัฐมนตรีที่ลาออก มีดังนี้ 1. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ และรมว.ยุติธรรม 2. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ 3. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ 4. พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 5. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน 6. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ 7. พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ 8. นายอุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ 9. นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รมช.ต่างประเทศ 10. นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา 11. นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์ 12. นายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม 13. นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย 14. พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ 15. นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง

ทำให้ขณะนี้ ในครม. เหลือรัฐมนตรี 17 คน จาก 36 คน (ก่อนหน้านี้ ลาออกไปแล้ว 4 คน เพื่อไปเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ) แต่"ลุงตู่" บอกว่าครม.ยังสมารถประชุม และบริหารราชการต่อไปได้

ในส่วนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เริ่มจากหัวขบวน "นายพรเพชร วิชิตชลชัย" ประธาน สนช. "นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย" รองประธานสนช. คนที่ 1 "นายพีระศักดิ์ พอจิต" รองประธาน สนช. คนที่ 2 และ สมาชิก สนช.อีกจำนวนหนึ่ง รวมแล้ว กว่า 60 คน ก็ได้ไปต่อในตำแหน่ง ส.ว.

ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ได้ให้ความสำคัญกับ "250 ส.ว." มากขึ้นกว่าที่ผ่านๆ มา โดยให้ร่วมประชุมรัฐสภาเพื่อ "โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี" รวมทั้งรวมโหวตกฎหมายที่เกี่ยวกับ"การปฏิรูป" อีกด้วย ส.ว.ชุดนี้ จึงมีความสำคัญทั้งในทางการเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "การตั้งรัฐบาล"

ตามกำหนดการแล้ว รายชื่อ 250 ส.ว. จะต้องประกาศออกมาภายใน 3 วัน หลังจากที่มีการประกาศรายชื่อ ส.ส. เมื่อวันที่ 9 พ.ค. เป็นวันสุดท้าย ที่จะต้องประกาศรายชื่อส.ส. ดังนั้น รายชื่อ ส.ว.ก็ต้องประกาศภายในวันที่ 11 พ.ค.นี้

ที่ผ่านมา การสรรหา และการคัดเลือกส.ว. ดูเหมือนจะราบรื่น และพร้อมที่จะประกาศออกมาได้ตามกำหนด ...แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ให้ต้องลุ้นระทึกในช่วงสุดท้ายนี่เอง เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ยื่นคำร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ที่ใช้ตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ว่าขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 269 ( 1 ) หรือไม่ ซึ่งวันนี้ (8พ.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดประชุมเพื่อพิจารณาว่า จะรับ หรือไม่ รับคำร้องดังกล่าวไว้วินิจฉัย

มาตรา 269 (1) ของรัฐธรรมนูญ ระบุว่า หัวหน้าคสช. ต้องตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว ที่ต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีความรู้และประสบการณ์ในด้านต่างๆ ที่สำคัญ และมีความเป็นกลางทางการเมือง... ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ได้ตั้งคณะกรรมการสรรหาส.ว.โดยให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน และ กรรมการทั้งหมด ที่มีการเผยแพร่ทางสื่อ ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ และ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ปมปัญหาจึงอยู่ที่ กรรมการสรรหา ส.ว. ชุดนี้ มีความเป็นกลางทางการเมือง หรือไม่...

ถ้าที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับเรื่องไว้พิจารณา การประกาศรายชื่อ 250 ส.ว. ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ ก็ราบรื่น ไร้ปัญหา แต่ถ้า มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาวินิจฉัย ต้องดูว่า จะกำหนดขั้นตอนการพิจารณาอย่างไร และกำหนดจะวินิจฉัยลงมติ ได้ก่อนวันที่ 11 พ.ค. หรือไม่ ... คสช. ต้องรอลุ้นด้วยใจระทึก

**เจตนาอะไรก็รู้ๆ กันอยู่ เมื่อ "จอห์น วิญญู" โพสต์ เสียดสี “ประเทศนี้ความหน้าด้านชนะทุกอย่าง ไม่เกรงใจประชาชนคนเสียภาษี” ในช่วงเวลาแห่งความสุขของคนไทย หรือแบบนี้ที่คนเขาเรียก“พ่อแม่ไม่สั่งสอน”

คราวที่แล้วเป็นประเด็นกับ "โจ นูโว" จนลุกลามไปสู่บุพพการี ... "จอห์น วิญญู" หรือ จอนห์ วงศ์สุรวัฒน์ ดีเจ พิธีกร และนักแสดงชื่อดัง โพสต์บนทวีตเตอร์ John Winyu เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ค.62 เป็นประเด็นในโลกออนไลน์ได้วิจารณ์กันอีกแล้ว...

จอนห์โพสต์ว่า “ประเทศนี้... ความหน้าด้านชนะทุกอย่าง... ความเกรงใจประชาชนคนเสียภาษีไม่ต้องมี ยางอายไม่ต้อง... จะเอาแต่ใจตัวเอง และพรรคพวก... หลักกงหลักการไม่ต้อง เน้นความ"จำเป็น"... เป็นข้ออ้างปัญญาอ่อนที่ใช้เสมอมา... แต่ก็นั่นแหละ คนยุคนี้ไม่โง่แล้ว เอาแค่นั้นละกัน... รอดูด้วยความชิว ครับ”

ไม่ว่า จอห์น จะโพสต์ด้วยความห่าม หรือเกรงว่าจะเสียภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ใจกล้า กล้าคิด กล้าวิจารณ์ตามสไตล์หรืออย่างไรก็ตาม แต่อารมณ์ของคนที่ได้อ่านและรับรู้ จะรู้สึกว่า "มาไม่ถูกเวลา" เพราะ 4-6 พ.ค. คือช่วงเวลาที่ประชาชนทุกหมู่เหล่ากำลังปลื้มปีติ มีความสุขกับงานพระราชพิธิบรมราชาภิเษก

คนในโลกออนไลน์บ้างคิดว่า "จอห์น" ไม่รู้กาละเทศะ คำว่า “เสรีภาพ กับ มารยาท”มันมีเส้นกั้นบางๆ ระหว่างกันอยู่ ‘จอห์น วิญญู’แขวะแรงๆแบบนี้ เจตนาคืออะไร ก็รู้ๆ กันอยู่

บ้างก็ว่า อย่าพยายามทำอย่างนี้ ในช่วงเวลานี้ จิตใจสกปรกแล้วยังพยายามจะให้คนอื่นได้รับความสกปรกด้วย ... งานนี้ไม่เกี่ยวกับบุพการีจะทำอะไรให้ชาติบ้านเมือง แต่แบบนี้ใช่มั้ยที่คนเขาเรียก "พ่อแม่ไม่สั่งสอน!!"