สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศชาติประกาศผลประกวดสโลแกนวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลกซึ่งตรงกับวันที่ 3 พฤษภาคม ภายใต้หลักคิด “เสรีภาพบนความรับผิดชอบ” ในจำนวน 44 สโลแกน
คณะกรรมการมีมติเลือกสโลแกน “สกัดกั้นข่าวปลอม หล่อหลอมความจริง” ของนายหรรษมนัส ปัตภี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ชนะเลิศ จะได้รับรางวัลเป็นเงิน 5,000 บาท
เมื่อสมาคมนักข่าวฯ ได้แจ้งผลการประกวดในห้องไลน์ รวมสื่อมวลชน สมาชิก 290 คน และห้องนักข่าวอาวุโส สมาชิก 42 คน ทั้งสองห้อง 332 คน ปรากฏว่า นายบุญเลิศ ช้างใหญ่ สื่อมวลชนอาวุโส ได้เขียนข้อความขอคำอธิบายความหมายสโลแกน และตั้งคำถามกับสมาคมนักข่าวฯ ว่า “ความจริง” สามารถหล่อหลอมได้หรือไม่ ถ้าได้จะมีวิธีการหล่อหลอมอย่างไร พร้อมกันนี้ นายบุญเลิศได้นำความหมายคำ “หล่อหลอม” จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานส่งเข้าห้องไลน์ดังกล่าว ความว่า “อบรมบ่มนิสัยให้จิตใจโน้มน้าวไปในทางใดทางหนึ่ง เช่น หล่อหลอมจิตใจให้เป็นคนดี” และยังเขียนข้อความว่า “ถ้าความจริงหล่อหลอมได้ และใช้คำนี้ได้ ต่อไปก็จะได้ยอมรับกัน กับการ “หล่อหลอมความจริง” แต่ถ้ามีผู้คับข้องใจ ไม่สบายใจ คลางแคลงใจกับคำนี้ ก็ค่อยว่ากัน...”
จากนั้นสมาคมนักข่าวฯ ได้ส่งไฟล์ เปิดใจนักศึกษา มรภ.นครสวรรค์ เจ้าของสโลแกน “สกัดกั้นข่าวปลอม หล่อมหลอมความจริง” เข้ามาในไลน์ห้อง รวมสื่อมวลชนและห้องนักข่าวอาวุโส โดยนายมหรรษมนัส ได้กล่าวถึงสภาพปัญหาที่ทุกคนเป็นสื่อมวลชนจะต้องเน้นย้ำกับข้อมูลที่เป็นความจริง ทำให้นายบุญเลิศส่งข้อความเพิ่มเติมว่า ยังไม่กระจ่างในคำอธิบาย “หล่อหลอมความจริง” เพราะผู้ชนะเลิศไม่ได้พูดถึงคำว่าหล่อหลอมความจริงเลยแม้แต่คำเดียว และคณะกรรมการสมาคมนักข่าวฯ ก็ไม่มีคำอธิบาย
ต่อมาสมาคมนักข่าวฯ ได้ส่งข้อมูลว่าด้วย Fake News ข่าวปลอม ให้สมาชิกใน 2 ห้องไลน์ได้อ่าน โดยไม่ได้มีกล่าวถึงประเด็นที่ถูกท้วงติงในเรื่อง “หล่อหลอมความจริง” แต่ประการใด
กระทั่งในเย็นวันเดียวกัน นายบุญเลิศได้ขอยุติการส่งข้อความ โดยเขียนว่าตะขิดตะขวงใจกับคำว่า “หล่อหลอมความจริง” และทิ้งท้ายว่า ไม่เคยได้ยินใครพูดคำว่า “หล่อหลอมความจริง” หรือ “หล่อหลอมความถูกต้อง”
อนึ่ง วันที่ 3 พฤษภาคมเป็นวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก สมาคมนักข่าวฯ จะใช้คำขวัญนี้ไปรณรงค์ต่อไปในระยะยาว ให้สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปตระหนักถึงการใช้เสรีภาพอย่างมีคุณภาพ พร้อมกับออกบทความ เรื่อง “3 พ.ค. วันเสรีภาพสื่อ 2019 การทำข่าวเลือกตั้งทั่วโลก ท้าทายสุดในยุคข่าวปลอม”