ตัวแทนกิจการร่วมค้า เอ็นซีพี ยื่นร้องผู้ตรวจฯ สอบการท่าเรือฯ ไม่ให้ยื่นซองประมูลสร้างท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 มูลกว่า 3 หมื่นล. ลั่นเป็นไปได้ที่จะไม่ผ่านคุณสมบัติ แย้มอีกฝ่ายให้ผลประโยชน์อื้อ
วันนี้ (25 เม.ย.) นายเผด็จ เมธิยานนท์ ตัวแทนกิจการร่วมค้า เอ็นซีพี เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบกรณีการท่าเรือแห่งประเทศไทย ไม่ให้กลุ่มกิจการร่วมค้า เอ็นซีพี เป็นผู้มีคุณสมบัติในการยื่นซองประมูล โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ในส่วนท่าเทียบเรือเอฟ ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 3 หมื่นล้านบาท
นายเผด็จ กล่าวว่า การท่าเรือฯ ได้เปิดให้เอกชนยื่นซองเพื่อเข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยมีเอกชนเพียง 2 ราย คือกลุ่มจีพีซี และกลุ่มกิจการร่วมค้า เอ็นซีพี ที่เข้ายื่นซองประมูลตามหลักเกณฑ์ที่ทางการท่าเรือฯ กำหนดไว้ว่ามีทั้งหมด 5 ซอง แต่ปรากฎว่าทางกิจการร่วมค้า เอ็นซีพี ได้รับแจ้งในเวลาต่อมาว่ากิจการร่วมค้า เอ็นซีพี ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาในซองที่ 2 ซึ่งเป็นซองคุณสมบัติเบื้องต้น โดยอ้างว่าเป็นเรื่องของสัญญาที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้ทางกิจการร่วมค้า เอ็นซีพี จะไม่มีโอกาสที่จะเข้าไปสู้ในการเปิดซองที่ 3 และซองที่ 4 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการออกแบบโครงการและผลประโยชน์ที่จะเสนอให้กับทางการท่าเรือฯ ตามลำดับ จึงเห็นว่า การพิจารณาตัดสิทธิ์ดังกล่าวของการท่าเรือฯ น่าจะไม่ถูกต้อง จึงขอให้ทางผู้ตรวจฯ ดำเนินการตรวจสอบ
“ทางกลุ่มกิจการร่วมค้า เอ็นซีพี เห็นว่าเหตุผลที่การท่าเรือฯ ตัดสิทธิ์บริษัท ไม่ใช่เรื่องที่เป็นสาระสำคัญ และก่อนที่จะมีการยื่นซอง การทำสัญญาของกลุ่มกิจการร่วมค้า เอ็นซีพี เป็นไปอย่างถูกต้อง การตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่จะใช้ยื่นก็มีทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายพิจารณาอย่างครบถ้วน จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะไม่ผ่านคุณสมบัติ แต่เราก็ไม่ได้มีข้อมูลว่าการที่เราถูกตีตก เพราะการท่าเรือฯ ต้องการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนที่เหลืออยู่รายเดียวเป็นผู้ได้รับการประมูลหรือไม่ เพียงแต่เรามั่นใจว่าผลประโยชน์ที่กลุ่มกิจการร่วมค้า เอ็นซีพี ได้เสนอให้กับการท่าเรือฯ ในซองที่ 4 สูงมาก จนเราน่าจะได้รับงาน และผลประโยชน์ดังกล่าวจะเกิดประโยชน์กับการท่าเรือฯ อย่างมหาศาล จึงมองว่าการตัดเราออกไม่เป็นธรรม”
