xs
xsm
sm
md
lg

5 วันดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืน“ดื่มไม่ขับ” 1.7 แสนคน ยึดรถกว่า 5 พันคัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รองโฆษก คสช.เผย 5 วัน ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับ แล้ว 5,318 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รถจักรยานยนต์ 104,279 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 73,139 คน พร้อมเตือนผู้ขับขี่ยานพาหนะพักรถ-พักคน เป็นระยะเพื่อความปลอดภัย

วันนี้(16 เม.ย.) ​พันเอกหญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ระบุว่า มาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ”พบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่เมื่อวานนี้(วันที่ 15 เมษายน 2562) ประกอบด้วย
​- รถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 45,508 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดไว้ 1,166 คัน
​- รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 42,696 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 2,291 คน ยึดรถยนต์ 457 คัน

โดยตลอด 5 วันที่ผ่านมา (11-15 เมษายน 2562) เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการ ดื่มไม่ขับไว้แล้ว 5,318 คัน (แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 3,907 คัน และรถยนต์ 1,411คัน ) และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รถจักรยานยนต์ 104,279 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 73,139 คน

อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่าสถิติผู้ฝ่าฝืนมาตรการปลอดภัยมีจำนวนมากนั้น เนื่องจากในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ผู้ใช้เส้นทางมีจำนวนมาก ประกอบกับเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มจำนวนจุดบริการ/จุดตรวจสอบมากขึ้น ทำให้ตรวจพบผู้ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้ทั้งมาตรการทางนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ เน้นการสร้างความเข้าใจ ขอความร่วมมือ หรือการจัดส่งคนที่ดื่มกลับบ้าน เพื่อมุ่งหวังให้ประชาชนปลอดภัยเป็นสำคัญ

สำหรับรถที่ควบคุมไว้นั้น เจ้าหน้าที่ได้ดูแลและจัดหาสถานที่เก็บรักษาไว้อย่างเหมาะสม โดยผู้เป็นเจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับคืนได้หลังเทศกาลตามเวลาที่กำหนด ยกเว้นรถที่อยู่ในระหว่างการดำเนินคดี ต้องรอให้กระบวนการทางคดีเรียบร้อยก่อน

ทั้งนี้ ประชาชนทยอยเดินทางกลับจากการเฉลิมฉลองและท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าการจราจรจะมีความคับคั่งเพิ่มมากขึ้นตลอดวัน อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ขับขี่เตรียมแผนการเดินทาง ตรวจสอบสภาพอากาศและการจราจร เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีรถหนาแน่น รักษาวินัยจราจร โดยเฉพาะ ดื่มไม่ขับ คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกกันน๊อค ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด พักรถพักคนเป็นระยะ รวมทั้งการมีน้ำใจต่อผู้ร่วมทางโดยเจ้าหน้าที่ทุกส่วนจะดูแลการเดินทาง อำนวยความสะดวก ทั้งในพื้นที่สถานีขนส่ง ปมคมนาคม เส้นทางหลักและเส้นทางรอง เปิดเส้นทางพิเศษ ช่วยการระบายรถให้มีความคล่องตัว เพื่อให้ ประชาชาเดินทางได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย



กำลังโหลดความคิดเห็น