เรื่องด่วน! ผู้ตรวจฯ พิจาณาคำร้อง“เรืองไกร”ยื่นเลือกตั้งโมฆะหลังสงกรานต์นี้

เลขาฯ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน คาดหลังสงกรานต์จะพิจารณาคำร้องของ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ที่ให้ผู้ตรวจฯ พิจารณายื่นศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการกระทำของ กกต.ขัดหรือแย้งต่อกฎหมายและรัฐธรรมนูญหรือไม่ และจะทำให้การเลือกตั้ง 24 มี.ค.62 เป็นโมฆะหรือไม่ ชี้เป็นเรื่องเร่งด่วน

วันนี้(15 เม.ย.) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ยื่นคำร้องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งความเห็นให้ศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นโมฆะ ว่า คำร้องดังกล่าวอยู่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมเอกสารและข้อเท็จจริงต่างๆ ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อพิจารณาว่าอยู่ในอำนาจการพิจารณาหรือไม่ หากอยู่ในอำนาจก็จะสั่งรับไว้พิจารณา ซึ่งตามกระบวนการและขั้นตอนเมื่อรับเรื่องแล้วก็คงต้องหาพยานหลักฐาน หาข้อเท็จจริง รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการชี้แจง เพื่อนำข้อมูลต่างๆ มาประกอบการพิจารณาวินิจฉัย เข้าใจว่า หลังจากเทศกาลสงกรานต์ทางเจ้าหน้าที่น่าจะเร่งนำคำร้องดังกล่าวเสนอเข้าสู่ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อพิจารณา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา นายเรืองไกร เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้พิจารณาและเสนอความเห็นไปยังศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญ ว่าการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ และการกระทำของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ และจะทำให้ผลการเลือกตั้งทั่วไปเป็นโมฆะหรือไม่ เนื่องจากเห็นว่ามีหลายประเด็นที่ยังสับสนหาข้อยุติไม่ได้ ทั้งเรื่องการนับคะแนน 100% ที่ กกต. ประกาศในแต่ละครั้งไม่ตรงกัน เช่นเดียวกับการไม่นำบัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์มานับรวม ถือว่า กกต.ปฏิบัติขัดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 117 ที่บัญญัติว่าการนับคะแนนให้กระทำ ณ ที่เลือกตั้งโดยเปิดเผยติดต่อกันจนเสร็จสิ้น และห้ามิให้เลื่อนหรือประวิงการนับคะแนน มาตรา 120 ทั้งนี้ต้องการให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอความเห็นทั้งที่ศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญ โดยในส่วนของพฤติกรรมทางปกครงให้ส่งศาลปกครองและกรณีขัดรัฐธรรมนูญให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย