xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง จี้ กกต.เปิดคะแนนเลือกตั้งรายหน่วยทั่วประเทศ - สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ ยุติข้อกังขา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คนส.ยื่นหนังสือร้อง กกต.เปิดคะแนนเลือกตั้งรายหน่วยทั่วประเทศ สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ยุติข้อกังขาเอื้อประโยชน์บางฝ่าย พร้อมเรียกร้องให้ถอนฟ้องหมิ่นประมาท 7 ผู้ต้องหาทันที ท้าฟ้อง 121 นักวิชาการร่วมแชร์ข้อมูลถอดถอน กกต. เผยลงชื่อถอดถอนไม่หวังผลจริง แค่ยุทธวิธีดึงสังคมเข้ามากดดัน

วันที่ (10 เม.ย.) เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) นำโดยนายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองถึง กกต. โดยระบุว่า การเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. นอกจากไม่ช่วยให้ประเทศไทยพ้นสภาวะวิกฤตตามที่ควรจะเป็น กลับยิ่งซ้ำเติมให้วิกฤตรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งที่มีข้อพิรุธและก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้มาใช้สิทธิที่ไม่ตรงกับบัตรลงคะแนน จำนวนคะแนนร้อยละ 5 สุดท้าย ที่ไม่ได้สัดส่วนกับจำนวนหน่วยเลือกตั้ง หรือว่าวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ผิดหลักการ รวมทั้งอาจขัดรัฐธรรมนูญ ขณะที่ประชาชนที่เข้าชื่อถอดถอน กกต.เพราะเห็นว่าปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมกลับถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท ยิ่งสร้างความไม่พอใจในสังคมเพิ่มขึ้น ซึ่งสภาพการณ์ดังกล่าวกำลังพาสังคมไทยไปสู่จุดตีบตันหรือว่าวิกฤตระลอกใหม่

คนส.จึงมีข้อเรียกร้องต่อ กกต.ดังนี้ 1. กกต.ต้องเปิดเผยผลการนับคะแนนรายหน่วยเลือกตั้ง รวมถึงวิธีการรวบรวมผลการนับคะแนน เนื่องจากผลคะแนนรวมที่ กกต.รายงานไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิ หากผลคะแนนไม่ตรงกัน กกต.ก็ต้องนับใหม่ให้สิ้นข้อสงสัย ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับผลคะแนนรวมในที่สุด 2. กกต.ต้องเปิดเผยวิธีการและขั้นตอนการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อโดยละเอียดอย่างเป็นทางการ เนื่องจากการแถลงข่าวของ กกต. ที่ผ่านมาที่ไม่ได้ระบุวิธีการลงคะแนนที่ชัดเจนยิ่งก่อให้เกิดข้อกังขาว่าอาจมีการนำวิธีการคำนวณที่ไม่ถูกต้องมาใช้ในทางที่เอื้อประโยชน์บางฝ่าย หาก กกต.ไม่เร่งสร้างความกระจ่าง รวมทั้งไม่นำวิธีการคำนวณที่ถูกต้องที่ฝ่ายต่างๆ เสนอมาประกอบการพิจารณา การประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของ กกต.ก็จะไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน


3. กกต. ต้องถอนฟ้องประชาชนที่แชร์การลงชื่อถอดถอน กกต. รวมถึงประชาชนที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงาน กกต.ในลักษณะอื่น เพราะการลงชื่อและการวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการติดตามตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานรัฐและเป็นการใช้สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองตามกติกา ไม่ได้มีเจตนาจะหมิ่นประมาท กกต.ไม่ควรใช้กฎหมายมาปิดปาก หรือสุ่มเลือกดำเนินคดีต่อบางคนภายใต้เป้าหมายบางประการ หาก กกต.ไม่ถอนฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ก็ขอให้ดำเนินคดีกับนักวิชาการที่ลงชื่อและแชร์การถอดถอน กกต. http://xn--change-h5t3r.org/ จำนวน 121 คนเพื่อความเท่าเทียมกัน

นายอนุสรณ์กล่าวว่า อยากให้ กกต.ทำงานด้วยความกล้าหาญมากกว่านี้ อย่าเห็นแก่ตนเองที่ได้รับการปลุกปั่นหรือหวาดกลัวสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อทำให้ กกต.เป็นองค์กรอิสระที่เที่ยงธรรม อย่างไรก็ตาม จากการติดตามการทำงานของ กกต.ในช่วงแรกๆ เครือข่ายเราได้เดินทางมาให้กำลังใจ กกต.ถึง 2 ครั้ง แต่หลังจัดการเลือกตั้งแล้วเสร็จพบว่า กกต.ชุดนี้มีความไม่เป็นกลางมากที่สุด ส่วนตัวประเมินว่าสอบตก เพราะจนถึงขณะนี้ตอบไม่ได้ว่าเหตุใดจำนวนผู้ใช้สิทธิ์กับจำนวนบัตรลงคะแนนจึงไม่ตรงกัน นอกจากนี้ยังทราบมาว่าหน่วยงานของรัฐละหน่วยงานความมั่นคงจำนวนมาก็นับคะแนนการเลือกตั้งเป็นรายหน่วยเช่นกัน แต่ภาพรวมตัวเลขไม่ตรงกัน จึงเป็นข้อสงสัยว่านับกันแบบไหนถึงไม่ตรงกัน ดังนั้น กกต.ควรจะรีบเปิดเผยผลคะแนนโดยเร็วที่สุด

“สิ่งที่เครือข่ายนักวิชาการต้องการคือเรียกร้องให้กกต.เปิดเผยผลคะแนนรายหน่วยถ้าพบว่ามีความผิดพาดในหน่วยใดก็ให้นับคะแนนใหม่ และถอนฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 7 คนไม่ได้มองไปไกลถึงทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ การลงชื่อถอดถอนเป็นเพียงยุทธวิธีเพราะเอาเอาจริงการลงชื่อถอดถอนนั้นไม่ได้มีผลทางกฎหมาย แต่ทำไปเพื่อให้เกิดแรงกดดันทางสังคม”



กำลังโหลดความคิดเห็น