ข่าวปนคน คนปนข่าว
** "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" ไม่เครียดพ้นตำรวจ “ลุงตู่”ลงนาม ม.44 โอนย้ายเป็นข้าราชการพลเรือนประจำสำนักนายกฯ เปิดทางสอบข้อกล่าวหา วิจารณ์หึ่ง หรือว่าจะเป็นจุดเริ่มของการขุดรากถอนโคนซูเปอร์คอนเนกชัน ? ช่างบังเอิญ "ลุงป้อม" ก็ป่วยท้องเสีย
หลังครม. มีมติรับทราบเรื่องเด้งฟ้าผ่า“บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ลงนามคำสั่ง หัวหน้าคสช. ใช้ ม.44 โอน ย้าย “บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล พ้นจากข้าราชการตำรวจ เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหารระดับสูง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ชัดเจนว่า การปลด “บิ๊กโจ๊ก”พ้นจากตำรวจด้วย ม.44 นี้ก็เพื่อให้เข้ามาอยู่ในลิสต์ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่อยู่ระหว่างถูกตรวจสอบ ซึ่ง“วิบากกกรรม” ของอดีตนายตำรวจหนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งยุค เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น กระบวนการหลังจากนี้ คาดหวังกันว่าปมข้อสังสัยจะคลี่คลายไปสู่คำตอบว่า “บิ๊กโจ๊ก”จะถูกสอบเรื่องอะไร กี่ข้อหา และ ร้ายแรงแค่ไหน แล้วจะไปถึงจุดที่วิพากษ์วิจารณ์กันหึ่งในเวลานี้ ว่า นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการขุดรากถอนโคน “ซุปเปอร์คอนเนกชัน”ที่อยู่ เบื้องหลัง"บิ๊กโจ๊ก" หรือไม่ ?!
หลังจากมีคำสั่ง ช่วงเย็น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลงานสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้ารายงานตัว และรับทราบภารกิจหน้าที่ในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลาเข้าพบเพียง 10 นาที "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" เดินทางมาโดยแต่งกายในชุดธรรมดา ไม่ได้สวมเครื่องแบบ และมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีอาการเคร่งเครียดแต่อย่างใด...
ไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าของ"บิ๊กโจ๊ก"จะเป็นอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาย่อมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อย่างเมื่อวานนี้ ก็ไม่มีเงาของ"บิ๊กโจ๊ก"มาคอยรอรับ “ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เหมือนที่เคยทำตามหน้าที่ผู้ช่วยโฆษกประจำตัว ทุกๆวันอังคาร ที่มีประชุมครม. ใครๆก็ทราบว่าระหว่างลุงป้อม กับ หลานโจ๊ก นั้น มีความใกล้ชิดสนิทแนบแน่น เกิดเรื่องกับ“บิ๊กโจ๊ก”ก็ว่ากันว่า "ลุงป้อม" ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ จนล้มป่วยลง ... บังเอิญที่ ลุงป้อม เองก็แจ้งว่าป่วย ขอลาประชุมครม. 1วัน จนคนใกล้ชิดต้องออกมาปฏิเสธทันควัน
ยืนยันที่“ลุงป้อม”หายไป และป่วยนั้น มาจากท้องเสียจริง จากการรับประทานอาหาร แต่ไม่รุนแรง ลางาน 1 วันพักฟื้นร่างกายเดี๋ยวก็หาย ไม่เกี่ยวการเมืองปมย้าย “บิ๊กโจ๊ก”พร้อมเปิดบ้านลาดพร้าว 71 ทำบุญสงกรานต์ 14 เม.ย. นี้ ... งานนี้ กว่าจะได้ยินจากปากของ “ลุงป้อม”ว่าคิดอย่างไรกับกรณีหลาน “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ”คงต้องรอกันหลายวันสักหน่อย
**แรงส์ !! ไม่มีใครเขาทำกัน มันผิดหลักการทูตของสหประชาชาติ ช้าๆ ชัดๆ จาก “ดอน ปรมัตถ์วินัย ”ซัด “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”กรณีโป๊ะแตก เชิญทูตต่างชาติมาร่วมฟังคดียุยงปลุกปั่นของตัวเอง
"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กับ"โป๊ะแตก"ครั้งล่า ว่าด้วยการเบื้องหลังการปรากฏตัวของเหล่าตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศและเจ้าหน้าที่ทูตต่างชาติกว่า 11 ประเทศ มาร่วมสังเกตุการณ์ วันรับทราบข้อกล่าวหาคดียุยุง ปลุกปั่น ที่ สน.ปทุมวัน เมื่อวันก่อน ที่แท้เป็น "พ่อฟ้า" เชิญมาเองนั้น เจตนาที่จะฟ้องโลกของพ่อฟ้าครั้งนี้ เป็นการกระทำที่ “ดอน ปรมัตถ์วินัย”รมว.ต่างประเทศ ปริ๊ดแตก ตั้งคำถามในความรู้สึกของประชาชนคนไทย ใครจะทำอะไรก็ทำได้ มันเหมาะกระนั้นหรือ...
ว่าแล้วก็ขยายความ การที่ทูตเข้ามาเกี่ยวข้อง เรียกร้องกระบวนการยุติธรรม จะทำได้กรณีเดียวคือ กรณีคนของเขามีเรื่องในบ้านเรา เป็นกรณีเดียวที่สามารถทำได้ในหลักสากล แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องคนของเขา ไม่มีประเทศไหนเขายอม เขาไม่ทำกัน ... เรื่องของพ่อฟ้าธนาธร กระทรวงการต่างประเทศจึงอยู่เฉยไม่ได้ กำลังพิจารณา ทำหนังสือชี้แจง หรือเชิญทูตต่างๆ มาทำความเข้าใจ เพราะ สิ่งที่คนไทยไม่สบายใจ คือเรื่องแบบนี้ในบ้านเขายังทำไม่ได้เลย แต่มาทำในบ้านเรา “มัน ผิดหลักการการทูตของสหประชาชาติ”
ยิ่งหากคนของเราไปเชิญเขามา เหมือนชักศึกเข้าบ้าน "ดอน ปรมัตถ์วินัย " บอกว่า ตามหลักการเชิญไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม ทางสถานทูตก็ต้องเข้าใจ และหลักปฏิบัติ หากมีกรณีเกิดข้อสงสัยสถานทูตสามารถสอบถามมายังกระทรวงการต่างประเทศได้ ว่าสามารถไปร่วมสังเกตการณ์ได้ หรือไม่ เป็นหลักที่ปฏิบัติกันทั่วโลก
... ส่วนกรณีนายธนาธร ต้องขึ้นศาลทหาร สถานทูตจะไปร่วมสังเกตการณ์ได้หรือไม่นั้น เรื่องของศาล เป็นอีกกระบวนการหนึ่ง และเรื่องของศาล มักจะเปิดโอกาสให้สาธารณชนรับฟังอยู่แล้ว ถือเป็นคนละเรื่องกับการสอบปากคำที่สถานีตำรวจ
เอาเป็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเขาไม่ปฏิบัติกัน แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของเรา เราไม่เคยทำกับใคร ประเทศอื่นๆ ก็ไม่ทำเช่นนี้กับประเทศไหน ไม่เคยมีหลักปฏิบัติในการเข้าไปเก็บข้อมูลในห้องไต่สวน และที่ถูก ที่ควร หากอยากรู้บรรยากาศเป็นอย่างไร ให้อยู่นอกสถานีตำรวจ การเข้าไปเก็บข้อมูลไม่ใช่เข้าไปนั่งฟัง ไม่มีทางที่ประเทศไหนๆ จะทำได้โดยเด็ดขาด ไม่เคยเกิดขึ้น และไม่มีทางที่เขาจะให้เกิดขึ้น
"ธนาธร" ทำเพื่อตัวเอง ทำไปด้วยความสะใจ แต่กับศักดิ์ศรีคนไทย และประเทศ ล่ะ "พ่อฟ้า" เคยคิดบ้างมั้ย
**เบื้องหลังความหงุดหงิดงุ่นง่าน ทีโออาร์ดิวตี้ฟรี ของ ทั่นประธานฯ"วรวุฒิ อุ่นใจ" สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ฮั่นแน่! สวมหมวกทำงานให้เจ้าสัวห้างยักษ์อีกใบ ก็ไม่บอก
พลันที่ ทอท. เปิดขายซองคัดเลือกผู้ประกอบการโครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ (ดิวตี้ฟรี) 2 สัญญา คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1 สัญญา และท่าอากาศยานภูมิภาค ได้แก่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ รวมอีก 1 สัญญา เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีเสียงร้องขึ้นมาทันทีว่า "ไม่เป็นธรรม" เอื้อประโยชน์ให้กับใครหรือไม่ ... คนที่ร้องเป็นถึง ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย "วรวุฒิ อุ่นใจ" โพสต์ข้อความลงในเพซบุ๊ก ในหัวข้อ "แล้วสิ่งที่ผมกังวลก็เป็นจริง" พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันแชร์ เพื่อหยุดยั้งเรื่องนี้
จริงๆ เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจถึงภาพรวมก่อน เอาตั้งแต่ วรวุฒิ เป็นใคร “สมาคมผู้ค้าปลีกไทย”มายังไง ... สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ถูกก่อตั้งขึ้นมา ตั้งแต่ปี 2522 เดิมทีเป็นการรวมตัวกันอย่างไม่เป็นทางการ โดยใช้ชื่อว่า “ชมรมผู้ค้าปลีกห้างสรรพสินค้า” ต่อมาเมื่อมีการจดทะเบียนเป็นสมาคมฯ อย่างเป็นทางการ จึงใช้ชื่อว่า “สมาคมผู้ค้าปลีกห้างสรรพสินค้า”ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น “สมาคมผู้ค้าปลีกไทย”ในปี 2534 ฟังชื่อเผิน ๆ เหมือนสมาคมนี้น่าจะมีส่วนช่วยปกป้อง-คุ้มครอง-ส่งเสริม ให้ผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อย หรือ ขนาดกลางในประเทศ ให้ลืมตาอ้าปากได้ โดยเฉพาะในยุคที่การค้าขายกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคของเทคโนโลยีใหม่... แต่กลับเป็นว่า ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา “สมาคมผู้ค้าปลีกไทย”เล่นออกมาตีฆ้องร้องป่าว อยู่เรื่องเดียวคือ "ดิวตี้ฟรี" ?!?
ถ้าไปพลิกดูรายชื่อของผู้บริหารสมาคมค้าปลีกไทย ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา รับรองว่าทุกคนต้องถึงบางอ้อทันที เพราะว่า เครือห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่อย่าง "เซ็นทรัล" ส่งคนมากินตำแหน่ง "ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย" มาอย่างต่อเนื่อง ไล่เรียงตั้งแต่ สุทธิชาติ จิราธิวัฒน์ , ลิขิต ฟ้าปโยชนม์ , ธนภณ ตังคณานันท์ บุษบา จิราธิวัฒน์ , จริยา จิราธิวัฒน์ และ คนปัจจุบันชื่อ "วรวุฒิ อุ่นใจ" (ไม่นับรวมกับ สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ที่ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมผู้ค้าปลีกห้างสรรพสินค้าคนแรก ในปี 2527 )
ปัจจุบันประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยที่ชื่อ "วรวุฒิ อุ่นใจ" นั้น สวมหมวกอยู่อีกใบคือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) หรือ COLในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป
นั่นเองเป็นที่มาว่า ทำไม เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา เมื่อทอท. เปิดขายซองคัดเลือกผู้ประกอบการ โครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ (ดิวตี้ฟรี) 2 สัญญา ดังกล่าว บริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล จึงเป็นรายแรกที่รีบเข้าไปซื้อซอง ก่อนที่วันถัดมา "วรวุฒิ" จะรีบออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ทันทีว่า "TOR duty free ไม่เป็นธรรม เอื้อผู้ประกอบการบางราย"
แต่เมื่อลองอ่านรายละเอียดจากข้อมูลเสี้ยวหนึ่ง (1 หน้า) ของ TOR มูลค่า 2.5 ล้านบาท ที่ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เผยออกมาก็พอจะเห็นได้ว่า ข้อความที่วรวุฒิ กล่าวว่า " แล้วสิ่งที่ผมกังวล ก็เป็นจริง.. TOR duty free ใช้เกณฑ์ประเมินแบบนี้จนได้ คะแนนด้านเทคนิค 80% คะแนนด้านผลตอบแทนประเทศ 20% เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้เข้าประมูลที่ให้ผลตอบแทนประเทศชาติสูงๆ ก็จะแพ้ผู้เข้าประมูลที่ให้ผลตอบแทนต่ำๆ ... ประเทศชาติ จะต้องสูญเสียประโยชน์
ปีหนึ่งหลายหมื่นล้าน ตลอดอายุสัมปทาน 10 ปี คิดเป็นเงินนับแสนล้าน..!!" นั้นมีนัยยะซ่อนเร้นอยู่
เพราะจริงๆ แล้ว TOR ของ ทอท.ระบุชัดเจนว่า สัดส่วนการให้คะแนนนั้น คือ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในเชิงธุรกิจของผู้ยื่นข้อเสนอการดำเนินงาน 15%, แผนการดำเนินงาน 40% , แผนธุรกิจ 25% และค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี (Minimum Guarantee) ที่เสนอให้ ทอท. อีก 20% รวมเป็น 100% หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ TOR ของ ทอท.ไม่ได้เป็นสูตร 80 : 20 อย่างที่วรวุฒิอ้างถึง แต่เป็น 15 : 40 : 25 : 20 ต่างหาก และทั้งหมดเป็นรายละเอียดด้านเทคนิค ไม่ได้เป็นด้านเทคนิค 80% และ ด้านผลตอบแทนประเทศ 20% แต่อย่างใด ที่สำคัญคือก็ หากมองในมุมของคนให้สัมปทาน 15% + 40% + 25% นี่แหละที่จะบ่งชี้ว่า 20% สุดท้ายจะเป็นจริงได้หรือไม่ หรือเป็นแค่ฝันลมๆ แล้ง ๆ บนแผ่นกระดาษ ?
นัยยะซ่อนเร้น ของความพยายามในการบิดเบือนรายละเอียด ทีโออาร์ ดังกล่าว ใช่หรือไม่ว่า เป็นความจงใจที่จะเอื้อให้ "เครือธุรกิจยักษ์ใหญ่เซ็นทรัล" ที่ในปี 2561 มียอดขายรวมเกือบ 4 แสนล้านบาท สามารถเข้าไปรุกคืบเข้าไปแสวงหาประโยชน์ในธุรกิจดิวตี้ฟรี ได้สะดวกโยธินขึ้น โดยใช้ชื่อ“สมาคมผู้ค้าปลีกไทย” บังหน้า อ้างเสียงของประชาชน อ้างผลประโยชน์ประเทศชาติ เพื่อตักตวงผลประโยชน์เข้าพรรคพวกตัวเอง
ไม่ทราบว่า คำถามนี้ใครควรจะตอบดี ระหว่าง “ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย”หรือ “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน)” ?!?