xs
xsm
sm
md
lg

“อภิรักษ์” เฮ! ศาล ปค.สูงสุดยืนเพิกถอนคำสั่งชดใช้ 1.2 พันล้าน คดีรถดับเพลิงฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน (ภาพจากอินตาแกรม @apirak_bkk)
ศาลปกครองสูงสุด พิพากษายืนเพิกถอนคำสั่งให้ “อภิรักษ์” ชดใช้ค่าสินไหม 1.2 พันล้านกรณีการจัดซื้อรถดับเพลิงฯ ชี้ไม่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายเเรง ใช้ความระมัดระวังเพียงพอแล้ว จึงเปิด L/C ตามเอ็มโอยูที่ทำไว้ก่อน โดยที่ไม่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้

วันนี้ (28 มี.ค.) ศาลปกครองสูงสุด อ่านพิพากษาในคดีที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.ยื่นฟ้อง กทม., ผู้ว่าฯ กทม. และ รมว.มหาดไทย เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 จากกรณีที่เคยมีคำสั่งให้นายอภิรักษ์ชดใช้ค่าเสียหาย 1,296,794,910 บาท จากกรณรที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลทางความผิดอาญาในฐานกระทำทุจริตต่อหน้าที่ในโครงการจัดซื้อรถเรือดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย

โดยคดีนี้ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของผู้ว่า กทม. ที่ให้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ชดใช้ค่าสินไหมทดแทกรณีถูกกล่าวหาว่ามีมูลความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริตเกี่ยวกับการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยเนื่องจากเห็นว่าผู้ฟ้องไม่ได้มีอำนาจใดที่ต่างจากการทำข้อตกลงของความเข้าใจที่กำหนดให้เปิด L/C (ตราสารเครดิตหรือเอกสารที่มีขึ้นเพื่อยืนยันการชำระเงิน)ภายใน30วันนับตั้งเเต่ลงนามซื้อขายสัญญา อีกทั้งเมื่อดำรงตำเเหน่งยังขอให้มีการทบทวนการทำสัญญาเเบบรัฐต่อรัฐหรือระงับการเปิด L/C ย่อมเเสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังในการตรวจสอบพันธสัญญา เเม้ผู้ฟ้องจะเห็นถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายประการก็หามีอำนาจลำพังที่จะบอกยกเลิกสัญญาเเละคำพิพากษาของศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมืองก็ได้วินิจฉัยว่าผู้ฟ้องมีเจตนากระทำให้เกิดความเสียหายต่อ กทม.การกระทำจึงไม่เป็นการละเมิด คำสั่ง กทม.ที่ให้ผู้ฟ้องขดใช้ค้าสินไหมทดเเทนจึงมิชอบด้วยกฎหมายจึงพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งผู้ถูกฟ้องคดี
รถดับเพลิง กทม.ที่เกิดปัญหาการทุจริตและถูกกักไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง
ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงฟังยุติว่าผู้ฟ้องคดีได้มีคำสั่งเเต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณารายละเอียดการจัดซื้อรถเรือดับเพลิงเพื่อเกิดประโยชน์เหมาะสม ก่อนการขอเปิด L/C ด้วยเเล้วจึงเห็นชัดว่าว่าในภาวะเช่นนี้ผู้ฟ้องได้คำนึงถึงผลอันเกิดขึ้นเเละได้ใช้ความระมัดระวังพอสมควรเเก่เหตุตามกรอบอำนาจหน้าที่ของตนในการรักษาผลประโยชน์ทางราชการ และได้กระทำครบถ้วน หาได้เป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายเเรงเป็นเหตุให้ กทม.ได้รับความเสียหายเเต่ใดไม่ กรณีจึงไม่ถือเป็นการกระทำละเมิดอุทธรณ์ผู้ถูกฟ้อง ส่วนเรื่องที่ผู้ฟ้องคดีได้ทราบถึงความไม่ชอบของโครงการดังกล่าว เห็นว่า ผู้ฟ้องคดีได้พยายามตรวจสอบความถูกต้องเเละทบทวนการจัดซื้อโดยดำเนินการให้เกิดการทุจริตโปร่งใส เเม้ผู้ฟ้องคดีทราบถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมาย เเต่ก็ไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการในขั้นตอนของ ครม. กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์แต่โดยลำพัง

ส่วนประเด็นที่ ศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง เห็นว่า แม้ผู้ฟ้องไม่มีเจตนาที่ก่อให้เกิดความเสียหาย แต่คดีนี้เป็นการวินิจฉัยทางเเพ่งเกี่ยวกับรับผิดทางละเมิดหากเป็นการประมาทเลิ่นเล่ออย่างร้ายเเรงที่ผู้ฟ้องคดีเปิด L/C เป็นเหตุให้การซื้อขายสมบูรณ์

เห็นว่าประเด็นดังกล่าวได้มีการวินิจฉัยไว้แล้วว่าผู้ฟ้องได้ใช้ความระมัดระวังเพียงพอสมควรแก่เหตุและตามกรอบอำนาจหน้าที่ การที่ศาลปกครองกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-2 จึงฟังไม่ขึ้น ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น เห็นว่าคำสั่งของผู้ว่าฯ กทม.ดังกล่าว เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ถือเป็นการกระทำละเมิด จึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น