xs
xsm
sm
md
lg

“เชาว์” ปลุกเพื่อน ปชป.เคารพ ปชช.ไม่เอาเผด็จการ จี้อย่าลนตั้ง รบ.จนลืมโนยบาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เชาว์ มีขวด รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
รองโฆษก ปชป.เตือนพรรคฯ อย่าลนลานตั้ง รบ.จนลืมดูนโยบายหาเสียง แนะรอคะแนนสะเด็ดน้ำ อาจมีตัวแปรทำพลิก บี้ กกต.โปร่งใส ไม่เป็นเครื่องมือขั้วอำนาจ หวั่นตุกติกเลือกตั้งล้มทั้งระบบ เตือนเพื่อนในพรรคต้องเคารพ ปชช. ยึดแนวทางพรรคไม่เอาเผด็จการ

วันนี้ (28 มี.ค.) นายเชาว์ มีขวด รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีที่มีกระแสบีบให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องเลือกข้างสนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่ง ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อตั้งรัฐบาล ว่าระหว่างนี้ทุกคนไม่ควรดิ้นรนหรือดันทุรังให้มากนัก เพราะในขณะนี้อยู่ในระหว่างที่ กกต.จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ (29 มีนาคม) จะเห็นคะแนนชัดเจนทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าแต่ละพรรคจะได้ ส.ส.เขตกี่คน และคะแนนที่แต่ละพรรคได้ทั้งหมดจะนำมาคำนวณเป็น ส.ส.พึงมี รวมถึงได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวนเท่าใด จากนั้นจึงจะมีความชัดเจนในเรื่องคะแนนเสียงของแต่ละพรรคการเมืองว่ามี ส.ส.ทั้ง 2 ระบบเท่าไหร่กันแน่ ดังนั้น กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลจึงยังไม่ต้องเร่งรีบดำเนินการในขณะนี้ เพราะยังมีตัวแปรอีกหลายอย่างที่จะทำให้ตัวเลข ส.ส.ไม่นิ่ง เช่น เรื่องใบเหลือง ใบแดง ใบส้ม ที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ 95 เปอร์เซ็นต์ของ กกต.ภายในวันที่ 9 พฤษภาคม

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อไปว่า เรื่องเร่งด่วนในขณะนี้ กกต.ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดการยอมรับในกระบวนการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม กรณีใบเหลือง ใบแดง ใบส้ม ที่อาจจะออกมาตามอำนาจของ กกต.ต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ไม่ใช่ใช้การสอย ส.ส.มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อนำไปสู่ความผันแปรในคะแนนเสียงที่จะมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้กระบวนการเลือกตั้งทั้งระบบถูกทำลายไปด้วย

สำหรับพรรคการเมืองเมื่อได้อำนาจในฐานะตัวแทนประชาชนมาแล้ว ไม่ได้มีแค่เรื่องการวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้น แต่การจัดตั้งรัฐบาลต้องอยู่บนพื้นฐานแนวนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนด้วย ไม่ใช่อ้างเหตุจำเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาบีบพรรคการเมืองให้ไปรวมกันโดยไม่มีการพูดถึงหรือคำนึงถึงนโยบายที่จะทำเพื่อประชาชนตามที่ได้หาเสียงไว้

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์มีผู้สนับสนุนมากกว่า 3 ล้านเสียง ที่เชื่อมั่นในจุดยืนทางการเมืองไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ไม่เอาคนโกง ประชาชนเป็นใหญ่ประชาธิปไตยสุจริต แก้จน สร้างคน สร้างชาติ ตามแนวนโยบายของพรรค ว่าเป็นทางออกสำหรับประเทศ แม้จะไม่ใช่จำนวนเสียงสนับสนุนที่มากพอจะทำให้พรรคชนะการเลือกตั้ง แต่เป็นจำนวนเสียงที่ทำให้พรรคได้ ส.ส.กว่า 50 เสียง การตัดสินใจทางการเมืองจึงต้องเคารพเสียงประชาชนกว่า 3 ล้านเสียงที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาด้วย ทางเลือกของประชาธิปัตย์จึงควรยืนอยู่บนหลักการหรือจุดยืนไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจเผด็จการและไม่เอาคนโกง



กำลังโหลดความคิดเห็น