xs
xsm
sm
md
lg

พท.โวพรุ่งนี้มีข่าวดี ซัด พปชร.ชิงตั้ง รบ.เสียมารยาท ขู่ยุบพรรคเจอแรงต้าน ปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แกนนำ พท.ดาหน้าฉะ กกต.ปล่อยซื้อเสียง-คสช.แทรกแซงเลือกตั้ง จวก พปชร.ชิงตั้ง รบ.เสียมารยาท ดันทุรังหนุน “บิ๊กตู่” คนยี้ เย้ยยังรวมไม่ได้ 251 เสียง โวทิศทางที่ดีต่อสายคุยทุกพรรค แย้มพรุ่งนี้มีข่าวดี ขู่ใช้กระบวนการยุบพรรคเจอแรงต้าน ปชช.

วันนี้ (26 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายสามารถ แก้วมีชัย ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าว

โดยนายชูศักดิ์อ่านแถลงการณ์เรื่องความเห็นต่อการจัดการเลือกตั้ง และจุดยืนการจัดตั้งรัฐบาลตามเจตนารมณ์ของประชาชนว่า ตามที่ได้มีเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ปรากฏข้อเท็จจริงที่แสดงให้เห็นถึงปัญหา และกระบวนการในการจัดการเลือกตั้ง รวมถึงผลของการเลือกตั้งที่ทำให้เห็นถึงกติกาที่ไม่ชอบธรรม นำมาซึ่งการถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เสรีและเป็นธรรม สะท้อนว่าการดำเนินการจัดการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในครั้งนี้มีปัญหามาตั้งแต่ต้น เริ่มจากหัวหน้า คสช.ซึ่งมีส่วนได้เสียในการเลือกตั้ง มีอิทธิพลต่อการกำหนดกติกา กำหนดกรรมการ รวมทั้งใช้อำนาจตามมาตรา 44 เข้ามาแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งหลายครั้ง และในระหว่างการเลือกตั้งยังมีความไม่โปร่งใสในหลายขั้นตอน ทั้งกระบวนการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่ไม่ระบุจำนวนและสถานที่พิมพ์ ทำให้ตรวจสอบไม่ได้ การปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในการเลือกตั้งอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะในรูปแบบของการซื้อเสียง การใช้อำนาจรัฐ การใช้อิทธิพลข่มขู่คุกคามผู้สมัครและผู้สนับสนุนในหลายพื้นที่ ดังที่ปรากฏเป็นข่าวแพร่หลายโดยทั่วไป จนถึงขั้นตอนการนับคะแนน และการประกาศผลคะแนน ที่คะแนนจากหน่วยเลือกตั้งไม่ตรงกับที่มีการรายงานผล มีคะแนนมากกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิ อันแสดงให้เห็นว่า มีการใช้อำนาจรัฐ เข้ามาแทรกแซงในกระบวนการจัดการเลือกตั้งอย่างเห็นได้ชัด จนเป็นที่มาของการที่ประชาชนได้แสดงเจตจำนงที่จะเข้าชื่อถอดถอน กกต.ขณะนี้กว่า 700,000 คนแล้ว

นายชูศักดิ์กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าผลจากการเลือกตั้งได้สะท้อนให้เห็นถึงระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมที่จะทำให้เกิดปัญหาตั้งแต่การจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่มีพรรคการเมืองใดมีเสียงข้างมากเพียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้เอง และผลที่จะเกิดขึ้นต่อการเป็นรัฐบาลผสมที่จะทำให้ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดิน เรื่องดังกล่าวพรรคเพื่อไทยได้คัดค้านและแสดงความไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่ต้น เมื่อพิจารณาจากผลการเลือกตั้ง โดยคำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนผ่านการเลือกตั้งจะเห็นได้ว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้มีการแบ่งฝ่ายของประชาชนและของพรรคการเมืองอย่างชัดเจน ระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนให้หัวหน้า คสช.สืบทอดอำนาจต่อไป โดยมีพรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำ กับฝ่ายประชาธิปไตยที่คัดค้านการสืบทอดอำนาจดังกล่าว โดยมีพรรคเพื่อไทยและพรรคแนวร่วมอื่นๆ อีกหลายพรรค ซึ่งผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการขณะนับคะแนนได้ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยได้จำนวน ส.ส.มากที่สุดประมาณ 137 คน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ได้ ส.ส.ประมาณ 118 คน

“ต้องถือว่าพรรคเพื่อไทยได้รับฉันทามติจากประชาชนเพื่อให้เข้ามาบริหารประเทศ แต่พรรคพลังประชารัฐกลับอ้างคะแนนเสียงรวมของประชาชน ทั้งที่คะแนนดังกล่าวได้แปลงมาเป็นจำนวน ส.ส.แล้ว นอกจากนี้ เมื่อรวมจำนวน ส.ส.ของพรรคการเมืองทุกพรรคที่ประกาศชัดเจนก่อนการเลือกตั้งว่าคัดค้านการสืบทอดอำนาจ ก็มีจำนวน ส.ส.มากกว่า 250 คน และมีจำนวนคะแนนเสียงมากกว่าคะแนนเสียงของพรรคที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจกว่า 6 ล้านเสียง” นายชูศักดิ์ระบุ

นายชูศักดิ์กล่าวต่อไปว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าผลการเลือกตั้งเบื้องต้นสะท้อนว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ดังนั้น การที่พรรคการเมืองบางพรรคจะร่วมตั้งรัฐบาลและสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปนั้นน่าจะเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งรัฐบาลเช่นนี้จะไม่ได้ความยอมรับจากประชาชนและจะเป็นรัฐบาลที่ไร้เสถียรภาพ และไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาอื่นๆ ของประชาชนได้เลย พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองคำนึงถึงประเทศชาติและประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ทางการเมืองของตน และพรรคพร้อมที่จะทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองอย่างมี ความรับผิดชอบ และ สร้างสรรค์เพื่อให้เจตนารมณ์ของประชาชนได้รับการเคารพและปัญหาของประชาชนได้รับการแก้ไข

ขณะที่นายภูมิธรรมกล่าวเสริมว่า ในวันที่ 27 มี.ค. เวลา 10.00 น. พรรคเชิญผู้สมัคร ส.ส. และว่าที่ ส.ส.ประชุม บอกเล่าถึงสถานการณ์ต่างๆ โดยจะมีตัวอย่างพื้นที่ที่พบปัญหามาชี้แจงต่อสื่อมวลชน ส่วนอุปสรรคในการรวบรวมเสียงในการตั้งรัฐบาล สิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้คือ ใครที่ได้เสียงข้างมากในสภาฯ ควรได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน วันนี้ฝ่ายรัฐบาลมีกลไกทุกอย่างในมือ ทั้ง 250 ส.ว.ที่เป็นกลไกลที่ถูกวางเอาไว้ แต่สำหรับการได้เสียงข้างมาก รัฐยังต้องการ 251 เสียง จึงจะบริหารประเทศได้ เชื่อว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้ 251 เสียง ไม่เช่นนั้นคงจะประกาศออกมาแล้ว ในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้พบปะพูดคุยกับพรรคการเมืองต่างๆ ไปบ้างแล้ว ล้วนเป็นไปในทิศทางที่ดี ส่วนจะถึง 376 เสียงหรือไม่ เรายังมีเวลาถึง 9 พ.ค. ในวันนี้เรายังเชื่อมั่นและมีหวังอย่างเต็มเปี่ยม เชื่อว่าขณะนี้ฝ่ายรัฐบาลยังไม่ได้ 251 เสียง เชื่อว่าอีก 300 กว่าเสียง อยากเห็นเป็นไปตามเจตนารมณ์ในการเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าทุกคนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่าหากพบสิ่งที่ผิดปกติมากหลายๆ เขต หวังจะให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราหวังให้การเลือกตั้งครั้งนี้เสรี เป็นธรรม ให้คนไทยและนานาประเทศยอมรับ อะไรที่ไม่ถูกต้องก็อยากทำให้ถูกต้อง แต่ยังสงสัยเรื่องที่ กกต.ประกาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อออกมาได้ แต่ประกาศคะแนนทั้งหมดที่เอาไปคำนวณเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ได้ รวมถึงบัตรเลือกตั้งพิมพ์ไปเท่าไหร่ พิมพ์โรงพิมพ์อะไร พิมพ์เกินไปเท่าไหร่ ล้วนบอกไม่ได้ บอกเพียงว่าเป็นความลับ ทั้งที่วันนี้ควรตอบได้แล้ว หรือวันนี้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทันสมัยเข้าสู่ระบบ 5จี แต่คงยากไปสำหรับ กกต. จึงยังไม่สามารถประกาศได้ ทั้งที่การเลือกตั้งครั้งที่แล้วจะประกาศได้แล้ว

“วันนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่เรียกร้องอะไร ขอให้ กกต.แถลงออกมาให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัยว่าไปตกแต่งตัวเลขหรือไม่ การตอบว่าไม่มีเครื่องคิดเลข ไม่รู้ว่าใช้ความรู้จากส่วนไหนมาตอบ เรายังไม่คิด เอาเรื่องความไม่ชัดเจนตรงนี้ ไปถึงขั้นล้มการเลือกตั้ง เพียงแค่ต้องการความชัดเจนเพื่อความเป็นธรรม ถ้า กกต.เคลียร์ไม่ได้ ควรต้องรับผิดชอบ” นายภูมิธรรมกล่าว


เมื่อถามว่าฝ่ายประชาธิปไตย ตอบรับกับพรรคเพื่อไทยไปเท่าไหร่แล้ว นายภูมิธรรมกล่าวว่า เร็วๆ นี้จะได้ฟังข่าวดี ขณะนี้มีความคืบหน้าอยู่เรื่อยๆ ก่อนกล่าวทีเล่นทีจริงกับสื่อมวลชนว่า “พรุ่งนี้จะมีข่าวดี”

เมื่อว่า ในการหาเสียงพรรคชูให้คุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกฯ และตอนยื่นแคนดิเดตนายกฯ พรรคก็ส่งแคนดิเดตนายกฯ ถึง 3 คน แล้วจะยกตำแหน่งนี้ให้คนจากพรรคอื่น นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตรงนี้คุยกันได้ ไม่มีปัญหา การตั้งรัฐบาลอยู่ที่เราต้องการยืนยันในเจตนารมณ์ประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศออกไปจากสถานการณ์เดิมๆ ที่เป็นมาอยู่ 5 ปี เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญสุด ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องรอง

เมื่อถามถึงข้อกังวลกรณียุบพรรคเพื่อไทยหลังจากนี้อาจถูกหยิบยกขึ้นมาอีก นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องคดียุบพรรคตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า เราได้ชี้แจงไปหมดแล้วซึ่งไม่น่าจะมีประเด็นยุบพรรค แต่หากยังมีความพยายามที่จะใช้กระบวนการนี้ทำให้เกิดขึ้น เชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอมจะลุกขึ้นต่อสู้กับเราและจะเป็นผู้โอบอุ้มเรา



กำลังโหลดความคิดเห็น