xs
xsm
sm
md
lg

มาแล้ว ระเบียบ ก.คลัง จ้างลูกจ้างหน่วยราชการเงินนอกงบประมาณ ปี 62 ปรับใหม่พรึ่บ! เว้นบังคับลูกจ้าง-พนง.สาธารณสุข

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


มาแล้ว ระเบียบ ก.คลัง จ้างลูกจ้างหน่วยราชการ จากเงินนอกงบประมาณ ปี 62 ปรับใหม่เกณฑ์กำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการจ้างลูกจ้าง หลังยกเลิกระเบียบเดิมที่บุคลกรสาธารณสุข-การศึกษา แสดงความกังวล ตัดไม่ให้ใช้บังคับแก่ลูกจ้าง หรือพนักงานสาธารณสุข หน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกประเภท ให้หน่วยราชการยื่นหนังสือขออนุมัติอย่างช้าไม่น้อยกว่า 2 เดือนก่อนว่าจ้าง เผยภายในวันที่ 1 พ.ค. 62 ทุกส่วนราชการต้องรายงานการจ้างลูกจ้างทุกขั้นตอนให้กรมบัญชีกลางรับทราบ

วันนี้ (20 มี.ค.) มีรายงานจากกระทรวงการคลัง ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงการคลังได้เวียนหนังสือถึงหน่วยราชการทั่วประเทศ ประกาศยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ พ.ศ. 2561 ภายหลังมีคำสั่งชะลอการบังคับใช้ระเบียบเพื่อบริหารลูกจ้างจากเงินนอกงบประมาณให่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ล่าสุดมีการปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณฉบับใหม่

ล่าสุด อธิบดีกรมบัญชีกลางได้ลงนามในหนังสือวันที่ 5 มี.ค. 2562 เรื่องแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการจ้างลูกจ้าง โดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ ถึงหัวหน้าส่วนราชการทุกแห่งตามที่กระทรวงการคลังได้กำหนดระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างลูกจ้าง โดยใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ 2562 “ข้อ 8 กำหนดให้ส่วนราชการหรือมหาวิทยาลัยใดที่ต้องการจ้างลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณให้ยื่นคำขอมายังกรมบัญชีกลางเห็นชอบและทำความตกลงกันก่อน”

ทั้งนี้ สาระสำคัญประกอบด้วย ขั้นตอนการอนุมัติการจ้างลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ ให้ส่วนราชการระดับกรมและมหาวิทยาลัยขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังคือ กรมบัญชีกลาง โดยยื่นหนังสือขออนุมัติอย่างช้าไม่น้อยกว่า 2 เดือนก่อนว่าจ้าง พร้อมกับบัญชีการว่าจ้างที่มีรายละเอียดตำแหน่งและค่าใช้จ่ายในการว่าจ้าง ซึ่งอาจจะเป็นการจ้างต่อในอัตราเดิม หรือจ้างใหม่ที่ต้องใช้กำลังเพิ่มขึ้นโดยต้องชี้แจงค่าใช้จ่ายกรณีที่มีการจ้างสูงกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำด้วย

นอกจากนี้ รายงานการจ้างลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2562 ให้หน่วยงานแสดงข้อมูลอย่างน้อยประกอบด้วย เพื่อกระทรวงการคลังจะได้มีฐานข้อมูลในการจ้างลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณจากปัจจุบันที่ไม่มีข้อมูลเลย

มีรายงานว่า ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ พ.ศ. 2562 เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการจ้างลูกจ้าง โดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ โดยในข้อ 4 ระบุว่า ระเบียบนี้ไม่ใช้บังคับแก่ “ลูกจ้าง หรือพนักงานกระทรวงสาธารณสุข” ของหน่วยบริการ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ลูกจ้างของทุนหมุนเวียน และลูกจ้างที่มีลักษณะเป็นการจ้างเอกชนดำเนินงานของส่วนราขการ

ข้อ 6 อัตราค่าจ้าง ให้จ้างในอัตราค่าจ้างไม่เกินอัตราค่าจ้างขั้นตํ่าของตำแหน่งและวุฒิการศึกษา และไม่มีการเลื่อนขั้นค่าจ้าง กรณีที่ส่วนราชการหรือมหาวิทยาลัยมีความประสงค์จะจ้างลูกจ้างรายใหม่หรือรายเติม สูงกว่าอัตราค่าจ้างตามวรรคหมื่ง ให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังตามแนวทางปฏิบัติที่กรมบัญชีกลางกำหนด

ข้อ 7 การจ่ายค่าจ้าง ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการจ่ายค่าจ้างลูกจ้างของส่วนราชการ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยอนุโลม ข้อ 8 ส่วนราชการ หรือมหาวิทยาลัยใดต้องการจ้างลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ ให้ยื่นคำขอไปที่กรมบัญชีกลางตามแนวทางปฏิบัติที่กรมบัญชีกลางกำหนด

ข้อ 9 หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลลูกจ้างให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติการจ้างลูกจ้างชั่วคราวจากเงินงบประมาณโดยอนุโลม ข้อ 10 ในกรณที่ส่วนราชการหรือมหาวิทยาลัยมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้วินิจฉัย และในกรณที่ส่วนราชการหรือมหาวิทยาลัยไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบนี้ได้ ให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง

“สำหรับการจ้างลูกจ้างในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ให้ส่วนราชการหรือมหาวิทยาลัยจ้างลูกจ้างได้ ตามกรอบอัตราและอัตราค่าจ้างเดิมที่หัวหน้าส่วนราชการหรือมหาวิทยาลัยได้อนุมัติต่อไป โดยให้ส่วนราชการรายงานการจ้างลูกจ้างดังกล่าว ให้กรมบัญชีกลางทราบ ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2562”

มีรายงานว่า เมื่อปีที่ผ่านมาบุคลากรด้านสาธารณสุขและการศึกษา ออกมาแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง ต่อระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ พ.ศ. 2561 ซึ่งมีประเด็นพิพาทในประเด็นที่บังคับให้ค่าจ้างไม่มากกว่าเงินเดือนขั้นต่ำและการหลีกเลี่ยงใช้เงินส่วนนอกงบประมาณว่าจ้างพนักงาน โดยเฉพาะแสดงความกังวล ใน ข้อ 5 กรณีส่วนราชการหากมีความจำเป็นต้องจ้างพนักงานหรือลูกจ้างให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังก่อน โดยต้องแสดงเหตุผล ความจำเป็น เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย

ข้อ 6 ระยะเวลาการจ้าง ให้จ้างได้ไม่เกินปีงบประมาณ หรือตามระยะเวลาที่กระทรวงการคลังอนุญาต สำหรับอัตราค่าจ้าง ให้จ้างได้ไม่เกินอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของตำแหน่งและวุฒิ และไม่มีการเลื่อนขั้นค่าจ้าง และข้อ 7 ให้ส่วนราชการรายงานการจ้างพนักงานหรือลูกจ้าง ทั้งจำนวนอัตราและจำนวนงินค่าจ้างให้กรมบัญชีกลางทราบทุกสิ้นปีงบประมาณ หรือสิ้นระยะเวลาการจ้างที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง โดยให้รายงานภายใน 30 วัน นับจากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

จนกระทรวงการคลังต้อง มีหนังสือเพื่อชะลอการใช้ระเบียบนี้เมื่อปีที่ผ่านมา



กำลังโหลดความคิดเห็น