นายกฯ พร้อม “อองซานซูจี” เป็นประธานร่วมเปิดสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามแม่น้ำเมย/ตองยิน แห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก อำนวยความสะดวกคมนาคมค้าขายระหว่างสองประเทศ ตอกย้ำการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางธรรมชาติระหว่างกัน พร้อมหารือแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า
วันนี้ (19 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางอองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาได้เป็นประธานร่วมในพิธีฉลองเปิดสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามแม่น้ำเมย/ตองยิน แห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก โดยฝ่ายไทยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมในพิธี ขณะที่ทางสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) มีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เข้าร่วมพิธี บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เดินทางมาเป็นประธานร่วมในพิธีฉลองการเปิดสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามแม่น้ำเมย/ตองยิน แห่งที่ 2 รวมทั้งได้พบปะเจรจากับกับนางอองซานซูจีในวันนี้ ซึ่งความป็นมาของการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ได้รับความร่วมมือจากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศ จนทำให้สะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ แสดงถึงสายสัมพันธ์อันดียิ่งระหว่างสองประเทศ และตอกย้ำการเป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์โดยธรรมชาติ” บนพื้นฐานการเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่มีโอกาสในการส่งเสริมผลประโยชน์แห่งชาติร่วมกัน
นายกรัฐมนตรีไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตอันใกล้เมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินพิธีการทางกฎหมายข้ามแดน ระหว่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย มีการเปิดให้ประชาชน ยานพาหนะและสินค้าต่างๆ ข้ามแดนได้แล้ว หน่วยงานไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์จะยังคงประสานและปฏิบัติงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างดีเช่นนี้ตลอดไป
นายกรัฐมนตรีขอบคุณในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและตัวแทนประชาชน ที่ทั้งสองประเทศจะมีเส้นทางการคมนาคมขนส่งเส้นทางหลักเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช่องทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ในปัจจุบัน ซึ่งมีถึง 5 กรอบความร่วมมือด้วยกัน และในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ประชาชนไทยและพม่ามีการไปมาหาสู่และพึ่งพากันและกันและใกล้ชิดกันมากขึ้น ในอนาคตข้างหน้ายืนยันว่าแนวทางการดำเนินงานความร่วมมือของรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์จะยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จริงใจ ใกล้ชิด และมั่นคงตลอดไป
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มีการหารือทวิภาคีกับนางอองซานซูจี บนสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ประเด็นแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยระบุไว้ก่อนการเข้าพบว่าจะมีการประสานความร่วมมือในประเด็นนี้เพื่อลดปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบภาวะฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน ซึ่งนางออง ซาน ซู จี เห็นว่า ปัญหานี้เป็นเรื่องสำคัญและจะสั่งการให้กระทรวงสิ่งแวดล้อมเมียนมาดำเนินการต่อไป และแสดงความสนับสนุนและขอให้กำลังใจไทยในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปีนี้ด้วย
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาพบปะประชาชนในพื้นที่ 8 อำเภอ จ.ตาก ที่มารอต้อนรับ นับ 10,000 คน ที่บริเวณด่านศุลกากร
