xs
xsm
sm
md
lg

ทัพใหญ่ พปชร.ปราศรัย “ร้อยเอ็ด-อุบลฯ-สกลนคร” มั่นใจกวาดที่นั่งอีสานถล่มทลาย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

"อุตตม-สนธิรัตน์-สุริยะ" นำ
ทัพใหญ่ พปชร.ปราศรัย “ร้อยเอ็ด-อุบลฯ-สกลนคร” มั่นใจกวาดที่นั่งอีสานถล่มทลาย “สุรพร” ชูธงดัน “ข้าวหอมทุ่งกุลา” เป็นสินค้าพรีเมี่ยมระดับโลก พร้อมช่วยเงิน “ปลูก-เกี่ยว-เก็บ” ลดรายจ่ายสร้างรายได้ให้พี่น้องชาวนากระเป๋าตุงถ้วนหน้า


นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการบริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่ 18 มี.ค. นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการบริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันที่ 18-23 มี.ค. เป็นช่วงสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง หากนับเป็นการวิ่งแข่ง 400 เมตรถือว่าเป็นการเข้าสู่ช่วงทางตรง 100 เมตรสุดท้าย ซึ่งพรรค พปชร. มีโปรแกรมการลงพื้นที่หาเสียงอย่างเข้มข้นเพื่อนำอุดมการณ์ก้าวข้ามความขัดแย้ง และนโยบายที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำไปบอกกล่าวให้พี่น้องเกษตรกรและประชาชนได้รับทราบทั่วประเทศ

แกนนำผู้ก่อตั้งพรรค พปชร. กล่าวว่า วันที่ 18-20 มี.ค. พรรค พปชร. มีกำหนดการปราศรัยใน 3 จังหวัดใหญ่ภาคอีสาน คือ วันที่ 18 มี.ค. ที่ จ.ร้อยเอ็ด จุดแรกที่สนามฟุตบอลโรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม อ.เสลภูมิ และจุดสองที่ลานสาเกตนคร หน้าบึงพลาญชัย อ.เมือง วันที่ 19 มี.ค. ที่บริเวณศาลากลางหลังเก่า ทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และวันที่ 20 มี.ค. ที่สนามกีฬากลางเทศบาลสว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

นายสุรพร กล่าวต่อว่า การปราศรัยใน 3 จังหวัดนี้นำทีมมาโดย ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคกลาง นายสุพล ฟองงาม กรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง นางวทันยา วงษ์โอภาสี หรือมาดามเดียร์ นางจุรีพร สินธุไพร นายเวียง วรเชษฐ์ นางจุรีพร สินธุไพร รวมทั้งบรรดาผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด 7 เขต อุบลราชธานี 10 เขต และสกลนคร 6 เขต มาขึ้นเวทีปราศรัยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และด้วยกระแสของพรรคที่ดีวันดีคืน รวมทั้งการตอบรับของพี่น้องประชาชนที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค จะเป็นแรงสนับสนุนให้พรรคได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในภาคอีสานและทั่วประเทศ

อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด หลายสมัย กล่าวว่า ไฮไลท์สำคัญก่อนการขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.ร้อยเอ็ด คือในช่วงบ่ายพรรคจะจัดงาน “ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้” โดยพรรคมีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้กลายเป็น “ข้าวหอมระดับพรีเมี่ยม” ที่ทุกคนในโลกหากต้องการรับประทานข้าวหอมมะลิต้องยกให้ข้าวหอมทุ่งกุลาร้องไห้เป็นอันดับหนึ่งและมีราคาผลผลิตสูงเพื่อให้ชาวนาใน 5 จังหวัดทุ่งกุลาร้องไห้ คือ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ได้ลืมตาอ้าปากอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันพรรค พปชร. มีนโยบายสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อลดต้นทุนให้พี่น้องชาวนาเรียกว่า นโยบาย “เก็บ-เกี่ยว-ปลูก” โดยช่วยค่าปลูกไร่ละ 1,500 บาท จำนวน 20 ไร่ ช่วยค่าเกี่ยวจากเดิมไร่ละ 1,500 บาท ไม่เกิน 12 ไร่ เพิ่มเป็นไร่ละ 2,000 บาท จำนวน 20 ไร่ และช่วยค่าเก็บในยุ้งฉางอีกตันละ 1,500 บาท

“พรรคพลังประชารัฐนอกจากจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรที่เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญให้เงินทุกบาททุกสตางค์ตกถึงมือพี่น้องเกษตรกรได้มีเงินเก็บเหลือกินเหลือใช้แล้ว เรายังคิดนโยบายเป็นระบบโดยมีการช่วยลดต้นทุนด้วยการช่วยค่าเตรียมดิน ค่าเกี่ยว และค่าเก็บรักษาเพื่อรอขายในช่วงที่ข้าวราคาดี เชื่อว่านโยบายของพรรคจะทำให้ข้าวหอมมะลิทั่วไปราคาไม่ต่ำกว่า 18,000 ต่อตัน ส่วนข้าวเจ้าตันละ 10,000 บาท นอกจากนี้พรรคยังมีนโยบายพักหนี้กองทุนหมู่บ้านอีก 3 ปีเพื่อให้พี่น้องเกษตรกรนำเงินไปหมุนซื้ออุปกรณ์ทางการเกษตรซึ่งพรรคก็มีแนวนโยบายให้สถาบันการเงินสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ พี่น้องทุ่งกุลาและชาวนาทั่วประเทศจะกระเป๋าตุงด้วยนโยบายที่จับต้องได้และทำได้ทันที” นายสุรพร ระบุ.


กำลังโหลดความคิดเห็น